NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1022 นักฆ่าตัวสั่นเทา

บทที่ 1022 นักฆ่าตัวสั่นเทา

ความเร็วของเคซี่ย์นั้นเร็วมากๆ ขาทั้งสองข้างของเธอทั้งยาวทั้งทรงพลังมาก และเต็มไปด้วยความรู้สึกโมโหจนแทบระเบิด เธอเตะหัวหลี่ฝางที่พึ่งออกมาจากวิลล่า

เธอมั่นใจมากๆ ว่าไม่มีใครรับลูกเตะเธอได้ หลี่ฝางต้องหลบอย่างแน่นอน หลังจากนั้นก็ตกอยู่ถ้ำกลางการต่อสู้

ถึงอย่างนั้นหลี่ฝางแค่ยื่นมือออกไปคว้าข้อเท้าของเคซี่ย์

เคซี่ย์รู้สึกได้ถึงเท้าของตัวเองว่าเหมือนมีเครื่องจักรขนาดใหญ่จับเอาไว้ เธอสะบัดออกไม่ได้แม้แต่น้อยด้วยกำลังทั้งหมดของเธอ

หลี่ฝางคว้าข้อเท้าของเคซี่ย์ และเผชิญหน้ากับใบหน้าที่ไร้อารมณ์

“ปัง!”

ร่างกายที่ร้อนระอุของเคซี่ย์ได้สัมผัสกับพื้น หลี่ฝางใช้กำลังอย่างมากทุบหลุมขนาดใหญ่บนพื้นอย่างรุนแรง

เศษหินมากมายกระเด็นลอยขึ้นฟ้า เผยให้เห็นดินอ่อนที่อยู่ใต้ดิน จนร่องรอยของมนุษย์ถูกทิ้งไว้บนพื้นหนาทึบได้อย่างชัดเจน

“เคซี่ย์!” อัลวาพูดโดยไม่สนใจที่จะหลบซ่อนอีกต่อไป จึงได้ดึงมีดสั้นสีดำออกมาจากเอวและวิ่งออกไป ถึงอย่างนั้นทันทีที่เขาหายใจออก เขารู้สึกว่าฝ่าเท้าของเขารู้สึกเบา โดยที่ไม่มีไม่พูดแม่แต่คำเดียว

“แก๊สพิษ?ตั้งแต่เมื่อไรกัน……” ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของอัลวาและหลังจากนั้นไม่นานความคิดนั้นก็ได้ถูกทิ้งไว้

พลังนี้ทำให้เขาคิดไม่ถึง พวกเขารู้ว่ากำลังถูกซุ่มโจมตีอยู่และตอนนี้ก็เป็นคนแรกที่หลบหนี

แต่น่าเสียดายกว่าจะรู้ก็สายไปแล้ว ซึ่งห้องที่เขาอยู่ถูกปิดอย่างมิดชิด ก่อนอื่นผนังห้องทั้งหกด้านปรากฏเปล่งแสงระยิบระยับทั่วทุกมุมห้อง ขจัดความมืดและเงาทั้งหมดในห้องออกไป ทำให้อัลวาไม่มีที่ให้ซ่อนตัว

จากนั้นห้องถูกปิดผนึก ทั้งแก๊สพิษ คลื่นเสียง แก๊สน้ำตา ปล่อยกระแสไฟฟ้า…

ในชั่วขณะหนึ่ง การโจมตีที่ร้ายกาจและโหดร้ายนับสิบครั้งถูกเขากลืนกินไปจนหมด อัลวายืนกรานได้ไม่ถึงนาทีก็ได้หมดสติไป

เมื่อเขาฟื้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง

ตะเกียงไร้เงาเหนือศีรษะทำให้เขาตื่นตระหนก ทุกสิ่งรอบตัวเขาดูซีดเซียว ร่างกายอ่อนแอไร้พละกำลัง

เมื่อหันไปดู เคซี่ย์กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆ เธอยังคงนอนสลบอยู่

“เคซี่ย์” อัลวาพยายามดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด และตะโกนเบาๆ จากปากของเขา

ทันใดนั้น อัลวาได้ยินเสียงค่อยๆ เปิดประตู เสียงฝีเท้าคมกริบค่อยๆ ย่างกายเข้ามา

อัลวาหันไปอย่างไม่เต็มใจ ก็ได้เห็นหลี่ฝางเดินเข้าไปหาเขาเหมือนกำลังเดินเล่นอยู่ และมองดูด้วยเหยียดหยามทั้งยังแสยะยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเขา

“แก……แกเจอพวกเราได้ยังไงวะ?”

อัลวารู้ว่าทั้งสองคนนั้นแพ้แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจะเจออะไรต่อจากนี้ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ได้ฆ่าเขาในครั้งแรก ถ้างั้นก็ยังมีประโยชน์ที่จะเก็บเขาไว้

นอกจากนี้ อัลวาเองก็เป็นคนที่ขี้เสือกแม้ในวินาทีเฉียดตาย เขาก็ต้องไขข้อสงสัยในใจให้จนได้

น่าเสียดายที่หลี่ฝางถูกลิขิตมาทำให้เขาผิดหวัง

“ดูๆ แล้วแกคงยังไม่รู้สินะว่าตอนที่แกนอนขี้เกียจอยู่ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง” สีหน้าของหลี่ฝางค่อนข้างคาดหวัง “ฉันคิดว่าฉันต้องทำให้แกรู้สึกสักหน่อย”

เขาพูดทั้งดีดนิ้วไป

ทันใดนั้น ความรู้เจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของอัลวาราวกับถูกกระแสไฟฟ้าช็อต

ความรู้สึกเจ็บปวดนี้ปวดเจ็บราวกับเข็มแหลมนับพันแทงทะลุร่างกาย เจ็บปวดไปถึงไขกระดูก

แม้ว่าตอนนี้อัลวาเกือบจะแรงทั้งหมด แต่ด้วยความจบปวดที่แสนจะทรมานนี้ทำให้เขาต้องกรีดร้องออกมา

“อ๊ากกกก”

เสียงกรีดร้องที่น่าขนลุกปลุกเคซี่ย์ที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆ เขา

แม้ว่ายังมีความสับสนอยู่จากอาการงัวเงีย แต่เธอเป็นคนแรกที่แยกแยะเสียงกรีดร้องนั้นมาจากอัลวา

ใบหน้าของเคซี่ย์เปลี่ยนไปในทันที เธอพยายามดิ้นรนเพื่อตามหาอัลวา แต่เพราะร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเธอจึงกลิ้งและล้มลงกับพื้น

ด้วยเสียงกรี๊ดทุกสิ่งอย่างหยุดกะทันหัน

“อัลวา!”

เคซี่ย์ค่อยๆ ดิ้นรนลุกขึ้นบนพื้น เธอได้ยินเสียงหอบอันหนักหน่วงจากอัลวา และเสียงร้องไห้สะอึก สะอื้น

ตอนนี้ มืออันทรงพลังเอื้อมไปเกี่ยวใต้รักแร้ของเธอและยกขึ้น ในที่สุดเธอก็เห็นอัลวาที่ดูน่าเป็นกังวล

ใบหน้าของอัลวาซีดเซียว ร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ ราวกับเพิ่งตกจากน้ำมา สีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดสุดแสนจะทรมาน ดวงตาของเขามองมาที่เธอด้วยความกลัวอย่างอาลัยอาวรณ์

มองเธอสิ?

เคซี่ย์หั่นกลับมา อัลวาไม่ได้มองมาที่เธอ แต่เป็นคนที่เพิ่งช่วยเธอขึ้นมา!

เธอกำลังจะขัดขืน แต่ชายคนนั้นหันกลับมาพาเธอมานั่งบนเตียง ในที่สุดเธอก็เห็นทั้งหมดของหลี่ฝาง

“ตอนที่คุณอยู่ในอาการโคม่า ฉันได้ติดตั้งสิ่งที่เป็นประโยชน์ไว้ในตัวคุณทั้งสอง ตราบใดที่ฉันกดปุ่มนี้ นายจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกทันที อัลวานายรู้สึกยังไงบ้าง?”

หลี่ฝางโชว์ปุ่มเล็กๆ บนมือของเขา แสยะยิ้มเต็มตาราวกับปีศาจ

ของสิ่งนี้เป็นของที่หลี่ฝางได้มาจากหลิวฮุย แม้ดูจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังพอใช้ได้อยู่

ของเล่นชิ้นนี้ใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการผ่าตัดเพื่อฝังในร่างกายของมนุษย์และผู้ที่ได้สิ่งนี้จะเจ็บปวดทุกข์ทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น หากไม่ใช่เพราะปริมาณยาสลบที่หลี่ฝางใช้กับทั้งคู่ไม่พอ ร่างของพวกเขาทั้งคู่คงไม่หมดแรงแบบนี้

“ปีศาจ…..แกมันคือปีศาจ…..” เสียงของอัลวาราวกับมหาเศรษฐีที่ล้มละลายและกลายเป็นคนยากไร้และล้มลงบนถนนขอทาน ที่ทุกข์ทรมาน งงงวย น่าสงสาร และช่วยตัวเองอะไรไม่ได้

ในฐานะที่แกทั้งคู่เป็นนักฆ่า เมื่อรับภารกิจนี้มาก็ควรจะไม่ถูกจับ ผมคิดว่าพวกคุณจะไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเสียอีก

หลี่ฝางแสยะยิ้มพร้อมกางมือ

“และในฐานะสุภาพบุรุษ ผมให้คุณเท่านั้น อัลวา ผมแค่อยากให้คุณสัมผัสมันคนเดียวเท่านั้น ทำไมล่ะ ทำไมคุณถึงอยากให้เคซี่ย์ที่รักของคุณลองด้วยล่ะ ผมเองไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรเลยนะ”

“ไม่! ได้โปรด… อย่า…”

อัลวาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอันน่าสะพรึงกลัวมาแล้ว ให้เขาตายเสียกว่าที่จะต้องมาทนกับความเจ็บปวดนี้อีกครั้ง

ตอนนี้ฟังหลี่ฝางพูดว่าให้เคซี่ย์ได้ลิ้มลองสักหน่อย เขาก็ละทิ้งศักดิ์ศรีและขอร้องหลี่ฝางอย่างขมขื่น

“ดูเหมือนว่าอัลวาจะนายรักเธอมากจริงๆ นะ เอางี้ ฉันเองก็เป็นคนมีเมตตาด้วยสิ ตราบใดที่นายสัญญาว่าจะทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อฉันและสัญญาว่าจะไม่หักหลังฉัน ฉันสัญญาว่าคุณจะไม่ปล่อยให้คุณสัมผัสสิ่งนี้อีก แบบนี้เป็นไงล่ะ”

“นาย…ตกลง…พวกเราสัญญา…” อัลวาพูดเป็นช่วงๆ

“อัลวา!” เคซี่ย์ตะโกน น้ำตาเคซี่ย์ค่อยๆ ไหลผ่านดวงตาของเธอ “ไม่ อย่าทำเพื่อฉัน…”

“ฟิ้ววว!” ใบหน้าของหลี่ฝางแสนจะเย็นชา และในสายตาที่แทบจะบ้าของอัลวา เขากดปุ่มเบา ๆ

หลี่ฝาง ไม่ได้ปล่อยให้เคซี่ย์ต้องเจ็บปวดเป็นเวลานานๆ เพียงแค่ให้เธอได้รู้สึกแบบเดียวกันกับอัลวา

หนึ่งนาทีต่อมา ทั้งคู่ก็ยอมจำนน

“ดีมาก” หลี่ฝางฉีกยิ้มและฉีดสารอาหารให้ทั้งสองคน และทั้งสองก็ฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท