NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่1001 ออกแรงเยอะมาก

บทที่1001 ออกแรงเยอะมาก

ในผับ คาร์เตอร์กับวิชชี่ทั้งสองคนเข้าไปในห้องส่วนตัว ด้านในคนสองสามคนที่กำลังเข้าขั้นดุเดือดก็ปล่อยทันที คนผิวดำสี่คนพากันลุกขึ้นทักทายคาร์เตอร์

“นั่งลงเถอะ”คาร์เตอร์โบกมือ ชี้ไปที่วิชชี่ที่อยู่ข้างๆพูดว่า:“แนะนำให้พวกคุณรู้จัก นี่คือเพื่อนรักวิชชี่ ย้ายมาจากแก๊งHappy Brother เรียกว่าลูกพี่วิชชี่”

“ลูกพี่วิชชี่”คนผิวดำสองสามคนรีบเรียก

ใบหน้าวิชชี่ที่ดำเหมือนถ่านแสดงความภูมิใจออกมา ดึงหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ใกล้เขาที่สุด แล้วพูดว่า:“พวกเราเป็นพี่น้องกัน ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ นั่งลง ดื่มเหล้า ดื่มเหล้า”

ในห้องส่วนตัว บรรยากาศครึกครื้นมากขึ้น

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูขาวสะอาดสะอ้านถือเบียร์ขวดหนึ่งเดินเข้ามาแล้ววางเบียร์ไว้บนโต๊ะ มองของบนโต๊ะอย่างแปลกใจ ในใจก็ตกใจจนสั่น ก้มหน้าลงจะเดินต่อไป

“เดี๋ยว คุณอย่าไป”ไคล์เรียกเขาไว้ทันที

“ทำไมผมรู้สึกไม่คุ้นคุณเลย มาใหม่เหรอ?”

ชายหนุ่มใจสั่น เกือบจะคิดว่าตัวเองถูกรู้เท่าทันแล้ว

ชายหนุ่มหันหน้ากลับไป ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมา:“คุณผู้ชาย ผมมาใหม่จริงๆครับ เพิ่งมาได้ไม่กี่วัน”

“มาใหม่จริงๆด้วย”ไคล์พูดว่า:“shit เข้าไปนั่งในคุกไม่กี่วัน แม้แต่คนใหม่ที่เก่งๆมาที่นี่ก็ยังไม่รู้ ช่างเป็นตำรวจที่ shit เหมือนกันเลย”

เขาด่าไปไม่กี่คำ แล้วก็พูดกับชายคนนั้น:“ให้คุณหนึ่งพัน มานั่งกินเหล้าด้วยกัน”

พูดไป ไคล์ก็ตบไปที่ด้านข้างตัวเอง ส่งสัญญาณว่าให้ชายหนุ่มมานั่งตรงนี้

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว มองไคล์อย่างละเอียด ก็พบว่าเขาดันใช้สายตาหรี่มองมาที่ตัวเอง ทันใดนั้นในใจก็ขยะแขยง:“ไม่มีทางเลือกจริงๆ!”

คิดถึงตรงนี้เขาก็ยิ่งไม่กล้าอยู่มากขึ้น ฝืนยิ้มไปว่า:“ขอโทษนะครับลูกค้า ผมยังต้องไปทำงาน ไม่ง่ายเลยที่ผมจะได้งานนี้ ถูกผู้จัดการเห็นว่าผมแอบอู้จะไล่ผมออกได้”

เขาพูดจบ ก็ได้ยินคนผิวดำอีกคนตะโกนว่า:“คุณรู้ไหมเขาคือใคร?ให้คุณนั่งก็นั่งไปเถอะ แค่ทำให้คืนนี้ไคล์สนุกมีความสุข เขาพูดให้คุณคุณก็จะไม่เป็นไรแล้ว”

ไคล์โบกมือ จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ:“ให้คุณนั่งก็นั่งลงไป เร็วๆ อยู่ดื่มกับผมสองแก้ว อีกเดี๋ยวจะให้คุณเอาเงินได้เยอะๆและยังฟินด้วย”

ไอ้ห่าเอ๊ย!โจ่งแจ้งขนาดนี้เชียว?ในใจของชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะด่าอย่างแรง ขณะเดียวกันสมองก็แล่นอย่างรวดเร็ว

สถานการณ์ตอนนี้ อยากจะออกไปโดยตรงก็เป็นไปไม่ได้ งั้นก็อยู่ต่อดื่มเหล้าไปกับพวกเขา

ก่อนหน้านี้ยังกังวลว่าพวกเขาบางคนจะไม่ดื่มเบียร์ที่ใส่ยาดีๆ ตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานที่เอง เลยวางยาพวกเขาทั้งหมดพอดี

ชั่วพริบตาเดียว ชายหนุ่มก็ได้เตรียมการเสียสละตัวเองแล้ว เขายิ้มอย่างแข็งทื่อ พยายามโน้มน้าวร่างกายของตัวเองก้าวเท้าเดินไปที่ไคล์

ตอนนี้เอง จู่ๆผ้าม่านของห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง บุคลิกดูดีกล้าหาญเดินเข้ามา ถามเสียงหม่นว่า:“ใครคือไคล์?”

“fuckoff whoareyou?”คนผิวดำกลุ่มหนึ่งสบถด่าออกมาทันที ส่วนไคล์ก็เหลือบมองเขา ไม่พูดอะไร

หลี่ฝางจำเขาได้ทันที จากนั้นก็ยิ้มอย่างดีใจ:“ดูเหมือนจะเป็นคุณ ดีมาก”

พูดไป เขาก็ยื่นมือไปจับไคล์

ดูแล้วจับไม่ได้เร็วนัก จากนั้นทุกคนก็ไม่ได้สติคืนมา หลี่ฝางจับคอเสื้อของไคล์ยกขึ้นมา

“แปะ!”หลี่ฝางตบไปฉาดหนึ่ง หัวของไคล์หมุนไปสามรอบ สุดท้ายใบหน้าหยุดอยู่ที่ด้านหลัง กลายเป็นว่าท้ายทอยไปทางหลี่ฝาง

“ตื่นเต้นอยู่ชั่วขณะ ออกแรงไปเยอะมาก”

หลี่ฝางเอาไคล์โยนไปด้านข้างอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็มองไปที่คนอื่นๆสองสามคน

“ยังดีว่าที่นี่ยังมีอีกสองสามคน บนข้อมูลบอกว่าพวกเขาก็เคยเข้าร่วม งั้นถามพวกเขาก็เหมือนกัน”

คนในห้องส่วนตัวมองไคล์ล้มลงไปที่พื้น แป๊บเดียว ในห้องก็ร้องกันออกมาด้วยความกลัว

หลี่ฝางขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะขยี้หู เขาพูดเสียงฮึดฮัด:“ไม่อยากตายก็ไสหัวไป!”

พวกผู้หญิงกรีดร้องคลานออกไปจากห้องส่วนตัว ผู้ชายที่เสิร์ฟเหล้าก็ถือโอกาสวิ่งออกไปด้านนอก ตอนวิ่งออกไปก็อดไม่ไหวหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่หันหลังให้เขา ร่างสูงใหญ่ ข้างในใจรู้สึกประหลาดใจ:แค่ฉาดเดียวก็ทำให้หัวคนหมุนไปสามรอบ ผู้ชายคนนี้เป็นคนจริงๆหรือไม่?

“วู้ว ถือว่าเรียบร้อยสักที”

หลังจากคนอื่นๆวิ่งหนี ในห้องส่วนตัวเหลือแค่หลี่ฝางกับคนผิวดำสองสามคน หลี่ฝางหายใจออก ถามไปที่พวกคนผิวดำ:“พวกคุณเหมือนกับเขา เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยjแห่งเมืองตงสินะ?”

คนผิวดำสองสามคนนั้นตอบสนองต่างกัน นักเรียนต่างชาติสองสามคนนั้นที่อยู่กับไคล์ก็มีสีหน้าตื่นตระหนก นั่งอยู่ไม่สุข แทบอยากจะหนีไปทันที

ส่วนคาร์เตอร์กับวิชชี่ทั้งสองคนนั้นนิ่งมาก กระทั่งว่าวิชชี่ยังเผยรอยยิ้มที่หยิ่งผยองออกมา

“คุณมันสมควรตาย มาหาเรื่องพวกเราอีกแล้วสินะ เหมือนกับแมลงวันจริงๆ ฆ่าก็ฆ่าไม่หมด”

วิชชี่ยืนขึ้นมาจากโซฟา ขยับร่างกายเล็กน้อย ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดออกมา

หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ เขาไม่รู้สึกถึงความทรงพลังใดๆที่ตัวของชายคนหน้าตรงนี้เลย การเคลื่อนไหวก็ไม่เหมือนกับฝึกยุทธ งั้นเขาจะกล้าพูดต่อหน้าตัวเองได้อย่างไร?หรือว่ามีวิธีการพิเศษอะไร?

หลี่ฝางแอบเตรียมพร้อมรับมือแล้ว ถึงแม้ความแข็งแรงของเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีอันตรายและล้มเหลวอย่างไม่ทันระวัง โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินคำพูดที่หลี่ต๋าคางเล่าให้ฟัง เขาจึงไม่ระมัดระวังอย่างไม่มีทางเลือก

“ผมจะตบหน้าของคุณ!”

วิชชี่ตะโกนออกมา กำหมัดตีไปที่หลี่ฝาง

หมัดของเขานี้ความเร็วกับแรงอยู่ในระดับแค่คนทั่วไป อย่างมากก็เร็วกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ส่วนแรงก็มากกว่าหน่อย ในสายตาหลี่ฝางกลับช้าเหมือนกับสโลว์โมชั่นเลย

หรือว่าแค่ลวงตา?หลี่ฝางคิดแบบนี้ไป ก็ไม่ได้ไปรับหมัดนั้นไว้โดยตรง ความควบแน่นของกำลังภายในกลายเป็นมีด แล้วมีดก็เฉือนออกไป

“โอ้ย!”วิชชี่ร้องโหยหวน ล้มลุกคลุกคลานไปที่โซฟา ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ

“เวทมนตร์ เป็นเวทมนตร์!”วิชชี่พูดเสียงดัง“ความสามารถของผมไม่มีผลต่อเขา!”

“ยุ่งเหยิงอะไรกัน”

หลี่ฝางมองไม่ออกจริงๆว่าคนผิวดำนั้นมีจุดพิเศษตรงไหน ไม่เสียเวลาอีกต่อไป กำลังภายในกวาดออกไป นอกจากคาร์เตอร์ชายชุดสูทแล้วคนอื่นๆต่างถูกมัดตัดเป็นสองท่อน

หลี่ฝางมองออกง่ายมากว่า ในกลุ่มคนนี้ คาร์เตอร์เป็นลูกพี่

“บอกมา คุณชื่ออะไร?”หลี่ฝางเหยียบไปที่หน้าอกของคาร์เตอร์ หรี่ตาลงแล้วถาม

“คาร์ คาร์เตอร์”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท