NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 993 นายตบตาฉัน?

บทที่ 993 นายตบตาฉัน?

หลี่ฝางหยิบใบยาขึ้นมา นั้นคือสิ่งที่ก่อนจะแยกจากส้าวส้วยให้เขามา ด้านบนนั้นเขียนยาสมุนไพรที่ต้องการ

กู่เฟยชิงรับใบยามาดู สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย และมองดูอยากลำบอกใจเล็กน้อย และมองไปที่ผู้อาวุโสรอบๆ

ผู้อาวุโสหลายท่านค่อยๆ เข้ามาดู จากนั้นสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก และใช้สายตาพูดคุยกันอย่างไร้เสียง

สำหรับท่าทีเล็กน้อยของคนพวกนี้ หลี่ฝางไม่ได้ห้าม และก็ไม่ได้พูดอะไร ถึงยังไงสำหรับเขาแล้ว ความคิดเห็นของคนพวกนี้ไม่สำคัญ ขอแค่ตนได้สิ่งที่ต้องการก็พอแล้ว

ถ้าหากคนพวกนี้ยินดีมอบให้เขาอย่างเชื่อฟัง แบบนั้นหลี่ฝางก็ยินดีที่จะยอมแลกบางอย่างเล็กน้อย ถ้าหากไม่ยอมให้เขา อาจจะทำให้เรื่องนั้นยุ่งยาก แบบนั้นหลี่ฝางก็คงจะไม่เกรงใจพวกเขาเป็นธรรมดา

สีหน้าของคนพวกนั้นยิ่งดูยิ่งลังเล ในตอนนั้นกู่ชิงเสว่ก็เดินเข้ามา ยิ้มและหยิบกระดาษแผ่นนั้นไป สองตามอง ทันใดนั้นก็เข้าใจแล้ว และหันไปยิ้มอ่อนๆ ให้หลี่ฝาง

“ปรมาจารย์หลี่ท่านมาหายาถึงที่ หุบเขาราชายาก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธ แต่ตัวยาที่ปรมาจารย์หลี่ต้องการนั้นล้วนแต่เป็นตัวยาที่หายากมากๆ หาได้แค่ในคลังยาลับของหุบเขาราชายา และคลังยาลับของหุบเขาราชายามีแค่ท่านพ่อเท่านั้นที่สามารถเปิดออกได้ และท่านพ่อกำลังปรุงยาอายุวัฒนะที่สำคัญอยู่ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะปรุงเสร็จ และก็ก่อนจะปรุงเสร็จก็ไม่สามารถรบกวนได้ ทำได้แค่รบกวนปรมาจารย์หลี่ต้องรอสักกี่ชั่วโมง ต้องขออภัยปรมาจารย์หลี่ด้วยค่ะ”

หลี่ฝางได้ยินคำพูดของกู่ชิงเสว่ดูดีแบบนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ จึงพยักหน้าพลางพูด: “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”

กู่ชิงเสว่ยิ้มยินดี: “เอาแบบนี้มั้ยคะเดี๋ยวกู่ชิงเสว่จะพาปรมาจารย์หลี่ไปเดินเที่ยวหุบเขาราชายา เพื่อไม่ให้ปรมาจารย์นั่งเบื่ออยู่ที่นี่”

“ใช่ ปรมาจารย์หลี่ พวกเราผู้เฒ่านั่งคุยเป็นเพื่อนท่านอาจจะน่ารำคาญเกินไป ออกไปเดินเล่นกับกู่ชิงเสว่ดีกว่า”

กู่เฟยชิงพยักหน้ารัวๆ พลางพูด “หุบเขาราชายาของเราถึงแม้ไม่ใหญ่นัก แต่ว่าวิวทิวทัศน์บางแห่งก็ไม่เลว”

หลี่ฝางใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจก็อดไม่ได้ที่อยากจะด่า ตาแก่พวกนี้มีความสุขกันจริง ไม่ใช่ลูกสาวของเขานี่

แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ และตามกู่ชิงเสว่เดินไปรอบๆ หุบเขาราชายา

หุบเขาราชายานี่ก็วิวทิวทัศน์สวยจริงๆ ด้านนอกหาดูได้ยาก ก็ทำให้สายตาของหลี่ฝางได้ดื่มด่ำ

แต่ที่ทำให้หลี่ฝางรู้สึกประหลาดก็คือ ท่าทีของกู่ชิงเสว่คนนี้มันไม่ค่อยปกติ ราวกับว่าชอบเขาแล้วอย่างนั้น เข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ บรรยากาศระหว่างสองคนนี้ยิ่งหวานชื่นขึ้น

ทั้งสองมาถึงสวนดอกไม้ ด้านในมีผีเสื้อโบยบินในท่าต่างๆ เต็มไปหมด กู่ชิงเสว่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ตัวแทบจะแนบกับหลี่ฝาง

“ปรมาจารย์หลี่ ที่นี่เลี้ยงดูผีเสื้อเอาไว้มากมาย ธรรมดาเป็นฉันที่มาดูแล เพราะงั้นปกติที่นี่จึงไม่ค่อยมีคน……”

เธอพูด พลางค่อยๆ ขยับหน้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าแดงก่ำ และพ่นลมหายใจ

“แม่นางท่านนี้ต้องการอะไรกันแน่?” ในเวลานี้หลี่ฝางไม่เชื่อจริงๆ ว่าอีกฝ่ายเลื่อมใสเขาแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงความประทับใจแรกที่สง่างามและเหมาะที่หลี่ฝางมีต่อกู่ชิงเสว่ ถึงแม้จะกล้าแสดงออกอย่างไม่เกรงกลัวก็ตาม แต่ก็เป็นไปไม่ที่จะถวายตัวให้กับคนที่เจอกันครั้งแรกมั้ย?

คิดอยู่ครู่ หลี่ฝางก็ตัดสินใจตามน้ำเธอไป ดูว่าเธอต้องการทำอะไรกันแน่

“ปรมาจารย์หลี่ ท่านว่าฉันดูดีมั้ย……” สายตาของกู่ชิงเสว่ปรือๆ และค่อยๆ พิงมาทางหลี่ฝาง จู่ๆ ร่างกายก็เหมือนกับเสียสมดุล ทันใดนั้นก็ล้มดูเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของหลี่ฝาง

วินาทีนั้นนิ้วของเธอก็ค่อยๆ ดึงเข็มขัดเสื้อเบาๆ เสื้อที่คลุมอยู่ด้านนอกทันใดนั้นก็ถูกตัวเธอปลดออกเองทันที

“ปรมาจารย์หลี่ ได้โปรดอย่า……” กู่ชิงเสว่ก็สะดุ้งราวกับตกใจทันที จนกิ๊บติดผมหยกหลุดออกมาจากผม และร้องอย่างตกใจและถอยหลังไป

“หยุดนะ!” วินาทีนั้น ก็มีเสียงเรียกร้องดังขึ้น ก็เห็นร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาแต่ไกล และพุ่งเข้ามาอย่างเร็ว

หลี่ฝางเห็นก็อึ้ง คิดไม่ถึงว่าตัวเองอะไรก็ไม่ได้ทำ เป็นอีกฝ่ายที่เล่นจริง

ทักษะการแสดงแบบนี้เรียกได้ว่านักแสดงที่ได้รางวัลพวกนั้นยังอายจนแทบฆ่าตัวตาย

เงาสีเทาเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว หลี่ฝางก็เห็นว่าเป็นหญิงชราที่หน้าแก่ สวมชุดสีเทาทั้งร่าง ถึงแม้จะแก่จนไม่รู้จะแก่ยังไง แต่ความโกรธบนใบหน้าของเธอนั้นรุนแรงมาก ความโกรธไม่น้อยไปกว่าคนหนุ่มสาว

“ผู้ชายตัณหากลับมาจากไหนนี่ บังอาจมารังแกชิงเสว่ของฉัน!” หญิงชราตะคอกไปทางหลี่ฝาง

“ย่าทวด……”

กู่ชิงเสว่ในตอนนั้นกลับทำท่าน่าสงสาร เธอหลบอยู่ด้านหลังหญิงชราและร้องไห้สะอื้น

ปรมาจารย์กำลังภายใน? หลี่ฝางตกใจเล็กน้อย คุณยายเฒ่าคนนี้อายุประมาณร้ายสี่สิบกว่าปีได้แล้วมั้ง!หุบเขาราชายามีปรมาจารย์กำลังภายในอยู่ถึงสองคน เรื่องนี้ทำให้หลี่ฝางประหลาดใจจริงๆ

“ไอ้ตัณหากลับ เมื่อกี้แกทำอะไรห้ะ!”

หญิงชราคนนี้ด่าอย่างโมโห ทำให้สีหน้าของหลี่ฝางเข้มขึ้น

“คุณยายเฒ่า คุณอายุมากแล้ว สายตาไม่ดีแล้วใช่มั้ย?” หลี่ฝางหึอย่างเย็นชา

เขาเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ โดยเฉพาะยายเฒ่าที่มาชี้หน้าด่าคนอื่น

เมื่อได้ยินหลี่ฝางพูดแบบนี้ หญิงชราก็โมโหจนหน้าแดงขึ้นมาทันที ในหุบเขาราชายา มีใครกล้าทำท่าทีแบบนี้ใส่เธอ?

“ไอ้เดรัจฉาน ไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ แม่จะสั่งสอนแกซะให้เข็ด!”

หญิงชราโมโห จึงยกมือขึ้นมาแล้วตบไปทางหลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท