NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1013 ไม่ไว้หน้า

บทที่ 1013 ไม่ไว้หน้า

บนโลกนี้คนโง่มีมากนัก คนแล้วคนเล่าที่เข้ามาหาปัญหาใส่ตัว เหมือนกับชิวหรูเมื่อกี้ ทำเอาตัวเองต้องไสหัวออกไป อยู่กันดีๆ ไม่ดีเหรอ?

“นายก็ไสหัวออกไปเถอะ!”

หลี่ฝางพูดเสียงเบา จากนั้นก็ถีบออกไป อยากจะทำให้เผิงลี่หุยปลิวออกไป

แต่ในตอนนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกดังขึ้น ทำให้เท้าหนักๆ ของหลี่ฝางหยุดลง

“คุณหลี่ ช้าก่อน!”

เสียงนั้นทำให้คนในที่นี้ช็อกจนอดไม่อยู่ เพราะว่าคนในที่นี้เมื่อกี้ไม่นานเพิ่งจะฟังคนคนนี้พูดไป

จากนั้น สายตาของทุกคนก็ค่อยๆ หันไปมองเงาร่างสูงใหญ่ในฝูงคนที่เดินเข้ามาอย่างเร็ว

“ที่แท้เป็นคุณเกา”

ไม่นานก็มีคนร้องเรียกฐานะของผู้มาเยือน นั่นก็คือเกาฉง

“ทำไมเหรอ?” หลี่ฝางมองเกาฉงและถามอย่างนิ่งๆ

ถึงแม้เขาจะยั้งเท้าไว้ แต่แรงก็ได้ออกไปแล้ว กลับยังทำให้เผิงลี่หุยลงไปคลานกับพื้น ไม่มีแรงทำให้คนอื่นบาดเจ็บแล้ว

“คุณหลี่……”

เกาฉงยิ้มเจื่อนๆ

ที่จริงเขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นดีๆ แต่ผลคือจู่ๆ ก็มีคนไปแจ้งข่าวว่าด้านนี้เกิดเรื่อง หลังจากเขารู้ก็รีบวิ่งมา

เมื่อเห็นว่าคือหลี่ฝาง ทันใดนั้นก็ทำเอาเขาตกใจ และรีบตะโกนขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เผิงลี่หุยถูกหลี่ฝางถีบกระเด็น

เพราะฐานะของหลี่ฝาง เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรแรงๆ จึงทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ และก็พูดไม่ออกไปครู่นึง

“เอาเถอะ ขออภัยด้วย” หลี่ฝางนึกขึ้นได้ ว่านี่มันงานปาร์ตี้ของลูกสาวที่รักของเขา ตัวเองทำแบบนี้ ดูเหมือนจะไม่ดีเอามากๆ

แต่นี่ก็ไม่ใช่ความผิดของเขา เจียงมั่นหวั่นล้มเข้ามาหาเอง จะให้เขาผลักเธอออกก็คงไม่ใช่

ส่วนเผิงลี่หุย……นั่นเป็นเขาที่หาเรื่องเอง ความจริงไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย

“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมุงแล้ว” หลี่ฝางพลางตะโกนบอกคนรอบข้าง ไม่อยากให้พวกเขามาดูเรื่องวุ่นวายตรงนี้

อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ บนโลกนี้ก็ไม่ได้เป็นอย่างใจหวัง เขาอยากจะอ่อนน้อม แต่มักจะมีคนมาหาเรื่องเขา

“ไอ้หมอนี่ทำไมถึงได้ปะปนเข้ามาได้ เจียงมั่นหวั่น เธอรู้จักมันเหรอ?”

เจิ้งเหวินซิงจู่ๆ ก็นึกและพูดขึ้นมา ทำให้คนรอบข้างก็อดไม่ได้ที่จะมามุง

“สถานการณ์ไหนเหนี่ย หรือว่าคุณชายเจิ้งก็สนใจเจียงมั่นหวั่นเหรอ?”

“เขาไม่ได้มาเพราะเกาอิงลู่หรอกเหรอ?”

คนที่มีใจให้เจียงมั่นหวั่น แสดงถึงความสงสัยเป็นอย่างมากกับคำพูดประโยคนี้ แต่ก็ยังมีคนตาแหลม ที่มองฐานะของเจิ้งเหวินซิงออก

“ฮี่ๆ พวกนายไม่รู้สินะ เจิ้งเหวินซิงถึงจะเป็นเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังเจียงมั่นหวั่น เห็นเจียงมั่นหวั่นเป็นสิ่งของส่วนตัวมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้เจียงมั่นหวั่นไปอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายอีกคน เขาไม่โกรธสิแปลก!”

ทั้งคำนินทา ทั้งสายตาที่ไม่สงบ ผ่านและรวมกันบนร่างของหลี่ฝาง จำนวนความสนใจที่มารวมกันครั้งนี้ เมื่อเทียบกับตอนที่เจียงมั่นหวั่นมาถึงที่นี่มันมากยิ่งกว่ามาก

ถึงยังไง เจิ้งเหวินซิงก็ไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อเขาแสดงให้เห็นถึงความอาฆาตใครบางคนจนเห็นได้ชัด ก็จะมีคนกลุ่มนึงโจมตีคนกลุ่มนั้นด้วย

ตอนนี้ หลี่ฝางรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองยืนอยู่ในดงคนที่เกลียด นัยน์ตาของลูกหมาป่าฝูงใหญ่สาดแสงสีแดง ราวกับว่าจะฉีกร่างเขาและเขมือบลงไป

หลี่ฝางจ้องเป้าหมายของเขาในคืนนี้มานานแล้ว ก่อนหน้านี้ยังกังวลว่าจะไปหาเรื่องเขายังไง คิดไม่ถึงว่าเขาจะเขามาหาด้วยตัวเอง

“ฉันว่า……”

หลี่ฝางเดินขึ้นหน้า ยื่นมือออกไปตบที่ไหล่ของเจิ้งเหวินซิง อยากจะปรึกษาปัญหากับเขาดีๆ

แต่แค่เมื่อเขายื่นมือออกไป เจิ้งเหวินซิงก็เบี่ยงหลบ และมองหลี่ฝางอย่างเหยียดๆ พลางพูด: “ระวังฐานะของนายหน่อย”

“เหอะๆ ฉันมีฐานะอะไรเหรอ?”

ตอนนี้ หลี่ฝางก็แฮปปี้แล้ว

ที่จริงก็หาเหตุผลมาฟังไม่ค่อยขึ้น ตอนนี้ดีเลย เจิ้งเหวินซิงเติมเหตุผลจนฟังขึ้นแล้ว

เจิ้งเหวินซิงสีหน้าโหดเหี้ยม: “ไอ้หนู ฉันไม่สนว่าแกจะมีฐานะอะไร เข้าใจสถานการณ์ ออกไปเองในตอนนี้ ไม่งั้น อีกแป๊บฉันจะให้แกกลิ้งออกไปเหมือนไอ้หมอนั่น”

เห็นหลี่ฝางพูดเสร็จ ราวกับว่าจงใจทำให้เขาโมโหอย่างนั้น หลังจากโอบเจียงมั่นหวั่นเข้าไปในอ้อมแขนแล้ว ความโกรธในใจของเขา ก็กลบเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

“เจิ้งซาน!”

จากที่เจิ้งเหวินซิงตะโกนอย่างโมโห ชายร่างหนาสูงสองเมตรก็เข้ามาอยู่ด้านหน้าของเจิ้งเหวินซิงอย่างรวดเร็ว

เจิ้งเหวินซิงชี้ไปที่หลี่ฝาง และตะคอกอย่างโมโห: “หักขาสองข้างของมัน และโยนมันออกไป!”

ทันใดนั้น สายตาทั้งหมดก็ไม่รวมอยู่ที่ตัวหลี่ฝางทันที

แฟนคลับของเจียงมั่นหวั่นพวกนั้น ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะร้องเชียร์ขึ้นมา

เมื่อกี้ที่หลี่ฝางฉวยโอกาสกับเจียงมั่นหวั่น ทำให้ผู้คนทั้งอิจฉาทั้งเกลียด ตอนนี้ทุกคนต่างตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ ต่างรอดูหลี่ฝางถูกสั่งสอน

ถึงยังไงดูแล้วเจิ้งซานกับหลี่ฝางขนาดตัวของทั้งสองต่างกันมาก คนน้อยมากๆ ที่จะคิดว่าเจิ้งซานซิงจะจัดการหลี่ฝางไม่ได้

ส่วนเกาจื่อหมิงและคนอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มคนดู กลับรู้ว่าครั้งนี้เจิ้งเหวินซิงจะต้องซวยมากๆ แน่ๆ

บางคนก็แอบเยาะเย้ยเรื่องตลกนี้อย่างเงียบๆ

“ทั้งสอง ทั้งสองคน ไว้หน้าฉันหน่อย หยุดมือเถอะ เป็นยังไง?”

เกาฉงรีบลุกขึ้นมาห้ามไว้ ถึงยังไงปาร์ตี้วันนี้ก็จัดเพื่อลูกสาวของเขา ถูกทำลายไปแบบนี้ เขาเศรษฐีในเมืองตงหนานก็ขายหน้าเช่นกัน

ถึงยังไงไม่ว่าจะเป็นหลี่ฝางหรือเจิ้งเหวินซิง เขาก็ขัดใจไม่ได้ จึงทำได้แค่พูดให้ประนีประนอมแล้ว

“เกาฉง นายคิดว่านายเป็นใคร ยังอยากจะให้ฉันไว้หน้านาย นายคู่ควรงั้นเหรอ?” เจิ้งเหวินซิงหัวเราะอย่างเย็นชาพลางพูด

คิดไม่ถึงว่าเจิ้งเหวินซิงจะพูดแบบนี้ ทันใดนั้นหน้าของเกาฉงก็เต็มไปด้วยความโมโห

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท