NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่966 ลุงเฉียนกลับมา

บทที่966 ลุงเฉียนกลับมา

ตระกูลลู่ในฐานะที่เป็นตระกูลชั้นสูง ทรัพยากรที่มีอยู่ก็เป็นจำนวนที่น่ากลัว แต่ตระกูลใหญ่แบบนี้ การแจกจ่ายทรัพยากรก็เข้มงวดมาก

ให้ลูกหลานทุกคนมีทรัพยากรส่วนหนึ่งไปพัฒนาตัวเอง ยิ่งพัฒนาได้ดี ทรัพยากรที่มีก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ถึงจะรับประกันได้ว่าตระกูลลู่สามารถสืบทอดโดยผู้มีความสามารถมากพอ

ตอนนี้ลู่เผิงเฟยได้รีบทรัพยากรมากขึ้นเพราะว่าเรื่องของหลี่ฝาง เลยได้รับโอกาสพัฒนามากขึ้นไปด้วย โอกาสในการช่วงชิงหัวหน้าครอบครัวตระกูลลู่ ก็มากขึ้นเยอะ

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ทรัพยากรที่ลงทุนช่วยหลี่ฝางครั้งนี้ ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเลย

……

วันถัดมา พวกหลี่ฝางนั่งเครื่องบินไปจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ครั้งนี้แม้ว่าการเดินทางมาเมืองเซี่ยงไฮ้จะเหนือความคาดหมาย แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จมาก และพวกเขายังประสบความสำเร็จในการเอาสัญญาความร่วมมือกับบริษัท เทียนไห่ กรุ๊ปมาด้วย กำไรหลายร้อยล้านทุกปีก็ไม่ไปไหนแล้ว

และตอนนี้ที่หลี่ฝางไม่รู้คือ ที่เมืองเอก มีเซอร์ไพรส์หนึ่งกำลังคอยเขาอยู่

แป๊บเดียว พวกเขาก็กลับไปที่เมืองเอก ออกมาจากสนามบิน หลี่ฝางก็มองเห็นร่างที่คุ้นเคย

“ลุงเฉียน?”หลี่ฝางมองชายวัยกลางคนที่ยิ้มหวานๆให้ตัวเองอย่างตกใจ เขายืนตะลึงอยู่ที่เดิม

“ผมกลับมาแล้ว”ลุงเฉียนเดินเข้ามา ยิ้มให้หลี่ฝางแล้วพูด

เวลานี้ หลี่ฝางรู้สึกแค่ว่าภายในใจสะดุดใจไปทั่ว อารมณ์บางอย่างระเบิดออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

“ลุงเฉียน!”

……

ครึ่งชั่วโมงถัดมา

สถานตากอากาศวันนี้หยุดทำการ ด้านในสถานตากอากาศก็ปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด เหมือนกับฉลองเทศกาลอย่างนั้น ด้านหลังครัวกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียม อาหารแต่ละจานเสิร์ฟไปที่โต๊ะเรื่อยๆไม่หยุด

ลุงเฉียนนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับหัวเราะเหอะเหอะ โหจื่อไปๆมาๆอยู่รอบๆเขา โหจื่อเหมือนกับกำลังหาเหาอย่างนั้น หยิกๆแตะๆไป เหมือนกับอยากดูว่าใช่ลุงเฉียนตัวจริงหรือไม่

“ไอ้ห่าโหจื่อนี่ หยุดก่อนได้ไหม”ลุงเฉียนดึงโหจื่อกดลงไปที่เก้าอี้“นั่งลงเดี๋ยวนี้เลย มีอะไรอยากถามก็ถามมาตรงๆก็พอ!”

“หึหึ ก็ผมแปลกใจนี่”โหจื่อถูมืออย่างอึดอัด จากนั้นก็ถามด้วยใบหน้าแปลกใจ:“ลุงเฉียน รีบบอกผมมาคุณดีขึ้นได้ยังไงกันแน่?”

“จะดีขึ้นยังไงได้อีกล่ะ ก็ค่อยๆรักษาไปไง”ลุงเฉียนหัวเราะเหอะเหอะ กลับมองเห็นคนที่อยู่รอบๆมีท่าทางสนใจอย่างมาก รวมทั้งหลี่ฝางก็มีท่าทีแปลกใจ

“โอเค ในเมื่อพวกคุณต่างอยากรู้ งั้นผมก็จะบอกพวกคุณ”ลุงเฉียนไอออกมาสองที แล้วอาการก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย

“เมื่อก่อนพวกเราลงทุนในห้องปฏิบัติการเองไม่กี่แห่งแล้วทำผลลัพธ์ออกมาได้ ทุกคนก็คิดว่าสุดยอดมากแล้ว รู้สึกพึงพอใจ อย่างไรก็ตามมีประสบการณ์ครั้งนี้แล้ว ผมจึงพบว่า ที่แท้เมื่อก่อนพวกเราก็แค่กบในกะลา เห้อ”

เห็นสภาพลุงเฉียนถอนหายใจอย่างปลงๆ หลี่ฝางก็พอจะเดาออก เข้าใจว่าครั้งนี้ลุงเฉียนจะต้องได้เห็นหลายๆสิ่งแน่ ทำให้ในใจเขาได้รับความซาบซึ้งอย่างมาก ดังนั้นจึงพูดปลอบไปว่า:“ลุงเฉียนคุณก็ไม่ต้องหมดอาลัยขนาดนี้หรอก ยังไงพวกเราก็แค่สัดส่วนเล็กๆ เริ่มต้นก็ช้า ถึงจะเทียบกับคนอื่นไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ”

“จุดนี้ผมก็รู้”ลุงเฉียนมองหลี่ฝางแล้วหัวเราะอย่างชื่นใจ:“เรื่องในช่วงนี้ของคุณผมเข้าใจแล้ว เสี่ยวฝาง คุณเติบโตขึ้นเยอะเลย”

“ล้วนแต่พึ่งพาพวกคุณทั้งนั้น ผมถึงมีวันนี้ได้”หลี่ฝางพูดอย่างปลงๆ

“ไม่ เสี่ยวฝาง ที่จริงผมดูออกนานแล้วว่า คุณกับพ่อคุณนั้นเหมือนกัน เป็นมังกรซ่อนลาย ไม่ชอบโอ้อวด แต่ถ้าคนได้เห็นก็จะตะลึงงัน ถึงไม่มีการช่วยเหลือของพวกเรา คุณก็ลิขิตมาแล้วว่าไม่ธรรมดา เพราะว่าคุณคือลูกชายของหลอซ่า!”

“อาจจะนะ”หลี่ฝางพูดไป ในใจกลับคิดไปว่า ถ้าไม่มีหลี่ต๋าคางที่พวกเขากลับมาได้ทันเวลา ถ้าไม่มีส้าวส้วย โหจื่อคนพวกนี้ที่คอยสนับสนุนมาตลอด หลี่ฝางจะเดินมาถึงจุดนี้ได้จริงๆเหรอ?เป็นไปได้มากที่จะทำไม่ได้

ชีวิตของคนเราแน่นอนว่าต้องการต่อสู้ดิ้นรน บางครั้งก็ต้องพิจารณาถึงปัจจัยในเชิงภาวะวิสัย ถึงแม้จะบอกว่าถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม แต่บางคนกลับเกิดที่กรุงโรมอยู่แล้ว

“ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว เสี่ยวฝาง คุณเตรียมตัวพร้อมจะไปโซนปีศาจหรือยัง?”จู่ๆลุงเฉียนก็ถาม

“อือ”หลี่ฝางพยักหน้าอย่างจริงใจ“ครั้งนี้ทำการร่วมมือกับพวกกู่ยี่เทียน แต่พวกเรามีแผนของพวกเราเอง ไม่จำเป็นต้องคล้อยตามพวกเขามากไป”

“อ้อ?บอกความคิดของคุณมาสิ?”ลุงเฉียนตาเป็นประกาย

หลี่ฝางยิ้ม

“ครั้งนี้ ผมวางแผนว่าจะทำการแยกกัน ……”

……

รถบัสคันหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างสั่นๆบนถนนภูเขา

รถคันนี้เรียกได้ว่าคนแน่นมาก อากาศด้านในมัวหมองมาก อยู่ด้านในแล้วทรมานสุดๆ

อย่างไรก็ตามไม่มีคนพบว่า บนหลังคารถมีชายคนหนึ่ง นอนอยู่บนผ้าห่มสะอาดผืนหนึ่ง ตากแดดส่ายไปมา สบายเป็นอย่างมาก

เขาก็คือหลี่ฝาง

ถึงจะตัดสินใจร่วมมือกับกู่ยี่เทียนแล้ว แต่หลี่ฝางไม่คิดจะฟังคำชี้แนะของกู่ยี่เทียน แต่ไปที่ซากศพปีศาจโดยตรง

ตอนนี้ทางนั้นเป็นสถานที่อันตราย ไม่รู้ว่ากี่สายตาที่จับจ้องที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นใคร แค่กล้าไปที่นั่นอย่างเที่ยงธรรม ก็จะถูกอำนาจแต่ละฝ่ายสอบสวนทันที แม้แต่กางเกงชั้นในก็ยังต้องถอดออกมาด้วย

หลี่ฝางตัดสินใจปกปิดตัวตนชั่วคราว สัมผัสเข้าไปเงียบๆ ก่อนตรงนี้ เขาต้อง“หายไป”ก่อนชั่วงหนึ่ง ให้ใครก็ตามหาเขาไม่เจอ

ขณะเดียวกัน เขาก็ส่งคนไปทางโซนปีศาจ ดำเนินตามแผน แบบนี้ ไม่ว่าที่ไหนเขาก็จะมีทางหนีทีไล่ ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินอะไร อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะมีวิธีรับมือ

แผนการนี้ ทำให้ลุงเฉียนอดไม่ได้ที่จะหนักหน้าแสดงความเห็นด้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท