“เป็นไง เจ้าสำนักทุกท่าน ตอนนี้พวกคุณยังมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม?”ชิวเฉิงหลี่ยิ้มพลางรับพลังที่ชิวจงเทียนสร้าง หันไปยังผู้คนด้านล่างพร้อมถามขึ้น
เจ้าสำนักเจิ้งและคนอื่นๆเงียบลง เข้าใจแล้วว่าวันนี้กำลังภายในทั้ง3ท่านออกโรงแล้ว สถานการณ์นี้ได้ข้อสรุปแล้ว ความเห็นของพวกเขาเป็นแค่ตัวเสริมให้เด่นก็แค่นั้น
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกท่าน วันนี้ผมตระกูลชิวจะจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ก่อตั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน!”ในที่สุดชิวเฉิงหลี่ก็แสดงทัศนคติของตัวเองออกมา
“แค่ทุกคนเข้าร่วม ไม่ว่าตระกูลไหนได้รับความลำบากทุกคนก็จะช่วย พึ่งพาอาศัยกัน ได้ประโยชน์และแข็งแกร่งไปด้วยกัน!”
แม้ชิวจงเทียนพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว แต่ทุกคนยังคงลังเล เพราะนี้เป็นการต่อต้านต้าเซี่ยหลงเช่ว
หลายปีมานี้ทุกคนกลัวต้าเซี่ยหลงเช่วกันเข้ากระดูกดำ มันไม่ได้ลบออกไปง่ายๆขนาดนั้น
แม้ตระกูลชิวมีปรมาจารย์กำลังภายในถึง3คน พอต้องให้ทุกคนสู้กับต้าเซี่ยหลงเช่ว ทุกคนก็ยังค่อนข้างกังวล
เห็นเช่นนี้ ชิวเฉิงหลี่ก็หันไปส่งสายตากับคนด้านล่างอีกครั้ง ทันใดนั้นตัวละครหลอกๆก็ทำงานทันที
“ต้าเซี่ยหลงเช่วกดขี่วางอำนาจบาตรใหญ่กับพวกเรามานานพอแล้ว ผมไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว!พอจะเข้าร่วมพันธมิตรนี้!”
“ใช่ ต้าเซี่ยหลงเช่วมีสิทธิ์อะไรยึดครองแหล่งทรัพยากรมากมายขนาดนั้น ผมต้องการต่อต้าน!”
“โลกนี้เป็นแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก คุณไม่สู้ไม่ช้าก็เร็วก็จะโดนกินเหมือนกุ้งตัวเล็กๆ ต้องสู้ไม่ถอยถึงจะปกป้องความแข็งแกร่งของตัวเองได้ ผมร่วมด้วย!”
“ยังไงก็มีปรมาจารย์กำลังภายใน3ท่าน ฟ้าถล่มก็ยังมีคนตัวสูงมองอยู่(ต่อให้เกิดเรื่องไม่ดีก็ไม่ตกถึงตัวเอง) ต่อให้กู่ยี่เทียนมาก็ทำอะไรไม่ได้!”
“ฮ่าๆ พวกเรารวมตัวกันตั้งหลายคน พลังเยอะขนาดไหนกัน?ต้าเซี่ยหลงเช่วแค่จิ๊บๆ!”
ตัวละครหลอกๆพวกนี้จงใจกระจัดกระจายกัน เพื่อให้ผู้คนรู้สึกได้ว่ามีคนพูดตะโกนอยู่ทุกที่ ทันใดนั้นทั้งจัตุรัสก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ดุเดือด พวกคนมีสติน้อยนิดถูกครอบงำไปด้วยความบ้าคลั่งอย่างรวดเร็ว
แม้ต้าเซี่ยหลงเช่วแข็งแกร่งมาก และพลังของกู่ยี่เทียนเหนือชั้นสุดๆ แต่ทุกคนที่อยู่ในจัตุรัสกลับคิดว่า มีผู้คนและยอดฝีมือมากมายขนาดนี้ คงไม่ต้องกลัวต้าเซี่ยหลงเช่วหรอก
คิดเช่นนี้ ทุกคนก็ยิ่งมองโลกในแง่ดีขึ้นเรื่อยๆ เสียงตะโกนก็ยิ่งดังขึ้น
“ผมร่วมด้วย!”
“ผมก็ร่วมด้วย!”
“ฉันด้วย!”
ได้ยินเสียงตะโกนดังกึกก้องของผู้คนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชิวเฉิงหลี่ก็ยิ้มออกมาอย่างชัยชนะ
“โอเค ตอนนี้ทุกคนคงไม่มีความเห็นอะไร กับการตั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้แล้วใช่ไหม?ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็……”
“ผมมีความเห็น!”
ขณะชิวเฉิงหลี่รู้สึกเป็นผู้ชนะ และไม่มีคนในจัตุรัสไม่คัดค้านอะไร ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียบๆดังขึ้น
แม้เสียงนี้ไม่ได้ตะโกน แต่แฝงไปด้วยพลังที่น่าตกใจ กลบเสียงทุกคนลงไปทันที คนในจัตุรัสเยอะขนานั้น คิดไม่ถึงว่าทุกคนจะได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้น ทุกคนก็เกิดความโกลาหล ต่างมองหาที่มาของเสียงโดยอัตโนมัติ
“ใครพูดคัดค้าน!”
ชิวเฉิงหลี่หน้าเปลี่ยนสี เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ขึ้นมาทันที
เขาคิดไม่ถึงว่าแค่คำพูดแบบผ่านๆ ยังมีคนกล้าคัดค้านเขา
ชิวเฉิงหลี่อย่าสับคนที่พูดให้เป็นชิ้นๆ แต่เขากลับตกใจเพราะพบว่าตัวเองหาต้นตอของเสียงไม่เจอเลย
ราวกับเสียงนั้นพูดข้างๆหมุนอย่างไรอย่างนั้น
และคิดจะให้คนด้านล่างหาคนที่พูดก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้
ขณะนั้นเอง ชิวจงเทียนยืนขึ้น
“ในเมื่อคุณกล้าพูด ทำไมต้องลับๆล่อๆด้วย ไม่กล้าเปิดเผยตัวงั้นเหรอ?”
คำพูดของชิวจงเทียนยิ่งทำให้ทุกคนตกใจเข้าไปอีก แทบไม่อยากจะเชื่อว่าขนาดชิวจงเทียนก็หาตัวคนพูดไม่เจอ
ไม่ใช่แค่ชิวจงเทียน แม้แต่กำลังภายในอีกสองคนก็หาร่องรอยของคนที่พูดไม่เจอ ผลลัพธ์แบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจจริงๆ“คะคุณกู่……”
ขณะทุกคนเงียบ ชิวทิงหยุนก็มองหลี่ฝางอย่างเหลือเชื่อ พลางพูดด้วยเสียงสั่นๆ
เพราะสิ่งที่พูดเมื่อครู่ หลี่ฝางเป็นคนพูดเอง
เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆหลี่ฝางถึงพูดขึ้น เพราะนั้นเป็นถึงกำลังภายในทั้ง3ท่าน และปรมาจารย์อีกนับสิบ ความแข็งแกร่งแบบนี้ต่อให้เป็นกู่ยี่เทียน ก็คงไม่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูหรอกใช่ไหม?
แน่นอนว่าสองพ่อลูกตระกูลหยูได้ยินเช่นกัน ที่หลี่ฝางตะโกนเมื่อครู่น่ากลัวสุดๆ ไม่รู้ว่าจู่ๆหลี่ฝางเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา
ที่เขาแสดงออกมาตอนนี้เป็นแค่นักรบกำลังภายนอกกระจอกๆ ไม่ว่าใครบนเวทีก็สามารถฆ่าเขาได้ทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นยอดฝีมือบนเวทีนั้นน่ากลัวมาก และที่พูดก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ มีคนคัดค้านออกมาได้ยังไง?
แม้หยูหลิงฮุ่ยเดาว่าหลี่ฝางเป็นปรมาจารย์กำลังภายในเช่นกัน แต่เผชิญหน้ากับปรมาจารย์กำลังภายใน3คน ก็ไม่ควรกำเริบขนาดนี้ หลี่ฝางคิดอะไรกันแน่?
ตอนนี้หยูหลิงฮุ่ยไม่เข้าใจสิ่งที่หลี่ฝางคิดแม้แต่น้อย
หรือเขาเป็นบ้าไปแล้ว?หรือว่า……เขาคิดว่าพลังของตัวเองแข็งแกร่งกว่ากำลังภายในทั้ง3ท่าน บวกกับปรมาจารย์อีกนับสิบ?