NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่980 เกิดอะไรขึ้น

บทที่980 เกิดอะไรขึ้น

หลี่ฝางลืมตาขึ้นมา มองเห็นป่าทึบหนา ส่วนที่ตัวของตัวเองนั้นก็เปียกโชน และยังรู้สึกว่าทั้งร่างกายไม่มีแรง

“เกิดอะไรขึ้น?”หลี่ฝางส่ายหัวที่ตอนนี้ยังรู้สึกมึนๆอยู่ แล้วจึงมองเห็นสถานการณ์ของตัวเองในปัจจุบัน

ร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาจมลงไปในหนองน้ำ และห่างจากเขาไปประมาณหนึ่งหรือสองกิโลเมตร ก็มีเครื่องบินลำหนึ่งตก แต่ตอนนี้แตกเป็นเสี่ยงๆกลายเป็นซากเศษเหล็ก และมีควันหนาๆออกมา

หลี่ฝางนึกไม่ออกเลยว่าทำไมตัวเองถึงปรากฏตัวอยู่นี่ และก็จำไม่ได้ว่าเครื่องบินลำนั้นมาจากไหน เขาจำได้แค่ว่าหลังจากตัวเองกำจัดฐานทัพบริษัทคลอริสพวกนั้นเสร็จ เอาธนาทิ้งไว้ในฐานทัพ จากนั้นก็ออกมาคนเดียว

เขาเชื่อว่าแป๊บเดียวทีมหลงหยาที่รีบมาถึงจะจัดการปัญหาที่ตามมาได้ งานตามเก็บพวกนี้ไม่ต้องให้เขากังวลแน่ๆ และเขาเองก็มีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ

จากนั้น……ความทรงจำจากนี้ก็ว่างเปล่า

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”หลี่ฝางดูงุนงง ทั้งที่เขากำลังอยู่ระหว่างทางที่ไปโซนปีศาจ ตอนนี้จู่ๆกลับปรากฏในสถานที่ปีศาจแบบนี้ ที่สำคัญคือความทรงจำที่เกี่ยวข้องนั้นเขาไม่มีเลย

การเปลี่ยนแปลงที่ยากจะเชื่อนี้ ทำให้หลี่ฝางไม่อาจยอมรับได้ในทันที

แต่แป๊บเดียวหลี่ฝางก็เอาปัญหาทุกอย่างทิ้งไว้ เพราะว่า……หลี่ฝางใกล้จะจมลงไปแล้ว

น้ำโคลนมาถึงคอแล้ว ผ่านไปอีกสักพัก ถ้าหลี่ฝางไม่เงยหน้าขึ้น ก็ได้แต่ชิมรสชาติของน้ำโคลนที่สกปรกและเหม็นในหนองน้ำ

พอรู้สึกถึงสภาพตอนนี้ของตัวเอง ในใจหลี่ฝางก็หม่นลง กำลังภายในที่เดิมทีมีอยู่มากมายในร่างกายเขา ตอนนี้เหลือเพียงแต่ความน่าสมเพช กระทั่งว่ายังเทียบไม่ได้กับตอนที่เขาเพิ่งได้รับกำลังภายในมา

กำลังภายในนี้ ถึงแม้ปล่อยออกไปหมด กลัวว่าจะเท่ากับแรงหมัดของผู้ใหญ่คนหนึ่ง พูดง่ายๆคือ ไม่มีประโยชน์ห่าไรเลย

ร่างกายของเขาก็ยังไม่ดี ทั้งร่างกายยังเจ็บ แต่น่าจะไม่มีกระดูกหัก แต่ว่าตอนนี้เขาก็ออกแรงไม่ไหว แขนขาอ่อนแรง เหมือนเพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วยหนัก ร่างกายแข็งแรงที่เดิมทีกำลังภายในไม่หยุดแข็งแกร่ง ตอนนี้มันกลายเป็นเหมือนคนธรรมดา และยังด้อยกว่าเล็กน้อยด้วย

หลี่ฝางพยายามดิ้นรนสองสามครั้ง ไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลใดๆ กลับทำให้ตัวเองจมลงไปอีก

สิบวินาทีถัดมา น้ำโคลนก็ไม่พ้นจมูกของหลี่ฝาง ตอนที่เขาจะปลงว่าชีวิตของตัวเองจะจบลงที่นี่ จู่ๆเขากลับพบว่า เท้าของตัวเองแตะไปที่พื้น

ที่แท้บึงแห่งนี้ก็ไม่ลึกเท่าไหร่เลย

ดังนั้นหลี่ฝางเริ่มเดินไปทางขอบโคลน เดินออกไปอย่างรวดเร็ว สลัดออกจากหนองน้ำนี้ นอนล้มไปที่พื้นโดยตรง

ไม่มีการสนับสนุนของกำลังภายใน ร่างกายของเขาอ่อนแออย่างชัดเจน หอบอยู่นานถึงค่อยๆผ่อนคลายลง

กลิ่นอากาศนั้นเหม็นมาก และความร้อนชื้น ทั้งหมดต่างทำให้หลี่ฝางรู้สึกแย่สุดๆ

สายตาของหลี่ฝางมองไปที่ซากปรักหักพังเครื่องบินที่อยู่ไม่ไกล เตรียมหาดูว่ามีอะไรไหมที่จะช่วยตัวเองได้บ้าง

เกือบครึ่งชั่วโมงถัดมา

หลี่ฝางเจอศพสองสามศพจากซากปรักหักพังของเครื่องบิน ดูเหมือนเป็นคนต่างชาติ ส่วนชาติไหนนั้นหลี่ฝางไม่อาจตัดสินได้ หลี่ฝางก็หาของใดๆที่มาแสดงตัวตนของเขาไม่ได้

เขาไม่มีความรู้ในการใช้หน้าตาตัดสินสัญชาติอะไรพวกนี้เลย แค่แยกออกว่าเป็นคนขาวหรือคนผิวสีได้ก็มากพอแล้ว

ใช้เวลาไปเล็กน้อย หลี่ฝางเอาคนพวกนี้ใส่ไปในดิน ยังดีที่ดินในนี้ค่อนข้างนุ่ม ไม่ทำให้หลี่ฝางต้องใช้แรงมาก ไม่อย่างนั้นหลี่ฝางก็จะยอมแพ้ทำเรื่องดีๆที่ไม่มีใครรู้แบบนี้ไป

หลี่ฝางนั่งอยู่ที่พื้น กินช็อกโกแลตไปอันชิ้น นี่เป็นของที่เขากินได้เพียงอย่างเดียวจากที่หาเจอบนเครื่อง แค่สี่ห้าชิ้น เพื่อชีวิตที่ยืนยาว หลี่ฝางจึงกินไปหนึ่งชิ้น เอาที่เหลือใส่ในกระเป๋ากางเกงไว้

ที่โชคดีคือ เขาพบว่ากำลังภายในของตัวเองเพิ่มขึ้น ความเจ็บของร่างกายก็ค่อยๆลดลง หมายความว่าเขาจะฟื้นคืนกลับมาใช้เวลาไม่นานนัก

หลังจากเพิ่มไปเล็กน้อย เขาก็เข้าไปในเครื่องบินอีกครั้ง สิบกว่านาทีถัดมา หลี่ฝางพบอย่างประหลาดใจว่า การสื่อสารไร้สายบนเครื่องบินดันใช้ได้อยู่ เขาจึงเริ่มลองขอความช่วยเหลือทันที

แต่พอดูป่าดึกดำบรรพ์ที่ไม่ค่อยมีคนผ่านเข้ามาอย่างนี้แล้วนั้น ความเป็นไปได้ที่จะสามารถมีคนได้รับสัญญาณก็น้อยจริงๆ หลี่ฝางจึงได้แต่พยายามให้ดีที่สุดก็พอ

หลังจากเรียกขอความช่วยเหลือไปแล้ว หลี่ฝางก็เตรียมลองทำเข็มทิศนำทางด้วยตนเอง

หลักการก็ง่ายมาก เคยเรียนตอนประถม แรงเสียดทานของเข็มโลหะเล็กๆทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต และการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าทำให้เกิดสนามแม่เหล็กชั่วคราว การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำให้เกิดคุณสมบัติแม่เหล็กชั่วคราว

จากนั้นเอาเข็มเล็กวางไว้บนใบไม้ยาวๆเล็กๆแผ่นหนึ่ง แล้วค่อยเอาใบไม้วางไว้บนน้ำ เข็มทิศนำทางง่ายๆก็เสร็จแล้ว

ส่วนเข็มเล็กๆนั้น เป็นคลิปหนีบกระดาษที่หลี่ฝางหาเจอบนเครื่องบิน

เดิมทีคาดหวังว่าของสิ่งนี้จะสามารถระบุทิศทางให้ตัวเองได้ อย่างไรก็ตามหลี่ฝางกลับพบว่า เข็มทิศนำทางดันหมุนอยู่ในน้ำไม่หยุด จนแม่เหล็กหายไปจึงหยุดลง

“นี่เป็นสนามแม่เหล็กแปลกประหลาดอะไรกัน?”หลี่ฝางก็ตะลึงทันที แล้วจิตใต้สำนึกจึงมองซากปรักหักพังเครื่องบินตรงนั้น

ทันใดนั้นเขาก็สงสัยเล็กน้อยว่าเครื่องบินลำนั้นได้ถูกสนามแม่เหล็กแปลกประหลาดในนี้ทำเสียหรือไม่

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท