“ไม่ ๆ ๆ ไม่ใช่แน่นอน” จ้าวเฉิงโบกมืออย่างเขินอาย จากนั้นก็หมุนตัวขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับ เพียงแต่วินาทีที่เขาหันหน้าไปนั่นเอง สีหน้าของเขาก็บึ้งตึงขึ้นมาเล็กน้อย
หลี่ฝางหัวเราะเยาะออกมาหนึ่งครั้ง ความรู้สึกที่ไม่ดีที่มีต่อจ้างเฉิงได้เพิ่มขึ้นมาอีก
คิดจะขุดฐานกำแพงต่อหน้าต่อตาฉันงั้นเหรอ? รนหาที่ตาย!
เพียงแต่ว่าการหัวเราะเยาะอย่างเปิดเผยของเขานั้น เมื่อตกอยู่ในสายตาของคนขับรถที่อยู่ด้านหน้า ก็ได้ทำให้คนขับรถไม่พอใจขึ้นมาทันที รวมทั้งในสายตานั้นยังมีความโมโหรวมอยู่ด้วย
แน่นอนว่าหลี่ฝางไม่ได้ใส่ใจความโมโหของคนขับรถเลย เขายิ้มพลางยกนิ้วกลางตั้งชันขึ้นมา เพื่อแสดงท่าทีของตัวเอง
“เฉียงจื่อ!”
คนขับรถผมทรงสกินเฮดคิดอยากจะหันหน้ากลับไป แต่กลับถูกจ้าวเฉิงตะคอกด่าเอาไว้ก่อน
เฉียงจื่อหุบปากไปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรเลย ไม่นานก็ขับรถมาจนถึงโรงแรม
ในครั้งนี้เจ้าเฉิงได้จองโรงแรมระดับห้าดาวเอาไว้ บรรยากาศก็นับว่าไม่เลว
ทีมงานที่พวกเขาพาออกมาในครั้งนี้ นอกจากหลี่ฝางและฉินวี่เฟยแล้ว ทั้งหมดมีอยู่ห้าคน เป็นผู้ชายสามผู้หญิงสอง
หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ขาดเงินอะไร แน่นอนว่าจะไม่ให้พวกเขาพักห้องรวมกัน เลยจองไว้หนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง ออกมาคุยธุรกิจในครั้งนี้ สิ่งที่เขาและฉินวี่เฟยต้องทำก็คือเจรจาโครงการให้สำเร็จ ส่วนเรื่องรายละเอียดและแผนการต่าง ๆ ยังต้องอาศัยทั้งห้าคนนี้มาดำเนินการ
หลังจากที่ได้จัดของอยู่ที่โรงแรมเสร็จแล้ว ฉินวี่เฟยก็ได้ดึงแขนของหลี่ฝางพลางกล่าวอย่างดีอกดีใจ: “ได้ออกมาทั้งที พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ”
หลี่ฝางมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของฉินวี่เฟย แล้วพยักหน้าอย่างจนปัญญา พลางกล่าว: “ได้สิ แต่ก็อย่าลืมคนอื่น ๆ ล่ะ ให้เงินทุนกิจกรรมกับพวกเขาสักหน่อย ให้พวกเข้าออกไปเที่ยวเล่นเอง”
……
ไม่นาน ทั้งสองคนก็ได้มาถึงถนนคนเดินที่คึกคักแห่งหนึ่ง ที่นี่มีผู้คนเดินพลุกพล่านไปมา ฉินวี่เฟยเองก็เที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน
เพียงแต่ว่าอากาศนั้นร้อนเกินไป เดินเล่นอยู่ราว ๆ หนึ่งชั่วโมง ฉินวี่เฟยก็เริ่มรู้สึกหมดแรงและเตรียมหาที่นั่งพักสักหน่อย
“เอ ทางนั้นมีร้านปิ้งย่างอยู่ พวกเราไปที่นั่นกันเถอะนะ?”
สถานที่ที่ฉินวี่เฟยเสนอออกมา หลี่ฝางจะปฏิเสธได้ยังไงกัน
ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้เดินไปยังร้านปิ้งอย่างกลางแจ้งแห่งนั้น
“เอ๊ะ นั่นไม่ใช่พวกเหล่าเหอหรอกเหรอ?” ห่างจากร้านปิ้งย่างอยู่สักระยะ ทั้งสองสองคนก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยนั่งอยู่ตรงนั้น นั่นก็คือเหล่าทีมงานที่พวกเขาพามาด้วยนั้นเอง ทั้งห้าคนนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขาดแม้แต่คนเดียว
“คิดไม่ถึงว่าพวกเขาก็มาที่นี่เหมือนกัน” หลี่ฝางยิ้มกล่าว
“นั่นน่ะสิ บังเอิญมากจริง ๆ พวกเราข้าไปทักทายหน่อยเถอะ” ฉินวี่เฟยดึงแขนหลี่ฝางเดินเข้าไปทางนั้น
แต่ว่ายังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะเดินไปถึง ก็ได้เห็นกลุ่มชายแปลกหน้าเดินเข้าไปที่โต๊ะของทั้งห้าคนนั้น และได้ล้อมพวกเขาเอาไว้
“พวกแกทำอะไรน่ะ?”
เหล่าเหอที่มีอายุมากสุดในกลุ่มห้าคนสัมผัสได้ถึงความไม่ประสงค์ดีของคนเหล่านั้น ก็ได้ตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที
“แหะ ๆ” ชายที่บนได้หน้าเต็มไปด้วยความดุร้ายหัวเราะเยาะเขาสองสามครั้ง จากนั้นก็ถีบเขาไปที่บริเวณท้องของเหล่าเหอ
เหล่าเหอเอามือกุมท้องตัวเองด้วยใบหน้าที่เจ็บและไปกองบนพื้นทันที บางทีอาจจะเป็นเพราะพึ่งกินพวกอาหารปิ้งย่างไป อีกทั้งได้ดื่มเบียร์ไปไม่น้อย จึงได้ “อ้วก” อาเจียนออกมาครั้งหนึ่ง
ชายคนนั้นนั่งลงไปบนเก้าอี้ที่อยู่ติดกับผู้หญิงที่ชื่อจวงเชี่ยน ทั้งยังได้จับเหล่าเหอยกขึ้นมา เตรียมที่จะทิ้งเขาลงไปเพื่อปกปิดกองอ้วกนั่น
การกระทำที่เหยียดหยามเช่นนี้ ทำให้วัยรุ่นทั้งสองคนนั้นรับไม่ได้ขึ้นมาทันที แล้วลุกขึ้นมาคว้าเหล่าเหอเอาไว้ ขัดขวางการกระทำของชายฉกรรจ์ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เหล่าเหอต้องแปดเปื้อนสิ่งสกปรก
ส่วนจวงเชี่ยนก็ได้ถอยห่างจากชายฉกรรจ์ที่ขยับใกล้เข้ามาด้วยใบหน้าขยะแขยง ขณะเดียวกันนั้นเธอก็ได้ตะคอกออกมาเสียงดัง: “พวกเราจะแจ้งตำรวจแล้วนะ! ฉันแนะนำให้พวกนายรีบหนีไปดีกว่า!”
“แหะ ๆ! ดีนี่ เธอโทรตอนนี้เลย ดูสิว่าจะมีใครมาไหม”
ชายกล้ามโตคนนั้นไม่ได้ใส่ใจกับคำข่มขู่ของจวงเชี่ยนเลยสักนิด อีกทั้งยังกล่าวอย่างยั่วยวน
ในตอนนี้จวงเชี่ยนรู้ว่า เกรงว่าพวกตัวเองได้ล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินเข้าให้แล้ว
เหล่าเหอที่ถูกชายกล้ามโตต่อยจนหน้ามืดได้รู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้วในตอนนี้ ร่างของเขาได้ดิ้นรนขึ้นมาอย่างดุเดือดทันที
“ปล่อยฉันนะ พวกแกคิดจะทำอะไร!”
“หุบปากไปซะ!” จู่ ๆ ชายกล้ามโตก็ได้ออกแรงผลัก จนทำให้เหล่าเหอและชายวัยรุ่นสองคนที่จับเขาอยู่นั้นล้มลงไปกับพื้นพร้อมกันทันที
“เป็นพวกสารเลวกลุ่มนี้อีกแล้ว ทำไมไม่มีใครมาจัดการพวกมันเลย บาปกรรมจริง ๆ เลย”
“เฮ้อ มีใครกล้าเข้าไปยุ่งซะที่ไหนล่ะ ได้ยินว่าเมื่อไม่หลายวัยก่อนมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งออกหน้าช่วยเหลือ เลยถูกพวกมันทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล จนถึงตอนนี้เรื่องนี้ก็ยังไม่มีคนเข้ามาดูแลเลย”
“ก็นั่นน่ะสิ ช่างเป็นพวกอันธพาลจริง ๆ ……”
……
คนที่อยู่โดยรอบต่างวิพากษ์วิจารณ์ แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามสักคน ทุกคนต่างเกรงกลัวคนพวกนั้นมาก แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะเสนอหน้ายืนออกไป
ไม่ได้สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนเลยสักนิด ชายกล้ามโตเดินเข้าไปหาจวงเชี่ยน และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางกล่าว: “สาวสวยทั้งสอง ออกไปเที่ยวเล่นกับพวกเราสิ”
กล่าวไป มือของเขาก็ค่อย ๆ ยื่นเข้าไปหาจวงเชี่ยน
“ฉัน พวกเราจะกลับตอนนี้แล้ว……”
จวงเชี่ยนรีบหลบหลีกมือของชายกล้ามโต พลางกล่าวเสียงสั่น
ทำให้ภายในใจของเธอนั้นหวาดกลัวสุดขีด จนมีน้ำตาซึมออกมาจากดวงตาเล็กน้อย
ในตอนนี้เอง เธอก็ได้เห็นหลี่ฝางและฉินวี่เฟยเดินเข้ามาจากทางกลุ่มคน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างสุดขีด
“เจ้าหนุ่ม อย่ามาทำตัวเป็นฮีโร่อยู่ที่นี่ ถ้าไม่อยากต้องเข้าไปนอนอยู่ในโรงพยาบาลละก็รีบไสหัวไปซะ”
ชายกล้ามโตเองก็ได้มองเห็นหลี่ฝาง ทันใดนั้นเขาก็พบว่า และนี่เองก็คือเป้าหมายของเขาในวันนี้
ภายในใจของเขารู้สึกดีใจขึ้นมา ชายกล้ามโตกลับแสดงสีหน้าท่าทางดุร้ายออกมา รอหลี่ฝางทนไม่ได้จนพุ่งเข้ามา แล้วค่อยอัดเขาให้น่วม
เป็นที่ประจักษ์ เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้มีการวางแผนมาก่อน และเป็นปฏิบัติการที่มีหลี่ฝางเป็นเป้าหมายโดยเฉพาะ
เพียงแค่หลี่ฝางเอ่ยปากขึ้น พวกเขาก็จะลงมือโจมตีพร้อมกันทันที อัดจนหลี่ฝางต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลสักสิบวันครึ่งเดือน
จากนั้นเขาก็พบว่า หลี่ฝางหยิบเอาขวดเบียร์ที่วางอยู่บนโต๊ะขวดหนึ่งขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นเขาก็คิดว่า หลี่ฝางจะใช้ขวดเบียร์ขวดนั้นฟาดเขาหรือเปล่า
อีกเดี๋ยวต้องหลบขวดเบียร์ที่ไอ้หมอนั่นคว้างมาก่อน จากนั้น……
“เพล้ง!”
ขวดเบียร์ขวดหนึ่งกระแทกเข้าที่หน้าผากของชายกล้ามโต และแตกออกทันที เศษแก้วและเลือดสดซัดกระเซ็นออกมาพร้อมกัน
เร็วมาก!
ก่อนที่หัวของเขาจะถูกขวดเบียร์ลอยใส่ ชายกล้ามโตมองไม่ชัดเลยด้วยซ้ำว่าหลี่ฝางโยนขวดเบียร์ขวดนั้นมาได้ยังไง
“สวย!”
“สั่งสอนพวกมันให้หนัก ๆ ไปเลย”
เสียงโห่ร้องจากทั่วทุกมุมดังขึ้น ส่วนคนที่เหลืออยู่ต่างก็ถูกหลี่ฝางที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอัดจนล้มลง