NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่936 ชิวเฉิงหลี่เสียสติ

บทที่936 ชิวเฉิงหลี่เสียสติ

ต้าเซี่ยหลงเช่วเข้ามาแทรก พวกเขาคงไม่ได้กินเค้กก้อนโตนี้ทั้งหมด ถ้าทำเสียเรื่องก็จะถึงขั้นลากตัวเองเข้าไปด้วย

เป็นเช่นนี้ พวกเขามิสู้ทิ้งผลประโยชน์ไปบางส่วน กินได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ความปลอดภัยต้องมาก่อน

ถ้าทำออกมาได้ดีพวกเขาก็ไม่ได้เสียเปรียบ เพียงแต่ผลประโยชน์ไม่ได้เยอะเหมือนที่วางแผนไว้ตอนแรกก็เท่านั้น

เห็นภาพเช่นนี้ หลี่ฝางก็รับรู้ได้ว่างานของตัวเองสำเร็จแล้ว

ไม่ว่าจะก่อตั้งหรือไม่ก่อตั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ขึ้น ตระกูลชิวก็อย่าหวังว่าจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ทำอะไรอีกเลย ต้าเซี่ยหลงเช่วมีโอกาสแทรกแซง ก็คงไม่ทำให้พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ พัฒนาไปทางที่แย่มากเท่าไหร่

ขณะนั้นเอง หลี่ฝางก็เห็นหงส์แดง ผู้หญิงเพียงคนเดียวในสี่ขุนศึกจู่ๆก็เดินขึ้นมา

เธอไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนกระซิบข้างหูกู่ยี่เทียนไม่กี่ประโยค

แต่ทว่ากู่ยี่เทียนกลับขมวดคิ้วเป็นปมขึ้นมาทันที

หลี่ฝางใจเต้น ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะจัดการได้ง่ายๆ

กู่ยี่เทียนลังเลครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆพูดขึ้น:“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ต้าเซี่ยหลงเช่วก็คงไม่ขัดขวางการก่อตั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้นี้”

ทันใดนั้นชิวจงเทียนก็คิดว่าคำพูดของตนทำให้กู่ยี่เทียนยอมได้แล้ว แม้ผลที่ได้รับจะไม่มากเท่าที่คิดไว้ตอนแรก แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียเปล่า รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที

แต่ทว่ากู่ยี่เทียนพูดขึ้นมาอีก ทำเอาชิวจงเทียนเย็นยะเยือก

“เพื่อความรุ่งเรืองของยุทธภพต้าเซี่ย พันธมิตรศิลปะการต่อสู้นี้คงต้องให้พวกเราต้าเซี่ยหลงเช่วดูแล!”

อะไรนะ!

คำพูดนี้จุดชนวนผู้คนขึ้นเหมือนระเบิดอย่างไรอย่างนั้น

“หรือต้าเซี่ยหลงเช่วจะใช้อุบายไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลให้ได้เลย?”ชิวจงเทียนสั่นไปทั้งตัว

“ไม่ยินยอมงั้นเหรอ?”กู่ยี่เทียนยิ้มเยาะ ทันใดนั้นพลังที่มีฤทธิ์ร้ายแรงก้พุ่งออกมาทันใด

พลังอันนี้สะพรึงนี้ แม้แต่ปรมาจารย์กำลังภายในก็ไม่อาจต้านทานได้ รู้สึกแค่ว่าเหมือนฟ้าถล่ม นอกจากหลี่ฝางแล้ว คนอื่นๆก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัวแต่ก็ศรัทธาในใจ

“แดนเต๋า!”

ที่เป็นอานุภาพที่แท้จริงของพลังแดนเต๋า!

ชิวจงเทียนทั้งสามคนตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าอานุภาพของพลังแดนเต๋าจะน่ากลัวขนาดนี้!

“เลิกไร้สาระได้แล้ว พวกคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่ ผมบอกให้พวกคุณฟังพวกคุณก็ต้องฟัง!”

“ชิวจงเทียน ข่งจิ่งยู่ ส้งหมิง พวกคุณจะยอมไหม!”

ภายใต้แรงกดดันพลังของกู่ยี่เทียน ทุกคนตัวสั่นไปหมด ไม่กล้าคิดคัดค้านแม้แต่น้อย ไม่มีใครกล้าออกมาพูดในเวลานี้แม้แต่คนเดียว

ชิวจงเทียนรู้สึกขมขื่น ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าแผนการทั้งหมดของเขา เมื่ออยู่ใต้พลังกดดันของแดนเต๋า เป็นแค่เรื่องตลกก็แค่นั้น

“ตกลง พวกเรา พวกเราตกลง……”

ชิวจงเทียนสีหน้าดูไม่ได้ขึ้นมาทันที จิตใจก็เซื่องซึมลง ดูแกลงไปเยอะเลยทีเดียว

“ไม่ ไม่ได้ ตอบตกลงไม่ได้!”ทันใดนั้นชิวเฉิงหลี่ก็โพล่งออกมา ตะโกนออกมาเหมือนคนบ้า:“ตอบตกลงเขาไม่ได้!ตอบตกลงไปตระกูลชิวของพวกเราก็จบเห่นะสิ!”

“ไสหัวลงไป!”ชิวจงเทียนโมโหเดือดขึ้นมาทันที“หุบปาก!”

“คุณนั่นแหละหุบปาก!”

ตอนนี้ชิวเฉิงหลี่เข้าใกล้คำว่าบ้าแล้ว ตะโกนออกมาเสียงดังโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“ตาแก่นี่ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเป็นกำลังภายใน ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมหาวิธีกำจัดคุณไปนานแล้ว!คุณคิดว่าผมจะฟังคุณชี้โบ๊ชี้เบ๊รึไง!”

“สารเลว!”ชิวจงเทียนไม่คิดเลยว่าจู่ๆชิวเฉิงหลี่จะพูดออกมาแบบนี้ โมโหจนใจกระตุก ยกมือจะตบชิวเฉิงหลี่ให้ลงไปจากเวที

“คุณกล้าตบผมงั้นเหรอ!”ชิวเฉิงหลี่ตะโกนเสียงดัง ฉีกเสื้อตัวเองออกก่อนแล้วหัวเราะร่า

“คุณลองตบผมดูสิ!ดูว่านี่คืออะไ!”

ทุกคนหันไปดูทันที เห็นเป็นหน้าอกของชิวเฉิงหลี่ติดอุปกรณ์แปลกๆอยู่อันหนึ่ง และไฟสีแดงแลบกะพริบตรงหัวใจของเขา

“ฮ่าๆๆๆ ฉันฝังระเบิดไว้ในนี้ตั้งนานแล้ว!”ชิวเฉิงหลี่ตะโกนเสียงดังอย่างกับคนบ้า

“เห็นรึยัง?ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจฉันผิดปกติ ระเบิดพวกนี้ก็จะถูกจุดชนวน เมื่อถึงตอนนั้นใครหน้าไหนก็หนีไม่พ้น!”

“กำลังภายในแล้วยังไง ทันทีที่จุดระเบิด พวกแกทุกคนก็ต้องตาย!ฉันอยากรู้นัก ว่าปรมาจารย์กำลังภายในอย่างพวกแก ที่โม้กันว่าเก่งนักเก่งหนา สามารถฟื้นจากความตายได้จริงไหม!”

การหักมุมเช่นนี้ล้วนไม่มีใครคาดคิด

บางคนก็ไม่เชื่อ ไม่รู้ว่าไปเอาเครื่องมือขุดมาจากไหน แล้วขุดพื้นลงไปอย่างรวดเร็ว ก็เห็นระเบิดเรียงเป็นแถว ทำเอาทุกคนกลัวขึ้นมาทันที

“มีระเบิดจริงๆด้วย!”

“แย่แล้ว!แย่แล้ว!”

“ทำไมพวกเราต้องมาเจอเจ้าบ้านี่ด้วย!”

ทุกคนเสียสติไปทันใด ส่งเสียงก่นด่าออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด่าชิวเฉิงหลี่ไปยันโคตรเหง้า

กู่ยี่เทียนมองชิวเฉิงหลี่อย่างเยือกเย็น พลางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม:“ดีจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ออกมา!”

ทันใดนั้น กู่ยี่เทียนก็ทำท่าจะปล่อยพลังไปที่ตัวชิวเฉิงหลี่

“ปรมาจารย์กู่ระวังด้วยล่ะ!ถ้าหัวใจผมเต้นแรงขึ้นมาหน่อยระเบิดก็จะถูกจุดชนวน!”ชิวเฉิงหลี่รีบตะโกนขึ้น

“ไม่งั้น คงได้ลากทุกคนที่นี่ลงหลุมไปเป็นเพื่อนด้วยเป็นแน่”

“คุณกำลังขู่ผมงั้นเหรอ?”กู่ยี่เทียนพูดเย้ยหยัน

“มิกล้าๆ”ชิวเฉิงหลี่กวาดตามองรอบหนึ่ง แล้วหัวเราะออกมา“แต่ว่านะ ถ้าพวกคุณยังไม่หุบปากอีกละก็ ระเบิดนี่ได้ระเบิดจริงๆแน่”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท