ขณะชิวทิงหยุนกำลังตกใจกลัว ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ยื่นมือออกมาวางบนไหล่เธอ
ชิวทิงหยุนรู้สึกสงบลงทันที
สำหรับเธอหลี่ฝางเป็นยอดฝีมือที่ยากจะคาดเดา มีหลี่ฝางคอยช่วย เธอมีอะไรต้องกลัวอีก?
ทันใดนั้น ชิวทิงหยุนพูดอย่างมั่นใจสุดๆ:“ฉันพูดผิดงั้นเหรอ?คุณไม่ใช่ปรมาจารย์นี่”
เมื่อได้ยินชิวทิงหยุนยังกล้าพูด เจ้าสำนักเจิ้งจึงโกรธขึ้นมา
หมัดเจ็ดพิการสืบทอดมาถึงทุกวันนี้ เจ้าสำนักทุกรุ่นล้วนได้ไปถึงปรมาจารย์ มีแต่เขาที่ติดอยู่ที่แดนสุดกำลังภายนอก หาทางก้าวเป็นปรมาจารย์ไม่เจอ
เจ้าสำนักเจิ้งถึงขนาดมีลางสังหรณ์บางอย่าง ว่ากำลังแฝงของตนหมดไปแล้ว ชาตินี้ไม่อาจไปถึงระดับปรมาจารย์ได้
ดังนั้งเขาจึงเกลียดคนที่พูดเรื่องนี้มากมาตลอด คนรอบข้างส่วนมาก็รู้เรื่องนี้ ไม่ไปทำให้เขาไม่พอใจ แต่กลับเจอคนที่ไม่รู้จักเขาแม้แต่น้อยในศึกชิงจ้าวยุทธภพแห่งนี้มาพูดแทงใจดำเขา
“สาวน้อย เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร?บอกฉันหน่อย”เจ้าสำนักเจิ้งทำหน้าเคร่งขรึม เป็นการตักเตือนชิวทิงหยุน นี่มันผู้ใหญ่รังแกผู้น้อย เพื่อไม่ให้เสียสถานะเขาจึงจะถามก่อนแล้วค่อยวางแผน
“ฉันชื่อชิวทิงหยุน เป็น……”ชิวทิงหยุนกำลังจะบอกสถานะ จู่ๆพูดเสียงดังขึ้นอย่างโชคเข้าข้าง:“ฉันเป็นลูกศิษย์ของคุณกู่!”
หลี่ฝางอึ้งไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าชิวทิงหยุนจะตอบแบบนี้ แต่พอเขาก้มลงไปมอง ก็เห็นชิวทิงหยุนกำลงัมองตนอยู่พอดี สายตาเต็มไปด้วยความหวังและภาวนาขอ
“คุณกู่?”เจ้าสำนักเจิ้งมองตามสายตาชิวทิงหยุนไปที่หลี่ฝางเช่นกัน
เจ้าสำนักเจิ้งไม่เคยเจอหลี่ฝาง แล้วตอนนี้หลี่ฝางปลอมตัวอยู่นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เจ้าสำนักเจิ้งยิ่งมองไม่ออกเข้าไปอีก
อีกทั้งหลี่ฝางยังไม่มีพลังแข็งแกร่งอะไร ยิ่งทำให้เจ้าสำนักเจิ้งฉงน คิดว่าหลี่ฝางเป็นแค่คนที่มีพลังต่ำต้อยไม่งั้นจะอยู่ในจัตุรัสทำไม
ขณะเจ้าสำนักเจิ้งมองสำรวจหลี่ฝาง หลี่ฝางก็มองสำรวจเจ้าสำนักเจิ้งเช่นกัน
ยิ่งพลังแข็งแกร่ง สายตาการมองคนของหลี่ฝางก็ยิ่งแม่นยำขึ้น สามารถเห็นได้ว่าพลังแฝง ของเจ้าสำนักเจิ้งหมัดเจ็ดพิการตรงหน้านี้ผู้นี้ ได้หายไปหมดแล้ว
เส้นทางการเป็นนักศิลปะการต่อสู้ของเขามาถึงแค่นี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เกรงว่าชาตินี้เขาคงไม่อาจก้าวขั้นได้อีก
นี่ไม่ใช่แค่พรสวรรค์ไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะตอนวัยรุ่นเขาไม่ตั้งใจบนเส้นทางศิลปะการต่อสู้ จึงไม่อาจไปถึงจุดที่สูงกว่านี้ได้ จนกระทั่งมาถึงอายุปูนนี้ พลังแฝงของเขาได้หมดไปแล้ว
และเพราะเจ้าสำนักเจิ้งหมัดเจ็ดพิการไม่รู้จักหลี่ฝาง จึงสงสัยในความสามารถของเขา ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้:“สหายผู้นี้ คุณมาจากสำนักไหน?”
ได้ยินเช่นนั้น หลี่ฝางยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้แล้วพูด:“ชาตินี้คุณไปถึงระดับปรมาจารย์ไม่ได้แล้วล่ะ อย่าเปลืองแรงเปล่าเลย”
ทันทีที่พูดออกมา ผู้คนรอบๆก็ตกตะลึงทันที
“บ้าไปแล้วเหรอ หมอนี่กล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?”
“เขาอยากตายงั้นเหรอ?”
“จบแล้ว หมอนี้จบเห่แล้ว พวกเราถอยไปห่างๆหน่อยจะดีกว่า เดี๋ยวเลือดสาดกระเด็นเต็มตัว”
คำพูดของหลี่ฝางดึงความสนใจเป็นอย่างมาก สายตาของผู้คนรอบข้างอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที อยากดูว่าจุดจบของหลี่ฝางจะเป็นยังไง
ส่วนเจ้าสำนักเจิ้ง ตอนนี้สีหน้าดูไม่ได้ถึงขั้นสุด แล้วยิ่งได้ยินที่หลี่ฝางพูดอีก เขายิ่งเดือดเข้าไปใหญ่ ฟาดมือลงไปอย่างไม่ลังเล เพื่อจะให้บทเรียนที่ไม่มีวันลืมแก่หลี่ฝาง
ทว่าเขาเพิ่งง้างมือขึ้น ก็โดนหลี่ฝางยันไว้เบาๆ ขณะเดียวกัน กำลังภายในแสนนุ่มนวลก็ส่งออกมาจากมือเขา ผ่านเข้าไปในร่างกายเจ้าสำนักเจิ้ง
หลังจากรับรู้ได้ถึงกำลังภายในนี้ เจ้าสำนักเจิ้งหน้าเปลี่ยนสีไปเลย
แม้พลังของเขาไม่ได้สูงนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าประสบการณ์เขาไม่เยอะ ในฐานะที่เป็นเจ้าสำนักของหมัดเจ็ดพิการ เขารู้จัก“พลัง”ที่เข้าไปในตัวเขาดีว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร!
มันคือกำลังภายใน!
คิดไม่ถึงว่าคนที่ยืนตรงหน้าเขาจะเป็นปรมาจารย์กำลังภายใน!
อีกทั้งเมื่อครู่ตนยังรนหาที่ตาย ลงมือกับปรมาจารย์กำลังภายในอีก!
คิดได้เช่นนั้น เจ้าสำนักเจิ้งก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที เจียมตัว เผยสายตาขอร้องให้ยกโทษให้ออกมา
หลี่ฝางยังไม่อยากเปิดเผยตัวตน ดังนั้นเมื่อเห็นเจ้าสำนักเจิ้งขอให้ยกโทษให้ ก็ยิ้มออกมาเบาๆแล้วปล่อยมือเขา
เจ้าสำนักเจิ้งดีใจขึ้นมาทันที ส่งสายตาขอบคุณให้หลี่ฝาง จากนั้นเดินหายเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว
ฝูงชนที่ยังรอดูละครฉากนี้ เห็นเช่นนั้นก็ตกตะลึง ถึงขนาดไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆเจ้าสำนักเจิ้งถึงออกไป?”
“คงไม่ใช่เพราะกลัวหรอกใช่ไหม?หรือวันนี้เจ้าสำนักเจิ้งสุขภาพไม่ดี?”
“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เจ้าสำนักเจิ้งสุขภาพไม่ดียังไง ก็จัดการนักศิลปะต่อสู้กระจอกๆคนเดียวได้ง่ายๆไม่ใช่เหรอ?”
“ผมว่าเจ้าสำนักเจิ้งคงหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่อยากรังแกรุ่นเด็กกว่า!”
“ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เจ้าสำนักเจิ้งท่านนี้เป็นคนมีคุณธรรมในการต่อสู้จริงๆ!”
ผู้คนรอบๆถกกันเซ็งแซ่ พูดอย่างมีหลักการ แต่กลับไม่มีใครทายถึงความจริงได้สักคน
ช่วยไม่ได้ เพราะความจริงมันยากที่คนจะเชื่อไปมาก
ใครจะไปคิดว่าหลี่ฝางเป็นปรมาจารย์กำลังภายในล่ะ?
ส่วนชิวทิงหยุนก็พูดขึ้นอย่างดีอกดีใจ:“อาจารย์ เจ้าสำนักเจิ้งกลัวคุณจนหนีไปแล้ว”
หลี่ฝางยิ้มเบาๆ ไม่ได้โกรธที่ชิวทิงหยุนพูดเองเออเองเรียกเขาว่าอาจารย์ กลับกันคือพยักหน้าเบาๆ เหมือนเป็นการตอบ ทำเอาชิวทิงหยุนระเบิดความปิติในใจออกมาทันที
เธอรู้ว่าตนนั้นพลันถูกแล้ว