NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่933 ตัวตนของหลี่ฝาง

บทที่933 ตัวตนของหลี่ฝาง

ส้งหมิงและข่งจิ่งยู่ไม่เหมือนกับนักรบกำลังภายนอกธรรมดาๆพวกนั้น วินาทีที่เห็นหน้าตาจริงๆของหลี่ฝางก็จำเขาได้ทันที

เหล่านั้นไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับลำดับรายชื่อปรมาจารย์กำลังภายในมากนัก แม้แต่ปรมาจารย์กำลังภายในอีกหลายคนยังมีมีสิทธิ์ดูเลย แต่พวกเขาที่อยู่ในลำดับรายชื่อปรมาจารย์กำลังภายใน แน่นอนว่าติดตามรายชื่อนั่นมาตลอด

เมื่อไม่นานมานี้ มี10อันดับแรกในรายชื่อปรมาจารย์ ที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายปีแล้ว จากนั้นจู่ๆก็มีชื่อแปลกๆเข้ามาแทนที่ลำดับที่10 อัดจนลำดับที่10เดิมร่วงลงไป

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ แน่นอนว่าถูกเหล่าปรมาจารย์ทุกคนจับตามองในทันที

ส่วนรายชื่อแปลกๆนั่น ก็คือหลี่ฝางผู้ที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัว ในช่วงสงครามในประเทศเมียนมาร์

แม้นั่นไม่ใช่พลังที่แท้จริงของเขา แต่ในเมื่อเขาเอาพลังอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้นออกมาใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นที่รู้จัก ลำดับบนรายชื่อจึงอิงจากพลังของเขาในตอนนั้น บันทึกชื่อเขาลงไปบนรายชื่อ

ดังนั้นจริงๆแล้วตอนนั้นพลังของหลี่ฝางยังไม่ติดลำดับ10 พลังปกติของเขายังห่างไกลจากขั้นนั้นมาก ทว่าตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว

อย่าว่าแต่ลำดับที่10เลย ต่อให้ขึ้นไปอีกกี่อันดับหลี่ฝางก็ทำได้ !

แน่นอนว่าส้งหมิงและข่งจิ่งยู่จำเขาได้สบายๆ แต่ชิวจงเทียนเพิ่งออกจากการจำศีล ไม่รู้เรื่องพวกนี้

“คนผู้นี้เป็นใครกันแน่?”เขารู้สึกถึงความตึงเครียดของเพื่อนทั้งสอง จึงถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

“หลี่ฝาง ปรมาจารย์กำลังภายในลำดับที่10!”ส้งหมิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดขึ้น

“ปรมาจารย์กำลังภายในลำดับที่10ไม่ใช่อสิตาหรอกเหรอ?”

ชิวจงเทียนรู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันใด เพราะเขาจำศีลไปเมื่อ5ปีก่อน และในตอนนั้นหลี่ฝางยังไม่ได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้ แล้วเข้าไปอยู่ในรายชื่อปรมาจารย์กำลังภายในยิ่งไม่ต้องพูดถึง

“เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้”

ข่งจิ่งยู่พูดอย่างจริงจัง:“ช่วงก่อนหน้านี้ หลี่ฝางผู้ที่ไม่ได้อยู่บนรายชื่อเลย สู้กับปรมาจารย์กำลังภายในถึง3ท่านเพียงลำพัง และเอาชนะได้ทั้ง3คน หนึ่งใน3คนนั้นถูกฆ่าตายคาที่ อีกคนหนึ่งก็ถูกจ่ายทรัพย์สินของตระกูลไปมากกว่าครึ่ง ส่วนคนสุดท้ายหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไร้ข่าวคราวใดๆ บางทีอาจจะ……”

คำพูดของข่งจิ่งยู่ ทำเอาชิวจงเทียนเบิกตาโตขึ้นทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ส่วนไท่ซางตรงมุมหนึ่งบนเวทีที่หน้าดำคร่ำเครียด มองข่งจิ่งยู่ด้วยสายตาไม่ดี

ขณะนั้นเอง ในที่สุดชิวจงเทียนก็รู้ถึงตัวตนของชายหนุ่มตรงหน้าสักที

อายุแค่20กว่าๆ แต่เป็นถึงปรมาจารย์กำลังภายในลำดับที่10 พูดได้ว่าอนาคตไกลจริงๆ

แต่สำหรับศัตรูของเขา ชายหนุ่มคนนี้เป็นฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัวสุดๆ

ตอนนี้ชิวจงเทียนค่อยๆรู้สึกเสียใจ เริ่มคิดว่าจะจัดการปัญหานี้ยังไงดี

ส่วนผู้คนในจัตุรัสก็รู้ถึงตัวตนของหลี่ฝาง จากการพูดคุยของทั้ง3คน ทันใดนั้นก็ระเบิดเสียงฮือฮาอย่างเหลือเชื่อขึ้น

ชิวทิงหยุนมองแผ่นหลังที่สูงตระหง่านของหลี่ฝางอย่างตกตะลึง หรี่ตาลงราวกับกำลังอยู่ในความฝัน ความปิติในใจควบคุมไม่ได้โดยสิ้นเชิง

เธอรู้ว่าครั้งนี้เธอชนะพนันแล้วล่ะ ในที่สุดก็สลัดตระกูลชิวที่ราวกับนรกออกไปได้ และเปิดรับชีวิตใหม่ที่สวยงาม

คิดเช่นนั้น น้ำตาก็ไหลออกมาจากหางตาอย่างห้ามไม่ได้

ส่วนสองพ่อลูกตระกูลหยูอีกด้านหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก

ความรู้สึกสูญเสียและเสียใจภายในใจของทั้งสอง เหมือนน้ำในมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด รู้สึกไม่ดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งแล้วเพิ่งมาพบว่าตัวเองทิ้งมันไปแล้วซะอีก

เพราะเป็นถึงปรมาจารย์กำลังภายใน ที่อยู่อันดับที่10บนรายชื่อปรมาจารย์กำลังภายใน มันมีค่ากว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งหลายเท่า

“ปรมาจารย์หลี่!”ส้งหมิงยืนขึ้นเป็นคนแรก

ก่อนหน้านี้ไม่รู้ตัวตนของหลี่ฝางก็ช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้รู้แล้ว จะทำท่าทีแบบก่อนหน้านี้ไม่ได้อีกแล้ว

เขาอยู่ในลำดับที่21ของกำลังภายใน แต่หลี่ฝางอยู่ตั้งลำดับที่10 ห่างกันถึง11อันดับ แม้เขากับหลี่ฝางจะอายุห่างกัน60กว่าปี แต่เขาก็ต้องเคารพหลี่ฝาง

ชิวจงเทียนและข่งจิ่งยู่เห็นส้งหมิงเริ่มขอโทษก่อน พวกเขาก็กุมมือด้วยความเคารพพลางพูด:“ปรมาจารย์หลี่!”

“ไม่สู้กันแล้ว?”หลี่ฝางยิ้มบางๆ แล้วถามขึ้น

พวกเขาทั้ง3ยิ้มเจื่อนๆ เมื่อก่อนหลี่ฝางเคยมีวีรกรรมสู้3ต่อ1 บัดนี้ตรงนี้ก็มี3คนเช่นกัน จะสู้กับหลี่ฝางยังไง?

แต่เรื่องในวันนี้จะจบอย่างไม่รู้แจ้งแจ่มชัดไม่ได้ ทั้งสามลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และเป็นส้งหมิงที่พูดขึ้นก่อน

“ปรมาจารย์หลี่ เราทั้ง3จะยอมให้ท่านชนะได้ แต่ไม่สามารถประนีประนอมกันได้ง่ายๆ พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เป็นแค่ผลประโยชน์ส่วนตัวของพวกเราอีกต่อไปแล้ว แต่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของนักศิลปะการต่อสู้นับพัน พวกเราต้องดำเนินต่อไป หวังว่าปรมาจารย์หลี่จะให้อภัย”

“นี่มันน่าแปลกนัก”หลี่ฝางพูดอย่างอดไม่ได้“พวกเขาทั้งสองล้วนมีครอบครัว เป็นธรรมดาที่ต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว แต่ส้งหมิงคุณไม่มีแม้แต่ลูกหรือญาติสนิทมิตรสหาย คุณทำอย่างถวายหัวแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?”

จากที่หลี่ฝางรู้ ตอนหนุ่มๆส้งหมิงเคยชอบผู้หญิงคนหนึ่ง และเสียคนรักไปในตอนยุทธภพเกิดการโต้แย้งกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีคนรักใหม่อีกเลย ใช้ชีวิตคนเดียวมา10กว่าปี

ดังนั้นหลี่ฝางจึงสงสัย ว่าส้งหมิงสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่อีกสองคนนั้น ก็ไม่ได้มีผลดีอะไรนัก ทำไปเพื่ออะไรกันแน่?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท