NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่956 ท่านสี่หงอยู่ที่ไหน

บทที่956 ท่านสี่หงอยู่ที่ไหน

ในขณะที่มาถึงโรงแรมนั้น หลี่ฝางก็ได้มองเห็นตำรวจสองสามนายยืนอยู่ที่ห้องโถงของโรงแรมพอดี

จากนั้นก็ได้มองเห็นพวกจวงเชี่ยน จึงได้รีบเดินเข้าไปทันที แล้วเอ่ยถามขึ้นมา: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็นหลี่ฝางกลับมาอย่างกะทันหัน จวงเชี่ยนทั้งตกใจทั้งดีใจ จึงเดินเข้ามาและกล่าวอย่างรีบร้อน: “ประธานฉินถูกคนจับตัวไปแล้ว!”

“วี่เฟย?” หลี่ฝางตะลึงงัน เขายื่นมือออกไปจับจวงเชี่ยนไว้แน่น และกล่าวยังดุร้าย: “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”

“โอ๊ย เจ็บ!” จวงเชี่ยนร้องออกมาด้วยความเจ็บ หลี่ฝางตระหนักถึงความเสียมารยาทของตัวเองขึ้นมา จึงปล่อยมือจากเธอ และหลังจากที่เอ่ยขึ้นมาว่า “ขอโทษนะ” เสร็จ ก็ได้เดินไปทางตำรวจที่กำลังสอบปากคำอยู่

“ผมเป็นเพื่อนของวี่เฟย ขอถามหน่อยครับว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”

ตำรวจมองดูหลี่ฝาง จากนั้นก็ส่ายหัวกล่าว: “ต้องขอโทษด้วย พวกเราเองก็เพิ่งจะได้รับโทรศัพท์ และมาถึงที่นี่ไม่นาน”

เมื่อได้ยินตำรวจกล่าวเช่นนี้ หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขารู้ว่าไม่สามารถฝากความหวังไว้กับพวกเขาได้ และกำลังจะไปหาเบาะแสที่ห้อง ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ได้ดังขึ้น

เหมือนเป็นสัญชาตญาณ หลี่ฝางคิดว่าโทรศัพท์สายนี้ได้โทรเข้ามาจากโจรลักพาตัวพวกนั้น

พอรับโทรศัพท์ ก็มีเสียงแหบแห้งทุ่มต่ำเสียงหนึ่งดังออกมาจากอีกฝั่งของสายทันที

“ผู้หญิงของแกอยู่ในมือของฉัน ถ้าอยากช่วยเธอก็ให้มาที่โรงงานร้างในเขตตะวันตก ไม่อย่างงั้น……”

เพิ่งกล่าวจบ อีกฝ่ายก็ได้ตัดสายไป

หลี่ฝางหรี่ตาทั้งสองข้างลง ในใจกลับค่อย ๆ โล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายจะเป็นตัวเอง เช่นนั้นก่อนที่เขาจะปรากฏตัว ฉินวี่เฟยก็น่าจะไม่มีอันตรายอะไร

“แต่ใครกันล่ะที่จะทำเรื่องแบบนี้?” หลี่ฝางครุ่นคิดในสมองอย่างรวดเร็ว เขาหาคำตอบที่ตัวเองต้องการไม่เจอ

ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ หลี่ฝางก็ได้กดโทรศัพท์โทรออกไปอีกครั้ง

ไม่นาน เสียงของลู่เผิงเฟยก็ได้ดังขึ้น

“พี่หลี่? มีอะไรเหรอครับ?”

“ช่วยฉันตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งหน่อย”

เขาฟังออกถึงกลิ่นของความผิดปกติที่อยู่ในน้ำเสียงของหลี่ฝาง ลู่เผิงเฟยจริงจังขึ้นมาทันที

วางโทรศัพท์ไป หลี่ฝางมองพิจารณาดูตำรวจที่ไป ๆ มา ๆ อยู่สองสามครั้ง รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ

เหมือนกับว่า พวกเขากำลังเสแสร้งทำเป็นจริงจังกับการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างไรอย่างนั้น แต่ความจริงแล้ว การเคลื่อนไหวส่วนมากของพวกเขาคือทำเพื่อบังหน้าเท่านั้นเอง

เพราะถึงยังไงที่โรงแรมแห่งนี้ก็มีกล้องวงจรปิดอยู่ แต่ว่าคนพวกนี้กลับไม่ได้ไปขอดูข้อมูลในกล้องวงจรปิดเลย

ทันใดนั้น หลี่ฝางรู้สึกว่าคนพวกนี้น่าจะรู้อะไรบางอย่าง เพียงแต่ตั้งใจปิดบังบางสิ่งบางอย่างอยู่

เพราะถึงยังไงแล้ว กล้าบุกเข้ามาจับตัวคนถึงในโรงแรมกลางวันแสก ๆ การกระทำเช่นนี้ มันค่อนข้างกำเริบเสิบสานจนเกินไป

ลู่เผิงเฟยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว รอเพียงไม่กี่นาที เขาก็ได้ส่งอีเมลฉบับหนึ่งมาให้กับหลี่ฝาง ข้างในนั้นมีข้อมูลของเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด

“จางกุ้ย ฉายาเจ้าสามจาง……”

ในเอกสารฉบับนี้ ครอบคลุมข้อมูลสำคัญเกือบทั้งหมด บันทึกเรื่องราวของเจ้าสามจางตั้งแต่เล็กจนโตไว้อย่างละเอียด

สามารถเห็นได้ว่า เจ้าสามจางคนนี้เป็นอันธพาลมาตั้งแต่ตอนหนุ่ม ๆ กระทำความผิดจนถูกจับเข้าไปสำนึกผิดอยู่บ่อยครั้ง

แต่ทว่าเมื่อห้าปีก่อน เขากลับไม่มีคดีใด ๆ ถูกบันทึกไว้อีกเลย เพียงแต่ว่าเรื่องที่เขาทำนั้นหนักหนาสาหัสขึ้นมาเรื่อย ๆ และทุกอย่างนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้เข้าพึ่งพาคนคนหนึ่งที่ชื่อว่าเฮียติง

……

ณ โรงงานร้างในเขตตะวันตกที่ถูกปล่อยร้างมาเป็นเวลานาน ปกติแล้วไม่ค่อยจะมีคนมาที่นี่ เพราะเหตุนี้ที่นี่จึงเงียบสงบเป็นพิเศษ

แต่ทว่าวันนี้ ความเงียบสงบเช่นนี้ได้ถูกทำลายไป

อย่างน้อยมีชายหญิงนับร้อยกว่าคนหยอกล้อคลุกคลีกันอยู่ที่นี่ตามอำเภอใจ ทำให้โรงงานแห่งมีเสียงดัง สับสนอลหม่านไปหมด

ฉินวี่เฟยในเวลานี้ถูกมัดไว้ในโรงงานแห่งนี้ เผชิญหน้ากับสายตาที่แปลกประหลาดและกำเริบเสิบสานของกลุ่มชายที่อยู่รอบ ๆ ภายในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหวัดกลัว

แต่ทว่าถึงแม้สายตาที่ชายพวกนั้นมองฉินวี่เฟยจะน่ากลัวมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉินวี่เฟยแม้แต่คนเดียว ราวกับใครบางคนได้ออกคำสั่งซึ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัว

แต่ว่าถึงแม้คนพวกนี้จะไม่กล้าแตะต้องฉินวี่เฟย แต่ปากของพวกเขากลับเอ่ยคำสกปรกอยู่ไม่หยุด

“แหะ ๆ ผู้หญิงที่สวยแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นตัวเป็น ๆ อยากจะย่ำยีให้เต็มที่ซะจริง ๆ เลย”

“สวยกว่าพวกดาราซะอีก หากฉันได้นอนด้วยสักครั้งนะ ถึงตายก็คุ้มค่าแล้ว”

“ก็นั่นน่ะสิ ฉันแม่งอยากจะลองอยู่ตรงนี้ตอนนี้เลยจริง ๆ”

คนพวกนี้ดวงตาเป็นประกาย ไม่ปิดบังความปรารถนาของตัวเองเลยสักนิด

“จะลองดูก็ได้ แต่คนที่ตายจะไม่ใช่แกเพียงคนเดียว” ในตอนนั้นเอง คนคนหนึ่งได้เดินเข้ามาจากด้านนอก และกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม: “พอถึงตอนนั้นคนในครอบครัวของแกไม่ว่าจะเป็นคนแก่หรือลูกเล็กเด็กแดงต่างก็ต้องตายไปพร้อมกับแกด้วย”

“แค่ก แค่ก ๆ ลูกพี่พวกเราแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ฮ่า ๆ ๆ ……”

ทุกคนต่างก็รีบหัวเราะฮ่า ๆ ออกมา และไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย

สำหรับคนพวกนี้แล้ว พวกเขาเคารพและเกรงกลัวเจ้าสามจางลูกพี่ของตัวเองเป็นอย่างมาก

บนหลังของเจ้าสามจางแบกชีวิตคนไว้กี่ชีวิตยังสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเช่นนี้ได้ เป็นธรรมดาที่จะทำให้ลูกน้องพวกนี้เคารพหวาดเกรง

เจ้าสามจางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เขากล่าวเตือนขึ้นมาด้วยสายตาที่ดุร้าย: “ตื่นตัวกันหน่อยนะ เรื่องนี้เป็นคำสั่งจากเฮียติง จะต้องทำให้ดี ถ้าใครเกิดผิดพลาดขึ้นมา เตรียมถูกโยนลงทะเลเลี้ยงปลาได้เลย!”

“พี่สามสบายใจได้ หากไอ้หมอนั่นกล้ามา มันจะต้องไปจากที่นี่ไม่ได้แน่!”

ลูกน้องคนที่เอ่ยปากเมื่อกี้กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม

“ใช่ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ แม้แต่ของสิ่งนี้พวกเราก็ยังเอามาได้ แล้วจะให้ไอ้หมอนั่นเล่นตลกอะไรออกมาได้อีก?”

ลูกน้องอีกคนเปิดเสื้อออก สิ่งของที่อยู่บริเวณเอวปรากฏออกมา ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นมามาก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท