NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่973 เรียกลูกพี่พวกคุณมาสิ

บทที่973 เรียกลูกพี่พวกคุณมาสิ

หลี่ฝางไม่มีทางเลือกเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่ว่าเสียเปรียบทางวัฒนธรรม เขาไม่พูดพวกนี้แน่ แล้วทำไมเขาต้องหาไกด์มาด้วยล่ะ

“แบบนี้ละกัน”หลี่ฝางหยิบเงินก้อนหนาๆออกมาอีกครั้ง“นี่ห้าพัน แค่คุณพาผมไปก็พอแล้ว”

มองห้าพันนั้น โล่ซือหานก็ตาเบิกโต สุดท้ายความระวังตัวในใจก็พ่ายแพ้ให้กับเงิน ตอบไปว่า:“โอเค……แต่ว่าฉันจะพูดให้ชัดเจนนะ ฉันแค่รับหน้าที่พาคุณไปที่นั่น เรื่องอื่นฉันไม่สนนะ”

“แน่นอน”

แป๊บเดียว หลี่ฝางก็ตามโล่ซือหานเดินผ่านถนนใหญ่ทีละสายไป ทีละนิดๆ บรรยากาศรอบๆก็ค่อยๆทรุดโทรม ผู้คนก็ค่อยๆน้อยลง แม้แต่ถนนก็ยังเริ่มขรุขระ

สุดท้ายในที่สุดก็มาถึงย่านสลัม สภาพแวดล้อมที่นี่เรียกได้ว่าแย่ เหมือนกับสลัมในหนังเลย

“ถึงแล้ว”โล่ซือหานหยุดฝีเท้าลงพูดว่า“ที่นี่ก็ค่อนข้างอันตรายแล้ว หัวขโมย คนต้มตุ๋นต่างๆอยู่ที่นี่หมด กระเป๋าเงินของคุณจะถูกขโมยได้ถ้าไม่ระวัง”

หลี่ฝางมองโล่ซือหานที่ดูซีเรียส ท่าทางที่พยายามใช้ภาษาขู่ให้เขาไปนั้นรู้สึกตลกหน่อยๆ แต่เขายังแกล้งทำเป็นพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ดีมาก งั้นก็เริ่มจากตรงนี้ ไปจนสุดทาง”หลี่ฝางคิดในใจ“เริ่มจากพวกอันธพาลธรรมดาก่อน”

คิดเล็กน้อย หลี่ฝางก็ถามไปตรงๆ:“พาผมไปดูแหล่งเที่ยวผู้หญิงของที่นี่หน่อย”

“อะไรนะ?”ทันใดนั้นโล่ซือหานก็ตะลึง มองหลี่ฝางอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“แหล่งเที่ยวผู้หญิง,”หลี่ฝางพูดซ้ำอีกรอบ“ก็สถานที่ทำเรื่องแบบนั้น คุณคงไม่ได้ว่าไม่รู้จักหรอกนะ?”

“คุณไปหาเองเถอะ ไอ้ระยำ!”โล่ซือหานโมโหสุดๆ หันหน้าเดินออกไป

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า หลี่ฝางมาไกลถึงที่นี่ ตอบสนองเป็นอย่างแรกก็คือสถานที่แบบนี้

เธอคิดว่าตัวเองไม่ตบเขาสักฉาด ก็ถือว่าดีแล้ว

ก็แค่พอเลี้ยวเข้าซอยหนึ่ง เธอก็ลังเลขึ้นมา

ยังไงก็เป็นตัวเองที่พาเขามาสถานที่อันตรายแบบนี้ ถ้าเขาหายไปจากที่นี่ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

พอคิดแบบนี้ โล่ซือหานก็เตรียมจะกลับไปอีกครั้งเพื่อพาเขาออกมา อย่างไรก็ตามเธอหันหน้าไป ก็ถูกคนหนึ่งทำสลบไป แล้วลากเข้าไปในซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง

แป๊บเดียว โล่ซือหานก็ถูกคนสองคนทิ้งไว้ในรถคันหนึ่ง แล้วรถก็ขับไปอย่างรวดเร็ว

แต่ที่เขาไม่เห็นก็คือ หลี่ฝางตามอยู่หลังรถ ตามขึ้นไปด้วยความเร็ว

แป๊บเดียว หลี่ฝางตามรถมาที่หน้าตึกเล็กๆชั้นสามแห่งหนึ่ง มองคนสองคนแบกโล่ซือหานเข้าไปในตึก

และในตึกเล็กๆยังมีคนอีกสามคน กำลังดื่มเบียร์กินอะไรกันอยู่

คนตัวเตี้ยเดินเข้ามาอวดสามคนนั้น:“ครั้งนี้ผมได้ของดีมา จะต้องได้เงินไม่น้อยแน่”

“ดูเหมือนจะเป็นคนจีน”ชายปลิ้นปล้อนคนหนึ่งในสามคนนั้นพูด“ดูเหมือนจะเป็นลูกครึ่ง”

“ลูกครึ่งแล้วไง?”คนตัวเตี้ยหัวเราะหึหึ“หลายๆคนชอบแบบนี้”

“โอเค”ชายปลิ้นปล้อนพูดว่า“ตามกฎเดิมแล้ว ให้เธอรู้กฎก่อน”

“แน่นอน”คนตัวเตี้ยหัวเราะหึหึ หัวเราะได้ปลิ้นปล้อนกว่าชายปลิ้นปล้อนเสียอีก

ได้ยินประโยคนี้ หลี่ฝางรู้ว่าไม่อาจวางแผนระยะยาวโดยไม่รีบหวังผลได้แล้ว หมดหนทางได้แต่ลงมือ พริบตาเดียวก็ตีทุกคนสลบ

วางโล่ซือหานไว้บนโซฟา หลี่ฝางตบหน้าของเธอเบาๆ แป๊บเดียวเธอก็ฟื้นคืนมา

จากนั้นสีหน้าโล่ซือหานก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัวสุดๆ

“อย่าฆ่าฉัน!อย่าฆ่าฉัน!”

“ขอร้องคุณล่ะอย่าขายฉัน ฉันฉันฉัน ฉันเป็นโรคติดต่อด้วย ฉัน ……”

หลี่ฝางถอนหายใจ เข้าไปกดหัวของโล่ซือหานให้เธอมองคนที่ถูกตัวเองมัดไว้ดีๆ

“เห็นไหม คนที่จับคุณถูกผมจัดการหมดแล้ว ผมมาช่วยคุณต่างหาก”

“อ๋า คุณ……”โล่ซือหานตะลึง“คุณทำอะไรกันแน่?”

“ผมบอกว่าผมมาทำความดีคุณเชื่อไหม?”หลี่ฝางกลอกตาใส่ พูดว่า“นั่งตรงนี้ดีๆ ผมจะขึ้นไปดู”

ถูกหลี่ฝางทิ้งอยู่ตรงนี้คนเดียว ในใจโล่ซือหานเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ จึงมองหลี่ฝางที่แป๊บเดียวก็ลงมาจากด้านบนอย่างตื่นตระหนก พร้อมกับลากคนสองคนเหมือนกับลากหมาที่ตายแล้วมาด้วย

“คุณมาเป็นล่ามหน่อย”หลี่ฝางพูดกับโล่ซือหาน:“บอกพวกเขา ตอบคำถามดีๆ ผมให้พวกเขาทรมานน้อยลงได้”

โล่ซือหานกลืนน้ำลาย รีบแปลคำพูดของหลี่ฝาง

คิดไม่ถึงว่าคนพวกนั้นจะหัวเราะเย็นชาอย่างดูถูก ชายปลิ้นปล้อนขู่ไปโดยตรงว่า:“กล้าสู้กับพวกเรา คุณคิดว่าตัวเองเจ๋งมากเหรอ?บอกให้นะ รีบปล่อยพวกเราซะ ไม่อย่างนั้นคุณตายอย่างอนาถแน่ ……”

หลี่ฝางคิดว่าข่มขู่แบบนี้น่าเบื่อมาก โบกมือให้โล่ซือหานไม่ต้องแปลอีก แล้วจึงยกเท้าขึ้นถีบนิ้วมือของชายปลิ้นปล้อนขาด

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นจากปากของชายปลิ้นปล้อน แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงแข็งข้อ ยังคงด่าทออย่างรุนแรง สบถคำหยาบต่างๆไม่หยุด

โล่ซือหานไม่กล้ามองกลุ่มคนท่าทางโหดเหี้ยมพวกนั้นอีก หันหน้าด้วยความกลัวตัวสั่นงันงก พูดกับหลี่ฝางว่า:“พวกเขามันบ้า พยายามอย่างสุดชีวิตแค่เงินไม่กี่ร้อย ……”

“เหอะเหอะ บ้าไปแล้ว?”หลี่ฝางหัวเราะ“งั้นก็ให้ผมมารักษาอาการบ้าของพวกเขาละกัน”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท