NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่947 คุกเข่าลงซะ!

บทที่947 คุกเข่าลงซะ!

“ไอ้สวะเอ๊ย!” หวางซีหมิงแอบด่าออกมาหนึ่งครั้ง เขาจ้องมองหลี่ฝางด้วยสายตาเยือกเย็น พร้อมทั้งมีความหยิ่งผยองของผู้ที่อยู่ด้านบนมองคนที่อยู่ด้านล่าง

“แกก็คือหลี่ฝาง? ร้ายกาจไม่เบานี่แกน่ะ พึ่งมาถึงก็ข่มขู่ฉันแล้ว”

“แกคือหวางซีหมิงสินะ? ถ้าหากทั้งตระกูลหวางต่างก็เป็นแบบแก ดูแล้วตระกูลหวางก็คงไม่มีความหวังอะไร และยิ่งไม่มีวันพรุ่งนี้อีกต่อไปแล้ว” หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา

“ฮ่า ๆ ๆ แกคิดว่าตัวเองพอมีฝีมืออยู่บ้าง ก็ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาแล้วงั้นเหรอ? ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาซะเลยจริง ๆ!”

หวางซีหมิงหัวเราะขึ้นมาเสียงดังราวกับได้ฟังเรื่องที่ตลกขบขันมากเรื่องหนึ่ง

“เจ้าหนุ่ม ฉันให้โอกาสแกสักครั้ง เพียงแค่ตอนนี้แกคุกเข่าลงโขกศีรษะให้ฉันสิบครั้งโดยให้มีเสียงดังออกมา ฉันสามารถไว้ชีวิตเน่า ๆ ของแกได้”

เมื่อได้ยินคำพูดที่มั่นใจของหวางซีหมิง มู่หรงฉางเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาใช้สายตาที่เฝ้ารอดูเรื่องสนุกมองไปยังหลี่ฝาง: หลี่ฝางถึงแกจะร้ายกาจยังไง หรือว่าจะสามารถต่อการกับตระกูลหวางได้งั้นเหรอ?

“ใช่ไหม?” หลี่ฝางนั่งอยู่ในห้องภายใต้สายตาของทุกคน เขายิ้มเล็กน้อย ทันใดนั้นฝ่ามือของเขา ก็ฟาดเข้าไปยังใบหน้าของหวางซีหมิงทันที

“อ๊าก!”

หวางซีหมิงร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด เขาถูกฝ่ามือของหลี่ฝางตบจนลงไปกองบนพื้น

ส่วนคนอื่น ๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของหวางซีหมิง ถึงได้ตื่นขึ้นมาจากความตกตะลึง

“แก นี่แกกล้าทำร้าเขาจริง ๆ เหรอเนี่ย” ภายในใจของมู่หรงฉางเฟิงตกใจขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งตื่นเต้นดีใจ ที่ตกใจก็เพราะเขาไม่คิดว่าหลี่ฝางจะกล้าลงมือจริง ๆ ที่ตื่นเต้นดีใจก็เพราะว่า ครั้งนี้ตระกูลหวางและหลี่ฝางได้ผูกปมแค้นเข้าให้แล้วจริง ๆ

ต่อให้เดิมทีตระกูลหวางไม่ยากจะเป็นศัตรูกับหลี่ฝาง ตอนนี้ก็จะต้องลงมืออย่างแน่นอน

“หลี่ฝาง แกไม่รู้ฐานะของคุณชายหวางเหรอ?” มู่หรงฉางเฟิงรีบลุกยืนขึ้นมา เขาทำท่าทำทางดุด่าว่ากล่าว: “จะบอกแกให้นะ อย่าคิดว่าอยู่ที่เมืองเอกตัวเองพอจะมีฝีมืออยู่บ้างเลยไม่เกรงกลัวกฎหมาย คุณชายหวางไม่ใช่คนที่แกจะสามารถล่วงเกินได้!”

หลี่ฝางเหลือบตามองมู่หลงฉางเฟิงแวบหนึ่ง แล้วยิ้มอย่างเหยียดหยาม

เมื่อไม่นานมานี้ เขายังเห็นมู่หรงฉางเฟิงเป็นศัตรูอันดับหนึ่งอยู่เลย แต่ในตอนนี้ มู่หรงฉางเฟิงนั้นไม่มีคุณสมบัติพอแม้แต่จะถกเถียงกับเขาแล้ว

“หวางซีหมิง อย่างน้อยแกก็เป็นถึงคนของตระกูลหวางแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ มาคลุกคลีกับคนอย่างมู่หรงฉางเฟิง ชั่งขายหน้าคุณปู่ของแกจริง ๆ!”

คำพูดของหลี่ฝาง ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที

คนคนนี้รู้ที่มาที่ไปของตระกูลหวางเป็นอย่างดี ยังกล้าปฏิบัติกับหวางซีหมิงแบบนี้อีกเหรอ?

“ลุงโจว จัดการมันให้ฉันซะ!”

หวางซีหมิงเคยถูกเหยียดหยามแบบนี้มาก่อนที่ไหนกัน ไฟแห่งความโมโหลุกโชนขึ้นมาในใจของเขา จนดวงตาของเขากลายเป็นสีแดง

เมื่อชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้น เขาก็มองไปที่หลี่ฝางทันที

“อย่าโทษฉันเลยนะ แกรนหาที่เอง” เขาส่ายหัว ในสายตาที่มองหลี่ฝางนั้นเต็มไปด้วยความสงสาร

หลังจากที่หลี่ฝางได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนแล้ว เขากลับเพียงแค่ยิ้มอย่างดูแคลน วินาทีต่อมา เขาก็ได้ยื่นมือออกไป และจับเข้าที่หมัดของชายวัยกลางคนที่ต่อยเข้ามาด้วยความโมโหเบา ๆ

“ปัง!”

หมัดนั้นของชายวัยกลางคนถูกหลี่ฝางจับฟาดลงไปที่โต๊ะอย่างจัง ทันใดนั้น โต๊ะนั่นก็ได้แตกหักไปทันที และกำปั้นของชายวัยกลางคน ก็ได้มีเลือดสด ๆ สาดกระเซ็นออกมา

ชายวัยกลางคนกุมมือของตัวเองก้าวถอยหลังไปติดต่อกันหลายก้าว แต่กลับไม่ได้ร้องออกมาเลยสักแอะเดียว เพียงแค่ภายในดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จ้องเขม็งไปที่หลี่ฝางที่นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเลยสักนิด

“เป็นไปได้ยังไง?”

ชายวัยกลางคนเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

ในหลายปีมานี้เขาฝึกการต่อสู้มาอย่างยากลำบาก ความแข็งแกร่งเกือบจะเท่ากับกับตงฟางจัว แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้พึ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ดูจากใบหน้าที่อ่อนวัยนั่น คงพึ่งยี่สิบต้นเองสินะ?

แต่ว่าฝีมือของเขา กลับทำให้ชายวัยกลางคนดูไม่ออก

การเคลื่อนไหวของหลี่ฝางนั้นเร็วมาก ทำให้คนไม่ทันได้รู้สึกตัวเลยสักนิด พูดได้ว่า ถ้าหากเมื่อกี้หลี่ฝางคิดจะฆ่าเขา เขาคงตายไปนานแล้ว

“ลุงโจว……”

หวางซีหมิงเองก็ได้ตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง เขาคิดไม่ตก ตัวเองเคยเห็นฝีมือของยอดฝีมือที่อยู่ข้างกายคนนี้อยู่แท้ ๆ ทำไมวันนี้ถึงได้เป็นเหมือนกับกำลังแสดงละคร แค่พริบตาเดียวก็ถูกคนทำร้ายจนไม่อาจใช้งานได้แล้ว?

ภายในใจของเกาจื่อหมิงกลับรู้สึกเหยียดหยามขึ้นมา ในตอนที่เขาเห็นหลี่ฝางนั่นเอง เขาก็รู้ขึ้นมาทันทีเลยว่าวันนี้หวางซีหมิงจะต้องแย่แน่

หลี่ฝางเป็นใครกัน? ภาพเหตุการณ์สุดอลังการที่พม่าในตอนนั้น เขายังไม่ลืมมันหรอกนะ!

ส่วนมู่หรงฉางเฟิง ถึงแม้ในเวลานี้บนใบหน้าจะเต็มไปด้วยความไม่คาดฝัน แต่ในใจกับตื่นเต้นดีใจสุดขีด

สถานการณ์เช่นนี้ เขาเองก็เคยคิดไว้เหมือนกัน แต่นี่ก็ถือว่าแผนการของเขานั้นสำเร็จแล้ว หลี่ฝางและตระกูลหวางผูกปมแค้นกันอย่างสิ้นเชิง สุดท้ายแล้วภายใต้เงื้อมมือที่แข็งแกร่งของตระกูลหวังหลี่ฝางจะต้องไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่!

“หวางซีหมิง ถ้าหากตอนนี้แกคุกเข่าขอร้องล่ะก็ ฉันเองก็สามารถให้โอกาสแกอีกครั้ง ปล่อยแกให้มีชีวิตรอดไป”

หลี่ฝางนำคำพูดที่หวางซีหมิงเคยพูดเอาไว้เมื่อสักครู่ ส่งคืนกลับไปโดยไม่ขาดแม้แต่คำเดียว

“ฉันเป็นคนตระกูลหวาง แกกล้าแตะต้องฉัน ไม่กลัวว่าตระกูลหวางจะมาล้างแค้นหรอกเหรอ?” หวางซีหมิงกัดฟันกรอด พลางมองหลี่ฝางด้วยความโมโห เขาไม่กล้าเชื่อว่าหลี่ฝางจะกล้าทำอะไรเขาจริง ๆ

“ไอ้ไง่เอ๊ย”

หลี่ฝางลุกยืนขึ้นมาอย่างเย็นชา

และในตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนคนนั้นจู่ ๆ ก็ลงมือขึ้นมาอย่างฉับพลัน เท้าของเขาเตะเข้ามายังบริเวณหัวของหลี่ฝาง

“รนหาที่ตาย!” หลี่ฝางกล่าวอย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็โบกสะบัดมืออย่างง่าย ๆ ทันใดนั้น พลังที่ร้ายกาจสายหนึ่งก็ได้ระเบิดออกมาก กระแทกจนร่างของชายวัยกลางคนลอยปลิวออกไป

เสียง “ผลัวะ” ดังขึ้น ร่างของชายวัยกลางคนกระแทกเข้าไปที่หน้าต่างกระจก จนทำให้บานกระจกแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นก็ได้ลอยออกไปนอกหน้าต่าง

“คนไม่รู้จักชั่วดี” หลี่ฝางกล่าวอย่างเย้ยหยัน และมองไปที่หวางซีหมิงอีกครั้ง

หวางซีหมิงเห็นบอดี้การ์ดของตัวเองแพ้อย่างราบคาบ แม้แต่คนก็ยังถูกอัดจนลอยออกไป เหลือแค่ตัวเองที่ต้องเผชิญหน้ากับหลี่ฝางเพียงลำพัง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน