NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 901 เธอมาทำไม

บทที่ 901 เธอมาทำไม

ในใจพ่อบ้านเฒ่าเย็นยะเยือกเพิ่มขึ้น กังวลและโมโหชิวเฉิงหลี่ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ทำได้แค่พูดอย่างนอบน้อม: “ไม่กล้า!”

พูดจบ เขาก็แอบถอนหายใจในใจอย่างไร้เสียง

ส่วนสีหน้าของไท่ซางในเวลานี้กลับเป็นทุกข์

ที่จริงเขาคิดว่าจะใช้ช่วงตอนที่หลี่ฝางไปพักผ่อนที่เรือน3แล้วตนจะแว๊บออกไปเดินเล่น แต่สุดท้ายหลี่ฝางก็อ้อยอิ่งอยู่ที่ห้องของเขาไม่ยอมไปไหน ไม่แม้แต่จะเดินไปทางเรือน3เลยสักก้าว

ไท่ซางคิดอยู่ครู่ แล้วพูดอย่างระมัดระวัง: “ลูกพี่ พวกเราสองคนอยู่แต่ในห้องจะไม่ค่อยดีมั้ย? ไม่แน่อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด”

“ก็ช่างมันสิ ถึงยังไงก็ถูกเข้าใจผิดไปแล้ว” หลี่ฝางพูดแบบไม่แคร์อย่างห่วงตนเอง และจิบชาอย่างสงบนิ่ง

ถึงยังไงคำพูดที่ไท่ซางพูดต่อหน้าพ่อบ้านเฒ่าก็ทำให้พ่อบ้านเฒ่าไม่รู้คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ตอนนี้เขาก็ขี้เกียจจะอธิบายให้เข้าใจแล้ว

ไท่ซางพูดร้องไห้อย่างไม่มีน้ำตา: “ลูกพี่ แบบนี้ไม่ดีมั้ง!”

“หึ นายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายคิดอะไร?” หลี่ฝางเหล่มองไท่ซางไปหนึ่งที่ แล้วพูด: “หลังจากกลับไปเมืองเอกต้องการสาวๆ เท่าไหร่ก็มี ทำไมยังต้องมาคลุกอยู่กับผู้หญิงที่นี่?”

ไท่ซางหัวเราะฮี่ๆ พลางพูด: “นี่มันนี่มัน ไม่เหมือนกันนี่”

“เหอะๆ” หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา ขี้เกียจจะพูดมากกับไท่ซาง และก็ไม่พูด แค่ความหมายเดียว ขอแค่เขาอยู่ที่นี่ ไท่ซางก็อย่าได้คิดจะก้าวออกไปสักก้าวเดียว

ไท่ซางถอนหายใจ และล้มลงนอนบนเตียง ไม่มีความร่าเริงเลยสักนิด

ในตอนนั้น

ด้านนอกห้อง จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมา หลังจากนั้นประตูก็ถูกเคาะ เสียงของพ่อบ้านเฒ่าก็ดังเข้ามาในห้องจากด้านนอก

“ปรมาจารย์ไท่ซางอยู่มั้ยครับ? ผมเอง สะดวกให้เข้าไปมั้ยครับ?”

“เข้ามาเถอะ!” ไท่ซางที่เบื่อๆ ก็ลุกพรึ่บขึ้นมานั่งบนเตียง สองตาข้างเป็นประกาย

พ่อบ้านเฒ่าได้รับคำตอบรับอย่างแน่ชัดแล้ว ไม่นานก็เปิดประตูเข้ามาจากด้านนอก จากนั้นก็ชะงักอยู่ครู่ เมื่อเห็นหลี่ฝางนั่งอยู่ตรงห้องโถง

“กู่ คุณกู่? คุณก็อยู่ด้วยเหรอครับ” พ่อบ้านเฒ่ายิ้มแห้งๆ นัยน์ตากลายเป็นประหลาดใจสุดๆ

เพราะว่าในตอนนั้นไท่ซางยังคงนั่งอยู่บนเตียง ทั้งสองคนนี้……

พ่อบ้านเฒ่าหนาวสั่นขึ้นทันที ทันใดนั้นก็รู้สึกสงสัยว่าแผนใช้สาวสวยล่อลวงสำหรับไท่ซางแล้วสุดท้ายแล้วจะได้ผลมั้ย

“มีเรื่องอะไรเหรอ?” หลี่ฝางแอบถอนหายใจในใจ และแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นสีหน้าแปลกๆ ของพ่อบ้านเฒ่า และถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“คือแบบนี้ครับ” พ่อบ้านเฒ่ารีบพูดอย่างนอบน้อม “เจ้าของบ้านได้ยินว่าปรมาจารย์ไท่ซางมาจากต่างถิ่น เลยเป็นห่วงว่าปรมาจารย์ไท่ซางจะไม่คุ้นชิน จึงตั้งใจส่งผู้น้อยคนนึง มาดูแลปรมาจารย์ไท่ซาง”

ไท่ซางได้ยินแบบนี้ กลับเข้าใจผิด ไม่ได้คิดถึงความหมายในคำที่พ่อบ้านพูดเลย ก็โกรธขึ้นมา

“ทำไมต้องหาคนมาดูแลฉันด้วย? พวกนายดูถูกฉันหรือไง?”

พ่อบ้านเฒ่าถูกไท่ซางด่าไปหนึ่งช็อต ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับไท่ซางยังไงดี

ต่อหน้าคนบื้อขนาดนี้ ยังไงก็อธิบายไม่ชัดเจน!

พ่อบ้านเฒ่าที่หมดหนทางทำได้แค่กวักมือเรียกคนที่อยู่ด้านนอกเข้ามา ไม่นาน หญิงสาวหน้าตางดงามคนนึงก็เดินเข้ามาจากด้านนอก

รูปหน้าของหญิงสาวนั้นงดงาม ลักษณะยังดูโดนเด่น แต่ว่ารูปร่างกลับผอมไปเล็กน้อย มองดูพวกหลี่ฝางทั้งสองอย่างอายๆ ราวกับเขินอายไม่กล้าเจอ

“ทิงหยุน รีบทักทายปรมาจารย์ไท่ซาง” พ่อบ้านเฒ่ารีบพูดเรียก

เสียงของพ่อบ้านเฒ่าไม่ดัง แต่หญิงสาวกลับถูกทำให้ตกใจ จึงรีบผงกหัวแล้วพูดขึ้น: “ปรมาจารย์ไท่ซาง!”

“ดี ดี ดี” สองของข้างของไท่ซางจ้องไปที่หญิงสาว และก็เช็ดน้ำลายที่มุมปากอย่างไม่รู้ตัว

พ่อบ้านเฒ่าเห็นปฏิกิริยาของไท่ซาง ในใจก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก ทันใดนั้นก็ถามขึ้น: “ปรมาจารย์ไท่ซาง คุณต้องการการดูแลจากทิงหยุนหรือไม่ครับ?”

“เอา!เอา!เอา!” ไท่ซางพยักหน้าลงอย่างแรง ลืมสิ่งที่พูดไปเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง

พ่อบ้านเฒ่ายิ้มอย่างประจบ จากนั้นก็พูดกับหญิงสาวเสียงเบา: “ทิงหยุน เธออยู่ที่นี่คอยดูแลรับใช้ปรมาจารย์ไท่ซาง เจ้าบ้านมีคำสั่ง เธอก็ฟังไว้ให้ดี” ถึงแม้พูดแบบนี้ สายตาของพ่อบ้านเฒ่ากลับซับซ้อนขั้นสุด

หญิงสาวพยักหน้า สายตาแข็งๆ ราวกับว่าคนทั้งคนนี้เหมือนกับหุ่นเชิดอย่างนั้น

ไม่นานพ่อบ้านเฒ่าก็ออกไป เดินไปอย่างรวดเร็ว แค่วินาทีเดียวก็ไม่กล้าอยู่ต่อ ถูกไท่ซางทำให้กลัวจริงๆ แล้ว

“เธอชื่ออะไร?” หลังจากพ่อบ้านเฒ่าไป หลี่ฝางก็มองหญิงสาวคนนั้นที่ดูเหมือนไม่สบายใจเล็กน้อย ขมวดคิ้วเบาๆ และถามขึ้น

“ฉันชื่อชิวทิงหยุน” หญิงสาวเงยหน้าและตอบกลับอย่างระมัดระวัง

ไท่ซางเห็นหลี่ฝางเอ่ยปากถาม ในใจก็ช็อก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าไม่ดีแล้ว จึงรีบถามขึ้น: “ลูกพี่ เขาส่งให้ฉันนะ……”

“เธอคือคนตระกูลชิว?” หลี่ฝางไม่ได้ตอบคำถามของไท่ซางเลย แค่ถลึงตาใส่ไท่ซาง จากนั้นก็ถามชิวทิงหยุนต่อ

“ใช่แล้ว” ชิวทิงหยุนพยักหน้าตอบรับ

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกสงสัยและไม่เข้าใจเล็กน้อย

ตระกูลชิวทำไมถึงได้ใช้คนรุ่นหลังในตระกูลมาเป็นเหยื่อ เพียงเพื่อที่จะประจบประแจงไท่ซางงั้นเหรอ? ความสามารถที่ไท่ซางแสดงออกมาก็แค่ปรมาจารย์เท่านั้น มันยังไม่คู่ควรกับตระกูลชิวมั้ง?

“ชิวเฉิงหลี่ให้เธอมาทำอะไร?” หลี่ฝางถามต่อ

เขาดูข้อมูลของตระกูลชิว จึงได้รู้ว่าตอนนี้ใครเป็นหัวหน้าตระกูลชิว

“เจ้าบ้านให้ฉันฟังคำสั่งของปรมาจารย์ไท่ซางทุกอย่าง” ชิวทิงหยุนรีบตอบกลับอย่างเสียงเบาและนอบน้อม ราวกับหวาดกลัว ร่างกายทั้งร่างสั่นขึ้นเล็กน้อย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท