NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่951 ขวดเบียร์หกขวด

บทที่951 ขวดเบียร์หกขวด

“ไม่ ๆ ๆ ไม่ใช่แน่นอน” จ้าวเฉิงโบกมืออย่างเขินอาย จากนั้นก็หมุนตัวขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับ เพียงแต่วินาทีที่เขาหันหน้าไปนั่นเอง สีหน้าของเขาก็บึ้งตึงขึ้นมาเล็กน้อย

หลี่ฝางหัวเราะเยาะออกมาหนึ่งครั้ง ความรู้สึกที่ไม่ดีที่มีต่อจ้างเฉิงได้เพิ่มขึ้นมาอีก

คิดจะขุดฐานกำแพงต่อหน้าต่อตาฉันงั้นเหรอ? รนหาที่ตาย!

เพียงแต่ว่าการหัวเราะเยาะอย่างเปิดเผยของเขานั้น เมื่อตกอยู่ในสายตาของคนขับรถที่อยู่ด้านหน้า ก็ได้ทำให้คนขับรถไม่พอใจขึ้นมาทันที รวมทั้งในสายตานั้นยังมีความโมโหรวมอยู่ด้วย

แน่นอนว่าหลี่ฝางไม่ได้ใส่ใจความโมโหของคนขับรถเลย เขายิ้มพลางยกนิ้วกลางตั้งชันขึ้นมา เพื่อแสดงท่าทีของตัวเอง

“เฉียงจื่อ!”

คนขับรถผมทรงสกินเฮดคิดอยากจะหันหน้ากลับไป แต่กลับถูกจ้าวเฉิงตะคอกด่าเอาไว้ก่อน

เฉียงจื่อหุบปากไปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรเลย ไม่นานก็ขับรถมาจนถึงโรงแรม

ในครั้งนี้เจ้าเฉิงได้จองโรงแรมระดับห้าดาวเอาไว้ บรรยากาศก็นับว่าไม่เลว

ทีมงานที่พวกเขาพาออกมาในครั้งนี้ นอกจากหลี่ฝางและฉินวี่เฟยแล้ว ทั้งหมดมีอยู่ห้าคน เป็นผู้ชายสามผู้หญิงสอง

หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ขาดเงินอะไร แน่นอนว่าจะไม่ให้พวกเขาพักห้องรวมกัน เลยจองไว้หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง ออกมาคุยธุรกิจในครั้งนี้ สิ่งที่เขาและฉินวี่เฟยต้องทำก็คือเจรจาโครงการให้สำเร็จ ส่วนเรื่องรายละเอียดและแผนการต่าง ๆ ยังต้องอาศัยทั้งห้าคนนี้มาดำเนินการ

หลังจากที่ได้จัดของอยู่ที่โรงแรมเสร็จแล้ว ฉินวี่เฟยก็ได้ดึงแขนของหลี่ฝางพลางกล่าวอย่างดีอกดีใจ: “ได้ออกมาทั้งที พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ”

หลี่ฝางมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของฉินวี่เฟย แล้วพยักหน้าอย่างจนปัญญา พลางกล่าว: “ได้สิ แต่ก็อย่าลืมคนอื่น ๆ ล่ะ ให้เงินทุนกิจกรรมกับพวกเขาสักหน่อย ให้พวกเข้าออกไปเที่ยวเล่นเอง”

……

ไม่นาน ทั้งสองคนก็ได้มาถึงถนนคนเดินที่คึกคักแห่งหนึ่ง ที่นี่มีผู้คนเดินพลุกพล่านไปมา ฉินวี่เฟยเองก็เที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน

เพียงแต่ว่าอากาศนั้นร้อนเกินไป เดินเล่นอยู่ราว ๆ หนึ่งชั่วโมง ฉินวี่เฟยก็เริ่มรู้สึกหมดแรงและเตรียมหาที่นั่งพักสักหน่อย

“เอ ทางนั้นมีร้านปิ้งย่างอยู่ พวกเราไปที่นั่นกันเถอะนะ?”

สถานที่ที่ฉินวี่เฟยเสนอออกมา หลี่ฝางจะปฏิเสธได้ยังไงกัน

ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้เดินไปยังร้านปิ้งอย่างกลางแจ้งแห่งนั้น

“เอ๊ะ นั่นไม่ใช่พวกเหล่าเหอหรอกเหรอ?” ห่างจากร้านปิ้งย่างอยู่สักระยะ ทั้งสองสองคนก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยนั่งอยู่ตรงนั้น นั่นก็คือเหล่าทีมงานที่พวกเขาพามาด้วยนั้นเอง ทั้งห้าคนนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขาดแม้แต่คนเดียว

“คิดไม่ถึงว่าพวกเขาก็มาที่นี่เหมือนกัน” หลี่ฝางยิ้มกล่าว

“นั่นน่ะสิ บังเอิญมากจริง ๆ พวกเราข้าไปทักทายหน่อยเถอะ” ฉินวี่เฟยดึงแขนหลี่ฝางเดินเข้าไปทางนั้น

แต่ว่ายังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะเดินไปถึง ก็ได้เห็นกลุ่มชายแปลกหน้าเดินเข้าไปที่โต๊ะของทั้งห้าคนนั้น และได้ล้อมพวกเขาเอาไว้

“พวกแกทำอะไรน่ะ?”

เหล่าเหอที่มีอายุมากสุดในกลุ่มห้าคนสัมผัสได้ถึงความไม่ประสงค์ดีของคนเหล่านั้น ก็ได้ตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที

“แหะ ๆ” ชายที่บนได้หน้าเต็มไปด้วยความดุร้ายหัวเราะเยาะเขาสองสามครั้ง จากนั้นก็ถีบเขาไปที่บริเวณท้องของเหล่าเหอ

เหล่าเหอเอามือกุมท้องตัวเองด้วยใบหน้าที่เจ็บและไปกองบนพื้นทันที บางทีอาจจะเป็นเพราะพึ่งกินพวกอาหารปิ้งย่างไป อีกทั้งได้ดื่มเบียร์ไปไม่น้อย จึงได้ “อ้วก” อาเจียนออกมาครั้งหนึ่ง

ชายคนนั้นนั่งลงไปบนเก้าอี้ที่อยู่ติดกับผู้หญิงที่ชื่อจวงเชี่ยน ทั้งยังได้จับเหล่าเหอยกขึ้นมา เตรียมที่จะทิ้งเขาลงไปเพื่อปกปิดกองอ้วกนั่น

การกระทำที่เหยียดหยามเช่นนี้ ทำให้วัยรุ่นทั้งสองคนนั้นรับไม่ได้ขึ้นมาทันที แล้วลุกขึ้นมาคว้าเหล่าเหอเอาไว้ ขัดขวางการกระทำของชายฉกรรจ์ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เหล่าเหอต้องแปดเปื้อนสิ่งสกปรก

ส่วนจวงเชี่ยนก็ได้ถอยห่างจากชายฉกรรจ์ที่ขยับใกล้เข้ามาด้วยใบหน้าขยะแขยง ขณะเดียวกันนั้นเธอก็ได้ตะคอกออกมาเสียงดัง: “พวกเราจะแจ้งตำรวจแล้วนะ! ฉันแนะนำให้พวกนายรีบหนีไปดีกว่า!”

“แหะ ๆ! ดีนี่ เธอโทรตอนนี้เลย ดูสิว่าจะมีใครมาไหม”

ชายกล้ามโตคนนั้นไม่ได้ใส่ใจกับคำข่มขู่ของจวงเชี่ยนเลยสักนิด อีกทั้งยังกล่าวอย่างยั่วยวน

ในตอนนี้จวงเชี่ยนรู้ว่า เกรงว่าพวกตัวเองได้ล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินเข้าให้แล้ว

เหล่าเหอที่ถูกชายกล้ามโตต่อยจนหน้ามืดได้รู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้วในตอนนี้ ร่างของเขาได้ดิ้นรนขึ้นมาอย่างดุเดือดทันที

“ปล่อยฉันนะ พวกแกคิดจะทำอะไร!”

“หุบปากไปซะ!” จู่ ๆ ชายกล้ามโตก็ได้ออกแรงผลัก จนทำให้เหล่าเหอและชายวัยรุ่นสองคนที่จับเขาอยู่นั้นล้มลงไปกับพื้นพร้อมกันทันที

“เป็นพวกสารเลวกลุ่มนี้อีกแล้ว ทำไมไม่มีใครมาจัดการพวกมันเลย บาปกรรมจริง ๆ เลย”

“เฮ้อ มีใครกล้าเข้าไปยุ่งซะที่ไหนล่ะ ได้ยินว่าเมื่อไม่หลายวัยก่อนมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งออกหน้าช่วยเหลือ เลยถูกพวกมันทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล จนถึงตอนนี้เรื่องนี้ก็ยังไม่มีคนเข้ามาดูแลเลย”

“ก็นั่นน่ะสิ ช่างเป็นพวกอันธพาลจริง ๆ ……”

……

คนที่อยู่โดยรอบต่างวิพากษ์วิจารณ์ แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามสักคน ทุกคนต่างเกรงกลัวคนพวกนั้นมาก แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะเสนอหน้ายืนออกไป

ไม่ได้สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนเลยสักนิด ชายกล้ามโตเดินเข้าไปหาจวงเชี่ยน และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางกล่าว: “สาวสวยทั้งสอง ออกไปเที่ยวเล่นกับพวกเราสิ”

กล่าวไป มือของเขาก็ค่อย ๆ ยื่นเข้าไปหาจวงเชี่ยน

“ฉัน พวกเราจะกลับตอนนี้แล้ว……”

จวงเชี่ยนรีบหลบหลีกมือของชายกล้ามโต พลางกล่าวเสียงสั่น

ทำให้ภายในใจของเธอนั้นหวาดกลัวสุดขีด จนมีน้ำตาซึมออกมาจากดวงตาเล็กน้อย

ในตอนนี้เอง เธอก็ได้เห็นหลี่ฝางและฉินวี่เฟยเดินเข้ามาจากทางกลุ่มคน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างสุดขีด

“เจ้าหนุ่ม อย่ามาทำตัวเป็นฮีโร่อยู่ที่นี่ ถ้าไม่อยากต้องเข้าไปนอนอยู่ในโรงพยาบาลละก็รีบไสหัวไปซะ”

ชายกล้ามโตเองก็ได้มองเห็นหลี่ฝาง ทันใดนั้นเขาก็พบว่า และนี่เองก็คือเป้าหมายของเขาในวันนี้

ภายในใจของเขารู้สึกดีใจขึ้นมา ชายกล้ามโตกลับแสดงสีหน้าท่าทางดุร้ายออกมา รอหลี่ฝางทนไม่ได้จนพุ่งเข้ามา แล้วค่อยอัดเขาให้น่วม

เป็นที่ประจักษ์ เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้มีการวางแผนมาก่อน และเป็นปฏิบัติการที่มีหลี่ฝางเป็นเป้าหมายโดยเฉพาะ

เพียงแค่หลี่ฝางเอ่ยปากขึ้น พวกเขาก็จะลงมือโจมตีพร้อมกันทันที อัดจนหลี่ฝางต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลสักสิบวันครึ่งเดือน

จากนั้นเขาก็พบว่า หลี่ฝางหยิบเอาขวดเบียร์ที่วางอยู่บนโต๊ะขวดหนึ่งขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นเขาก็คิดว่า หลี่ฝางจะใช้ขวดเบียร์ขวดนั้นฟาดเขาหรือเปล่า

อีกเดี๋ยวต้องหลบขวดเบียร์ที่ไอ้หมอนั่นคว้างมาก่อน จากนั้น……

“เพล้ง!”

ขวดเบียร์ขวดหนึ่งกระแทกเข้าที่หน้าผากของชายกล้ามโต และแตกออกทันที เศษแก้วและเลือดสดซัดกระเซ็นออกมาพร้อมกัน

เร็วมาก!

ก่อนที่หัวของเขาจะถูกขวดเบียร์ลอยใส่ ชายกล้ามโตมองไม่ชัดเลยด้วยซ้ำว่าหลี่ฝางโยนขวดเบียร์ขวดนั้นมาได้ยังไง

“สวย!”

“สั่งสอนพวกมันให้หนัก ๆ ไปเลย”

เสียงโห่ร้องจากทั่วทุกมุมดังขึ้น ส่วนคนที่เหลืออยู่ต่างก็ถูกหลี่ฝางที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอัดจนล้มลง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท