NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่969 ในพวกคุณมีสายลับ

บทที่969 ในพวกคุณมีสายลับ

“ตอบคำถามมาดีๆ ผมจะปล่อยคุณไป”หลี่ฝางขู่คนขับรถ แป๊บเดียวก็ได้คำตอบที่ตัวเองอยากได้จากเขา

ที่แท้พวกเขาสี่คนก็กระทำผิดกฎหมาย เอาคนที่จับมาขายให้องค์กรที่เรียกว่าBlood gold เพื่อแลกกับเงินจำนวนมาก

องค์กรที่ชื่อBlood goldทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และความแข็งแกร่งก็ยังน่ายำเกรงสุดๆ หลายปีนี้ยังยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง เบื้องหลังซับซ้อนมาก

ผู้นำของBlood goldลึกลับมาก คนนอกรู้แค่ว่าเขาชื่อวอล์คเกอร์ แต่น้อยคนที่จะเคยเจอใบหน้าที่แท้จริงของเขา เป็นไปได้มากที่เขาจะเป็นแค่คนเดินผ่านธรรมดาๆ ไม่มีใครจำเขาได้

ในประเทศจีนอยากทำลายองค์กรนี้มาหลายครั้งแล้ว เสียกำลังคนและทรัพยากรจำนวนมาก เสียสละไปอย่างมาก แต่ก็ยังไม่สำเร็จ คนที่รู้ดีจะมองออกอย่างง่ายดายว่า เบื้องหลังBlood gold จะต้องมีตระกูลที่สูงส่งแน่

“Blood goldซื้อผู้หญิงเยอะขนาดนี้แล้วเอาไปไหน?”หลี่ฝางถาม

“อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ”คนขับรถส่ายหน้าอย่างงงงวย

หลี่ฝางรู้สึกงงมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าเรื่องราวซับซ้อนมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้

จากนั้นก็ถามอีกสองสามคำถาม พบว่าคนขับรถรู้น้อยมาก ดังนั้นหลี่ฝางจึงยอมแพ้กับการถามเขา และเอาสายตามองไปที่หญิงวัยรุ่นคนนั้น

แป๊บเดียว เขาก็รู้ว่าที่แท้หญิงสาวไปหาสามีตัวเองที่เมืองหนันตู

ที่แท้ก่อนหน้านี้สามีเขาทำงานในเมือง ทั้งสองคนติดต่อกันตลอด แต่หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้จู่ๆก็ขาดการติดต่อ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยากไปหาสามีตัวเองในเมือง

คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะเจอเรื่องแบบนี้

แป๊บเดียวก็ถึงเมืองหนันตู หลี่ฝางเอาเงินที่ได้กับคนขับรถให้หญิงสาวหมดเลย แล้วส่งเธอไปที่หน้าห้องตำรวจ จากนั้นก็ออกไปอย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้พาผมไปสถานที่ที่พวกคุณติดต่อกับBlood gold อย่าทำตัวหัวเจ้าเล่ห์ ไม่งั้นผมจะตบคุณตายด้วยฝ่ามือ”

หลี่ฝางข่มคนขับรถ คนขับรถตกใจกลัวจนรีบขับรถทันที

หลี่ฝางแอบคิดว่า เรื่องนี้เบื้องลึกเบื้องหลังต้องไม่ธรรมดาแน่ ตอนนั้นพ่อเขาถูกสี่ตระกูลใหญ่ไล่ฆ่า ก็พาคนมาที่นี่ จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ?

หลี่ฝางอยากจะรู้ทั้งหมดนี้ และทำลายBlood goldองค์กรนี้ด้วย

รถขับไปได้ระยะหนึ่ง ฟ้าก็มืดลงแล้ว ในที่สุดด้านหน้าก็ปรากฏหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในภูเขา ตำแหน่งนี้มิดชิดอย่างมาก

“คนพวกนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ”หลี่ฝางตบคนขับรถตาย ส่วนตัวเองก็ลักลอบเข้าไปเงียบๆ

……

ซูถงถงเพิ่งโยกย้ายมาจากสถานีตำรวจเขตอื่นมาที่เมืองหนันตู ก็เข้าร่วมการสืบหาครั้งนี้ เอาตัวเองเป็นเหยื่อ แต่งตัวเป็นนักศึกษาจงใจถูกจับไป

ที่จริงแล้วที่ตัวเธอแอบติดตั้งจีพีเอสเล็กๆไว้ ก็เพื่อช่วยเพื่อนร่วมงานของตัวเองล็อกตำแหน่งไว้ จากนั้นก็ทำลายที่นี่ในคราวเดียว

แต่ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ สัญญาณของจีพีเอสเหมือนก้อนหินที่จมลงไปในทะเล ไม่มีการตอบสนองใดๆ ผ่านไปหนึ่งวัน หัวใจของเธอก็ค่อยๆหม่นลงไป

ครั้งนี้ น่าจะซวยแล้ว

ซูถงถงที่เข้าใจความจริงก็วางแผนจะต่อสู้เพื่อช่วยตัวเอง ตอนที่เธอจะลงมือ ประตูห้องก็ถูกเตะออกทันที

“ผมเป็นตำรวจ คุณปลอดภัยแล้ว”ชายวัยรุ่นเดินอย่างเตะท่าเข้ามา ยิ้มแล้วพูดกับซูถงถง

มองผู้ชายวัยรุ่นคนนั้น ซูถงถงก็ตะลึงเล็กน้อย แล้วก็ตะโกนเสียงดัง:“ฉันชื่อซูถงถง รหัส 54728 หัวหน้าอยู่ไหน ฉันได้ข้อมูลที่สำคัญมาแล้ว!”

“อ๋า?”หลี่ฝางตะลึงหน่อยๆ“คุณคือ……”

“สายลับไง!ฉันคือสายลับ!”ซูถงถงตะโกน“หรือว่าพวกคุณ……”

สีหน้าของหลี่ฝางก็ดูยอดเยี่ยมขึ้นมา:“แค่กแค่ก ขอโทษนะ ผมทำเองคนเดียว นั่นอะไร เพื่อนร่วมทีมของพวกเราจะมาถึงแล้ว?”

เขาคิดในใจว่าตัวเองต้องรีบหนีหรือไม่ ไม่อย่างนั้นถ้าเจอตำรวจที่นี่คงไม่สนุกแน่

“ไม่ พวกเขาน่าจะไม่กลับมาแล้ว”ท่าทางแสดงออกของซูถงถงทรุดลงทันที อย่างกับอกสั่นขวัญหาย

“หมายความว่าไง……”หลี่ฝางตอบสนองคืนมา“คุณถูกคนของตัวเองหักหลังแล้ว”

ซูถงถงเงียบไม่พูด

หลี่ฝางถอนหายใจ ไม่พูดอะไร เดินไปด้านนอก ซูถงถงที่อยู่ด้านหลังก็เดินออกมาเงียบๆไม่พูดอะไร

มองผู้หญิงสิบกว่าคนด้านนอก ซูถงถงก็ตะลึงอีก

“พวก พวกนี้……”ซูถงถงมองเล็กน้อย น่าจะมีผู้หญิงสักสามสิบกว่าคนได้ ล้วนแต่ถูกขังไว้ที่นี่

“พระเจ้า”ซูถงถงอุทานออกมา“อย่างน้อยที่นี่ก็มีคนสิบกว่าคนขึ้นไปเฝ้าดู และยังมีอาวุธที่อันตรายด้วย แต่ถูกคุณคนเดียวตีแพ้เนี่ยนะ?”

หลี่ฝางพูดยิ้มๆ:“ยังมีอีกสองสามคนที่รอด ผมจะไปถามสักหน่อย คุณดูพวกเธอดีๆ”

พูดไป หลี่ฝางก็เข้าไปในห้องเดี่ยวห้องหนึ่ง สามคนด้านในต่างถูกหลี่ฝางตัดขาแล้วมัดไว้

พวกเขาคือหัวหน้าของคนกลุ่มนี้ ตอนที่หลี่ฝางบุกเข้ามาก็เย่อหยิ่งที่สุด ท่าทางแบบนั้นแม้แต่หลี่ฝางก็ดูต่อไปไม่ไหว เพราะว่าสำหรับคนอื่นแล้วล้วนแต่เป็นการให้ความสะใจ ให้พวกเขารีบเดินทาง ส่วนสำหรับสามคนนี้ก็ทิ้งไว้สักพักก่อน

แน่นอนว่า เหตุผลที่มากกว่านั้นก็คือเขายังอยากจะรู้เรื่องราวอีกสักหน่อยจากคนพวกนี้

พอเห็นหลี่ฝาง ทั้งสามคนก็มีใบหน้าหวาดกลัวทันที

มองเห็นสามคนนี้ถูกยัดถุงเท้าเหม็นๆไว้ในปาก ใบหน้าหลี่ฝางก็ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้าย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท