NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1034 หลังจากที่เกิดการระเบิด

บทที่ 1034 หลังจากที่เกิดการระเบิด

ลูกบอลแสงอันเจิดจรัสนั้นราวกับได้กลายเป็นหลุมดำที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง นำโลกที่งดงามแห่งนี้ กลืนกินเข้าไปทั้งหมด!

……

ในเมืองจินซานมีสถานที่ที่งดงามเป็นอย่างมากอยู่แห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสระปี้ปอ ที่นี่ทิวทัศน์งดงาม อากาศบริสุทธิ์และเงียบสงบ สวยมากเป็นอย่างยิ่ง

แต่เป็นเพราะภายใต้คำสั่งพิเศษของคนพวกหนึ่ง ที่นี่ถึงไม่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ได้กลายเป็นสถานที่ส่วนตัวของพวกมหาเศรษฐีจำนวนหนึ่ง

เหมือนกับในเวลานี้ มีเรือสำราญลำหนึ่งจอดอยู่ในทะเลสาบ สาวสวยสองคนอยู่บนหัวเรือ พูดคุยกันไป พลางเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทะเลสาบ

หนึ่งในสองคนนั้นเป็นวัยรุ่นสาวสวยอายุสิบเจ็ดสิบแปด กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาส่วน อีกคนอายุราวยี่สิบสี่ยี่สิบห้า ท่าทางสง่าผ่าเผย แต่บนใบหน้ากลับดูเหมือนจะมีความโศกเศร้าแฝงอยู่ด้วย

“กว่าจะได้ออกมาสักครั้ง สบายจริง ๆ เลย!” วัยรุ่นสาวสวยตะโกนออกไปทางทะเลสาบ มองดูหญิงสาวที่อยู่ด้านข้างด้วยรอยยิ้มพลางเอ่ยถาม: “พี่สาวคะ ขอบคุณที่พี่พาฉันออกมานะ ขอบคุณมากจริง ๆ!”

“ไม่ต้องมาพูดจาเล่นลิ้นเลย” ถูกคำพูดของเด็กสาวทำให้ขบขัน สีหน้าของหญิงสาวดูดีขึ้นมาไม่น้อย

ทั้งสองคนพูดจาหยอกล้อกันไปอีกสักพัก ดูเหมือนว่าหญิงสาวค่อนข้างจะเหนื่อยแล้ว เธอโบกมือเบา ๆ แล้วกล่าว: “ยังดีที่มีเธออยู่เป็นเพื่อนพี่ ไม่งั้นพี่คงไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับคนในบ้านยังไง”

“หึ พี่คะ เรื่องนี้หนูจะต้องสนับสนุนพี่อย่างแน่นอน!” เด็กสาวกล่าวอย่างโกรธเคือง: “พี่จะต้องแต่งกับคนที่พี่รัก อย่าแต่งกับผู้ชายที่น่ารังเกียจคนนั้น!”

“ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว” พี่สาวโบกมือเบา ๆ ท่าทางหดหู่เล็กน้อย: “เหยาเหยา……”

“ว้าย! เหมือนจะมีคนอยู่ตรงนั้น!” พี่สาวพึ่งจะเอ่ยขึ้น ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอุทานอย่างตกใจของน้องสาว จากนั้นสายตาของทั้งสองคนก็ได้หันไปทางเดียวกันทันที

“คงจะไม่ใช่คนหรอกมั้ง?” เพราะระยะทาง พี่สาวเห็นเป็นเพียงเงาดำ ๆ ลอยอยู่บนผิวน้ำ: “อาจจะเป็นขยะที่คนทิ้งลงไปมั่วซั่วหรือเศษไม้หรือเปล่า?”

“เดี๋ยวหนูลองไปเอากล้องส่องทางไกลมาส่องดู” น้องสาวส่ายหัว และหันหลังเดินไปหยิบเอากล้องส่องทางไกลมา แล้วส่องไปที่ตรงนั้นอีกครั้ง ทันใดนั้นก็ได้ตกใจขึ้นมา

“เป็นคน! เป็นคนจริง ๆ ด้วย!”

เหยาเหยาตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ

“เป็นคนจริง ๆ เหรอ……” สีหน้าของพี่สาวซีดเซียวลงไปเล็กน้อย: “คงไม่ใช่……”

“รีบช่วยคนเร็ว! รีบช่วยคน!” น้องสาวตะโกนเสียงดัง หันหลังกลับไปแล้วตะโกนเอ่ยกับพนักงานที่อยู่บนเรือทันที: “รีบขับเรือเข้าไปเร็ว!”

ภายในใจของพี่สาวค่อนข้างจะเป็นกังวล จึงรีบสั่งลูกเรือที่แข็งแรงกำยำสองคนให้ไปเอาขึ้นมาจากน้ำ ถ้าหากมีปัญหาอะไรขึ้นมา สองคนนี้ยังพอจะปลอดภัยหน่อย

ไม่นาน ก็เรือสำราญก็ได้ขับเข้าไป คนที่อยู่บนเรือก็มองเห็นร่างที่ลอยอยู่ในน้ำได้อย่างชัดเจน

นั่นเป็นชายหนุ่มที่อายุราวยี่สิบกว่า ๆ ลอยอยู่บนพื้นผิวน้ำแบบนี้ ใบหน้าไม่มีสีเลือด ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นหรือตาย

“เร็ว เอาเขาขึ้นมาเร็วเข้า!” เหยาเหยาตะโกนอย่างรีบร้อน

ไม่นานชายที่อยู่ในน้ำก็ได้ถูกลูกเรือช่วยขึ้นมา กลับพบว่าชายหนุ่มคนนี้ยังไม่ตาย อีกทั้งยังหายใจอย่างปกติ นอกจากสีหน้าที่ค่อนข้างจะซีดเซียวแล้ว ก็เหมือนกับว่าเขากำลังนอนหลับอยู่อย่างไรอย่างนั้น

ลูกเรือทุกคนต่างมองไปที่พี่สาว และรอคำสั่งจากเธอ

“ไปเชิญคุณหมอจังมาดูหน่อยเถอะ” พี่สาวคิดอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้เอ่ยขึ้นมา

ไม่นาน หมอที่มาบนเรือด้วยก็ได้ถูกเชิญมา แล้วตรวจดูอาการของชายหนุ่มที่กำลังสลบไสลอยู่

เหยาเหยาที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นหมอจังวางอุปกรณ์ในมือลง จึงรีบเอ่ยถามขึ้นมา: “หมอจัง เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”

“คนคนนี้……” หมอจังมีสีหน้าท่าทางแปลกประหลาดเล็กน้อย: “คนคนนี้แข็งแรงมาก บนร่างกายก็ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไร……ท่าทางของเขาในตอนนี้ราวกับกำลังนอนหลับอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้……”

“แล้วทำไมเขาถึงไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะ?” เหยาเหยาที่พูดจาโผงผางถามต่อ

“นี่……อุปกรณ์ที่มีอยู่บนเรือนั้นมันพื้นฐานเกินไป ไม่สามารถตรวจให้รู้ผลอะไรได้……” หมอจังกล่าวอย่างกระอึกกระอัก: “ถ้าหากสามารถไปตรวจที่โรงพยาบาลได้……”

“งั้นก็รีบไปโรงพยาบาล!” พี่สาวกล่าวอย่างไม่ลังเล

ไม่นาน เรือสำราญก็ได้ขับกลับ มาพาชายจมน้ำไปส่งที่โรงพยาบาล และถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที

เพียงแต่ว่ารอจนผลตรวจร่างกายออกมา พี่น้องสองคนต่างก็ตะลึงงัน

บนร่างกายของคนไข้คนนี้ไม่ได้มีความผิดปกติใด ๆ เลย! ไม่สิ พูดได้แม้กระทั่งว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแรงมากเกินไป แม้แต่สุขภาพด้อยที่มีอยู่ในคนทั่วไปนั้น กลับไม่พบในร่างกายของชายคนนี้เลยสักนิดเดียว!

ต่อให้เป็นนักกีฬาชั้นยอด ก็ไม่สามารถรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเหมือนชายคนนี้ได้ อีกทั้งยังมีสมรรถภาพทางกายที่ดีเช่นนี้

ไม่มีทางเลือก ไม่เข้าใจว่าทำไมชายคนนี้ไม่ฟื้นขึ้นมา ทางโรงพยาบาลทำได้เพียงให้เขาอยู่ดูอาการ

ในเวลานี้ ผู้หญิงสองคนก็ได้ยืนล้อมรอบอยู่ข้างเตียงคนไข้ของชายหนุ่มแบบนั้น มองดูชายหนุ่มคนนี้ ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย

ทันใดนั้นเอง เหยาเหยาก็เห็นชายหนุ่มขยับเล็กน้อย

“เขาฟื้นแล้ว!” เหยาเหยาตะโกนขึ้นมา

ภายใต้สายตาอันวิตกกังวลของพี่น้องทั้งสองคน ชายหนุ่มก็ได้ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ และเอ่ยขึ้นมาอย่างอยากลำบาก

“น้ำ…..”

พี่สาวเห็นชายหนุ่มฟื้นขึ้นมา จึงรีบลุกขึ้นไปเอาน้ำมาให้เขา เหยาเหยายืนดูอยู่ด้านข้างอย่างตกตะลึงเล็กน้อย นี่เป็นฉากที่ในเวลาปกติแล้วจะไม่เห็นได้ง่าย ๆ สงสัยว่าทำไมวันนี้พี่สาวถึงได้มีน้ำใจกระตือรือร้นแบบนี้? หรือว่าจะถูกใบหน้าที่หล่อเหลาคงชายคนนี้ดึงดูดเขาให้แล้ว? เหยาเหยาคิดอยู่ในใจ และหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

สาวถลึงตาใส่เหยาเหยาไปหนึ่งครั้ง และเอ่ยกับหนุ่มหล่อคนนั้น: “คุณฟื้นแล้ว”

ถัดมาไม่นาน ก็ได้ยินชายคนนั้นตอบขึ้นมาอย่างช้า ๆ : “พวกคุณเป็นใคร? ผมอยู่ที่ไหนกัน?”

“ฉันชื่อหวางซีเหยา เธอคือพี่สาวของฉัน ชื่อหยางฉง วันนี้พวกเราออกมาเที่ยวเล่น ตอนที่อยู่บนเรือสำราญเห็นคุณลอยอยู่ในน้ำ ยังคิดว่าคุณตายไปแล้วด้วยซ้ำ? คุณจมน้ำเหรอ? ทำไมถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ล่ะ?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน