NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 989 ความทรงจำฟื้นคืน

บทที่ 989 ความทรงจำฟื้นคืน

“เหอะๆ ” หลี่ฝางยิ้มอีกครั้ง “เห็นแววตาของนายแบบนี้ เห็นทีจะรู้จักฉันมานานแล้ว ที่ฉันมาถึงที่นี่ เป็นนาย หรือว่าเป็นแผนร้ายของคนที่อยู่เบื้องหลังนายกัน?”

“ไม่……เห็นที่ความทรงจำของนายยังไม่กลับมาสินะ”

จู่ๆ จอร์จก็ยิ้มฮี่ๆ อย่างเย็นชา: “ของที่ฉันอยากได้ก็ได้แล้ว นายก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ที่จริงหลังจากเข้ามาถึงที่นี่ ฉันก็คิดว่าจะกำจัดนายทิ้งซะ แต่ว่าก็กังวลว่าด้านในจะมีอันตรายอะไร ดังนั้นจึงเก็บนายไว้ลองทาง แต่ว่าเรื่องพวกนี้ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องบอกนาย นายจงตายไปพร้อมกับความสงสัยเถอะ”

“อย่างนายเหรอคิดจะฆ่าฉัน?” หลี่ฝางทำหน้าแบบบอกไม่ถูก: “นายเอาความกล้ามาจากไหน?”

“หึๆๆ ……” จอร์จหัวเราะอย่างเย็นชารัวๆ จู่ๆ ก็ยกมือขึ้นตบรูปปั้น เมื่อได้ยืนเสียงดังขึ้น ขณะที่จอร์จยกมือขึ้นมา ด้านบนนั้นก็มีรอยมือปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

“อันดับกำลังภายในลำดับที่หก สามารถแบบนี้ พอจะฆ่านายได้แล้วใช่มั้ย”

“อันดับกำลังภายในลำดับที่หก? มารพันหน้า?” หลี่ฝางสีหน้าเปลี่ยน

มารพันหน้า เป็นปรมาจารย์กำลังภายในที่ปลอมตัวได้เก่งมาก แม้กระทั่งเปลี่ยนรูปร่างส่วนสูงของตัวเองได้ แปลงกายเป็นบุคคลอื่นถึงขึ้นที่แยกตัวจริงตัวปลอมได้ยากมากๆ

ฐานะของมารพันหน้านั้นลึกลับมากๆ ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา

“ถึงแม้นายจะเข้าแดนเต๋าแล้ว แต่พลังของนายยังฟื้นฟูมาไม่ครบ นี่คือผลลัพธ์ที่ฉันสังเกตอย่างระมัดระวังมาตลอดทาง

นายในตอนนี้ ก็เหมือนกับปลาดุกที่อยู่บนเขียง ฉันจะฆ่านาย เป็นเรื่องที่ง่ายแบบไม่ต้องใช้แรงเลย”

เมื่อเสียงหยุดลง จอร์จก็แว๊บตัวอย่างเร็ว และมาอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง ปัดมือขวา แล้วใช้มีดพกแทงไปทางหน้าหน้าอกของหลี่ฝาง

หลี่ฝางตั้งรับไว้นานแล้ว วินาทีนั้นก็บิดตัว และตีลังกาหลบด้วยมือข้างเดียว ปรับท่าทางพร้อมกับการหลบหลีกการโจมตี เตรียมตัวสวนกลับได้แล้ว

“แหมๆ ……สมแล้วที่เป็นผู้แข็งแกร่งของแดนเต๋า แม้ว่าจะเสียพลังไม่ส่วนใหญ่ ก็ยังคงมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วเช่นนี้”

จอร์จมองท่าทีของหลี่ฝาง และพูดอย่างสนใจ “แต่เสียดาย……ที่นายต้องมาเจอฉัน”

วินาทีต่อมา แว๊บเดียว เงาร่างของเขาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง และชกหลี่ฝางลงไปกองกับพื้น

หมัดนี้หนักเอาการ ทำเอาหลี่ฝางรู้สึกว่ากระแสเลือดในร่าง ลมหายใจ แม้กระทั่งหัวใจ ทั้งหมดล้วนหยุดทำงาน

“เป็นยังไง รู้สึกว่าร่างกายตัวเองอ่อนแรงไร้กำลังแล้วใช่มั้ย” จอร์จเดินรอบหลี่ฝางอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “รับรู้ความจริงแล้วใช่มั้ย นายในตอนนี้ ก็แค่เหมือนลูกแกะที่รอให้ฉันฆ่าเท่านั้น!”

“เหอ เหอะๆ ……”

หลี่ฝางที่ถูกจอร์จชกจนกองอยู่กับพื้น จู่ๆ ก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา

“นายหัวเราะอะไร!” เมื่อได้ยินว่าหลี่ฝางหัวเราะ ทันใดนั้นจอร์จก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที เขาตะคอกและเตะไปที่ตัวหลี่ฝาง จนหลี่ฝางกระเด็นออกไป กระแทกกับรูปปั้น และไหล่ลงมา นั่งบนพื้นพิงขนาบกับรูปปั้น

หลี่ฝางที่พิงรูปปั้น ยังคงก้มหน้า ไหล่สองขยับยึกยัก และมีเสียงดังขึ้นเป็นระยะๆ เสียงหัวเราะเยาะเย้ยอย่างเยือกเย็น

“เหอะๆ หึๆ ฮ่าๆๆๆ ……”

เสียงหัวเราะอย่างเย็นชาเบาๆ ค่อยๆ กลายเป็นเสียงหัวเราะที่ดังก้อง หัวที่ก้มอยู่ของหลี่ฝางก็เงยหน้าสูงขึ้นเช่นกัน สีหน้ามีความสุข

“ฉันจำได้แล้ว ฉันจำได้ทั้งหมดแล้ว……”

หลี่ฝางพูด พลางลุกขึ้นยืนอย่างโซเซ

“มาร……พันหน้า? ไอ้มารพันหน้า แปลงกายมาเป็นฉัน และใช้รูปร่างของฉันเข้าหาพ่อแม่ของฉัน และลงมือในวินาทีที่วิกฤติ หึหึ……ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เตรียมรับมือไว้ก่อน แอบดู และเจาะลึกแผนการของพวกนาย บางทีพวกนายอาจจะทำสำเร็จไปแล้วจริงๆ ก็ได้……”

ตามที่หลี่ฝางพูดบรรยาย ความทรงจำที่หายไปของเขาก็กลับเข้ามาฉายในหัวเขาอีกครั้ง

นั้นคือหลังจากที่เขาได้แก้ไข้บริษัทคลอริส หลังจากการเดินทางอันยาวนานในที่สุดก็มาถึงโซนปีศาจ และจากสัญญาณลับที่พวกหลี่ต๋าคางทิ้งไว้ก็ทำให้หาร่องรอยของพวกเขาเจอ

อย่างไรก็ตามหลี่ฝางตั้งใจจะปกปิดตัวเองไม่คิดที่จะปรากฏตัวโดยตรง แต่จะแอบซ่อนตัวในความมืดเพื่อเฝ้าสังเกตผู้คน ดูเหมือนว่าจะไม่มีอันตรายซ่อนอยู่ในความมืดเช่นกัน หลี่ฝางก็สามารถกำจัดได้โดยตรง

ผลของการทำงานอย่างรอบคอบ ทำให้หลี่ฝางพบว่าที่แท้ข้างกายหลี่ต๋าคางนั้นมีหลี่ฝางอีกคนนึงปรากฏตัวขึ้น

สมกับเป็นมารพันหน้า ความสามารถในการแปลงกายนั้นดีมากๆ ถ้าหากหลี่ฝางไม่เห็นด้วยตาตัวเอง เกรงว่าทุกคนจะถูกหลอกโดยการแปลงกายเลียนแบบที่ยอดเยี่ยมของเขา

หลี่ฝางไม่ได้รีบออกมาเปิดโปงมารพันหน้า แต่ยังคงหลบซ่อนอยู่ในมุมมืด อยากจะเห็นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นอยากทำอะไรและขณะเดียวกันก็แอบวางแผนอยู่ในมุมมืด แค่รอดูโชว์ดีๆ

ความเป็นจริงไม่ใช่สิ่งที่หลี่ฝางคิดไว้ โชว์ที่ยอดเยี่ยมมีการหักหลัง ในโซนปีศาจ ก็เกิดศึกใหญ่ขึ้น

เป็นการปฏิบัติการร่วมกันของสำนักหยิ่งซากับสำนักอื่นๆ ทำการรัดคอหลอซ่าและกำลังภายในประเทศ การต่อสู้ครั้งนั้นจึงอันตรายเป็นหมื่นเท่าโดยธรรมดา

ขั้นตอนของการสู้รบก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายซ้ำแล้ว ผลลัพธ์ก็คือ มองแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า หลี่ฝางจึงถูกคนที่แอบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังดักซุ่มโจมตี พันธมิตรทั้งหมดที่พ่ายแพ้ต่างพากันเกลียดหลี่ฝางยันกระดูกดำ สุดท้ายแผนก็ล้มเหลว ยอดฝีมือหลายคนถึงกับต้องการฆ่าหลี่ฝางโดยไม่สนใจอะไร

ระหว่างศึกครั้งนี้ ความประหลาดของโซนปีศาจก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะมีคนของตัวเองที่พยายามเตือนและช่วยเหลือ ครั้งแรกที่มาโซนปีศาจ หลี่ฝางที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ประหลาดแบบนี้ยังคงโดนเลย

และนี่ ก็คือเหตุผลสำคัญที่เขาสูญเสียความทรงจำไปบางส่วน

แน่นอนว่า ที่สำคัญที่สุดก็คือหลี่ฝางไม่รู้เกี่ยวกับที่แห่งนี้เลย หรือถ้าหากมีการป้องกัน หลี่ฝางก็อาจจะไม่โดนง่ายๆ แบบนี้

ในนาทีสุดท้าย หลี่ฝางก็งัดพลังทั้งหมดออกมา พยายามจะลากศัตรูลงน้ำ แต่ผลของการกระทำดังกล่าวกลับทำให้สถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

ในความวุ่นวาย ใครก็ไม่สามารถพูดให้ชัดเจนได้ว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามหลี่ฝางรู้สึกแค่ว่าบริเวณรอบตัวเขานั้นดูผิดปกติ โดยรอบวุ่นวายไปหมด

ความทรงจำสุดท้าย ก็คือเครื่องบินตก พุ่งตรงมาหลี่ฝาง และหลี่ฝางก็พยายามระเบิดกำลังภายในของเขาออกมาเพื่อหยุดมัน จากนั้นเขาก็หมดสติไป

ตอนนี้นึกย้อนกลับมา บางทีอาจเป็นเพราะการหยุดเครื่องบินในตอนนั้น ทำให้หลี่ฝางลอยกระเด็นออกไป ทำให้หลีกเลี่ยงการตายจากการหล่นทับของเครื่องมาได้ และก็กลับทำให้หลี่ฝางใช้พลังงานมากไป จึงทำให้พลังยังไม่ฟื้นฟูมาจนถึงตอนนี้

หลี่ฝางดึงสติกลับมาจากความทรงจำ แล้วอดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้ม:โชคชะตากลั่นแกล้งจริงๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท