NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 921 ข่าวสายตรง

บทที่ 921 ข่าวสายตรง

“ตรงจัตุรัสนั้นเป็นนักศิลปะต่อสู้ธรรมดา ปรมาจารย์ทั้งสองสูงส่งขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องนั่งบนที่นั่ง จะมาเบียดเสียดกับนักศิลปะต่อสู้ธรรมดาๆได้ยังไงกัน”พ่อบ้านชราอธิบายอย่างสบายๆ

หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม รู้สึกแปลกๆกับสิ่งที่พ่อบ้านชราพูด

แม้ที่พ่อบ้านชราพูดเหมือนไม่มีปัญหาอะไร

ทว่าหลี่ฝางก็ไม่ได้พูดอะไร แต่หันไปขยิบตาให้ไท่ซางเงียบๆ ไท่ซางเข้าใจทันที ออกไปกับพ่อบ้านชราก่อน

หลี่ฝางไม่ได้กังวลว่าไท่ซางจะประสบอันตราย ที่ตระกูลชิวแห่งนี้นี้ เกรงว่าไม่มีใครสามารถคุกคามไท่ซางได้

ยิ่งไปกว่านั้นหลี่ฝางก็อยู่ด้วย ทันทีที่มีอันตรายเขาจะรู้ทันที

ไท่ซางเห็นหลี่ฝางเห็นด้วย ก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล หันเดินไปอีกด้านหนึ่ง

พ่อบ้านชราที่อยู่ด้านหลังเห็นก็ตะโกนทันที:“ปรมาจารย์ไท่ซาง ผิดแล้ว ทางนี้ครับ!ไปผิดทางแล้ว!”

ไท่ซางหยุดก้าวเท้า หันไปพยักหน้าแล้วเดินไปทางที่พ่อบ้านชราชี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พ่อบ้านชราถอนหายใจโล่งอก มันไม่ง่ายเลย แล้วเตรียมเดินจากไป

“เราไปพร้อมกันได้ไหม?”ทันใดนั้นเสียงของหยูหลิงฮุ่ยดังขึ้นจากด้านหลัง

ตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่เธอจะปีนขึ้นไปผูกสัมพันธ์กับไท่ซางได้ ไม่อยากปล่อยไปแม้แต่วินาทีเดียว อยากตัวติดกับไท่ซางไปตลอด

“ขอโทษด้วยครับ เจ้าบ้านเราเชิญแค่ปรมาจารย์”พ่อบ้านชรามองหยูหลิงฮุ่ยพลางพูดอย่างเรียบเฉย“คนอื่นๆกรุณารอที่จัตุรัสครับ”

คำพูดนี้ไม่เพียงพูดกับหยูหลิงฮุ่ย แต่พูดกับหลี่ฝางด้วย

เขาไม่อยากให้หลี่ฝางจู่ๆพาไท่ซางไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นพ่อบ้านชราไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว

หยูหลิงฮุ่ยไม่มีทางอื่น ทำได้เพียงพยักหน้า เดินไปยังจัตุรัสด้านหลังกับหลี่ฝางอย่างว่าง่าย

ตอนนี้หยูหลิงฮุ่ยได้คาดเดาเกี่ยวกับหลี่ฝาง คิดว่าเขาน่าจะเปิดบังตัวตนไว้เช่นกัน เพียงแต่หยูหลิงฮุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่ฝางต้องทำแบบนี้

ทว่าคำกำชับของไท่ซางตอนนี้ยังคงก้องอยู่ในหู หยูหลิงฮุ่ยไม่ซักกล้าถามมั่วซั่ว เพื่อไม่ให้หลี่ฝางไม่สบายใจ ถ้าบอกไท่ซางเธอคงลำบากอีก

ขณะนี้ในจัตุรัสเต็มไปด้วยกลุ่มคน30-50เปอร์เซ็นต์ พูดคุยกันเจื้อยแจ้ว ดูครึกครื้นกันเลยทีเดียว

หลี่ฝางไม่อยากเพิ่มความลำบาก จึงพาสองสาวมาตรงมุมอับสายตา รอการประชุมศิลปะการต่อสู้เปิดอย่างเป็นทางการ

แม้จะสงสัยจุดประสงค์ของตระกูลชิวมาตลอดทาง แต่หลี่ฝางกลับจับต้นชนปลายไม่ถูกจนถึงตอนนี้ หันไปมองชิวทิงหยุนพลางถามลองเชิง:“คุณรู้ไหมว่าช่วงนี้ตระกูลชิวมีการเคลื่อนไหวผิดปกติอะไรบ้าง?”

ชิวทิงหยุนส่ายหน้า พูดด้วยสีหน้าขมขื่น:“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ตอนนี้เธอไม่มีจุดยืนในตระกูลชิว ไม่ถูกรังแกก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับการได้รับข้อมูล

“แต่ว่า……”ชิวทิงหยุนลังเลครู่หนึ่ง พูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ“ช่วงก่อนหน้านี้ เหมือนจะมีคนจำนวนมากมาเยี่ยมเยือนตระกูลชิวมากกว่าปกติเป็น10เท่า เหมือนกำลังปรึกษางานใหญ่อะไรกัน”

“โห?”

หลี่ฝางแปลกใจเล็กน้อย แล้วก็พอจะเดาได้ทันที

อิงจากที่เซ่เฉียงพูด ถ้าตระกูลชิวจะสร้างพันธมิตรอะไรขึ้นมาจริงๆ งั้นที่ชิวทิงหยุนพูดเมื่อครู่ก็มีเค้าโครงแล้วล่ะ

บางทีตระกูลอาจต้องการสร้างพันธมิตร ที่สามารถต่อต้านกับต้าเซี่ยหลงเช่วได้

แต่ที่ทำให้หลี่ฝางไม่เข้าใจคือ เรื่องนี้ทำไมตระกูลชิวต้องเป็นคนเริ่ม ตระกูลชิวมีสิทธิ์และศักยภาพนี้งั้นเหรอ?

ทั้งตระกูลชิวมีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แค่สองคนเท่านั้น ศักยภาพเช่นนี้ ถ้ามองในสายตาคนทั้งประเทศนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย แม้แต่ตระกูลอันดับหนึ่งยังเข้าไปไม่ได้

นอกซะจาก……ตระกูลชิวกำเนิดปรมาจารย์กำลังภายในขึ้น

ข่าวลือที่คิดโยงไปถึงก่อนหน้านี้ ดวงตาหลี่ฝางเป็นประกายคาดเดา

ขณะหลี่ฝางกำลังครุ่นคิด ก็มีเสียงดังมาจากด้านข้าง

“อ้าว คุณกู่ บังเอิญจังเจอกันอีกแล้ว”

หลี่ฝางเงยหน้ามองก็เห็นจ้าวเหล่าลิ่ว ที่เดินมาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ตอนนี้จ้าวเหล่าลิ่วอารมณ์ดีมากจริงๆ เมื่อวานเขาทำเงินจากหลี่ฝางได้ถึง16ล้าน รอบนี้ทำกำไรได้เยอะมาก ดังนั้นเมื่อเจอนหลี่ฝางก็อย่างกับเจอเทพเจ้าแห่งโชคลาภอย่างไรอย่างนั้น ดีใจเป็นธรรมดา

เมื่อหลี่ฝางเห็นจ้าวเหล่าลิ่วก็ยิ้มพลางพยักหน้า

ถ้าไม่ใช่เพราะได้กำไรอย่างคาดไม่ถึงเมื่อวาน เขาคงไม่รู้จะทำยังไงจริงๆกับเรื่องที่ประสบวันนี้

ทว่าตอนนี้ เขาที่มีศักยภาพมากมาย รู้สึกสงบลงไปมาก

“คุณกู้เยิ่ยมมากจริงๆ เมื่อวานพาสาวสวยมาคนหนึ่ง วันนี้เพิ่มอีกคนหนึ่ง”จ้าวเหล่าลิ่วเดินเข้าไป มองสองสาวข้างๆหลี่ฝาง พลางพูดอย่างอิจฉา

“แหม่ คุณกู้ สาวของคุณนี่ขายไหม ผมขอซื้อสักคนได้ไหม?”จ้าวเหล่าลิ่วพูดหยอกล้อปนไปด้วยความอิจฉา

“ขาย ขายสิ”หลี่ฝางยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้“สองคนนี้คนหนึ่งเป็นคุณหนูตระกูลชิว อีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิงของปรมาจารย์ คนอยากได้คนไหนล่ะ?”

“ห้ะ?”จ้าวเหล่าลิ่วถึงกับชะงัก

ให้เขาแย่งผู้หญิงกับปรมาจารย์ไท่ซาง หรือให้เขาซื้อคุณหนูตระกูลชิวงั้นเหรอ?

เขาจ้าวเหล่าลิ่วยิ่งมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเลยนะ

จ้าวเหล่าลิ่วยิ้มอย่างอึดอัด เกาศีรษะไปมาพลางเปลี่ยนเรื่องพูดทันที:“คุณกู้ คุณรู้ไหมว่าการประชุมใหญ่ครั้งนี้มีชื่อว่าอะไร?”

“ทำไม คุณรู้งั้นเหรอ?”หลี่ฝางมองจ้าวเหล่าลิ่วอย่างประหลาดใจ

“ฮ่าๆ เผอิญ ผมรู้มาก่อน”จ้าวเหล่าลิ่วกระซิบ:“ได้ยินมา……”

“คุณได้ยินข่าวอะไรมา?”

จ้าวเหล่าลิ่วเพิ่งอ้าปากพูด ก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลัง ทำให้เขาหุบปากทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท