NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1046 เพื่อนเก่ามาเยือน

บทที่ 1046 เพื่อนเก่ามาเยือน

ผ่านไปไม่นานนัก หลี่ฝางก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่ง ยื่นมือไปจับหลิวฮุยขึ้นมา

“แกอธิบายให้ฉันฟังสิ!”

“รอเดี๋ยว! อย่าเพิ่งวู่วาม!” หลิวฮุยรีบตะโกนพูดว่า “ฉันจะต้องสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจนแน่นอน!”

หลี่ฝางหรี่ตา แล้วพยายามควบคุมให้พลังพิฆาตในใจให้สงบลง โยนหลิวฮุยลง แล้วเดินไปตรงหน้าหยางฉง

“เอาล่ะ ผ่านไปแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้คุณได้รับบาดเจ็บอะไรทั้งนั้น……” หลี่ฝางค่อยๆประคองกอดหยางฉงไว้ แล้วพูดปลอบโยนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

ในที่สุดหยางฉงก็ค่อยๆตั้งสติคืนมาได้ โผเข้ากอดหลี่ฝางแล้วตะโกนร้องไห้เสียงดังออกมา

“หมดเรื่องแล้ว หมดเรื่องแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ” หลี่ฝางปลอบโยนหยางฉงด้วยเสียงเบาๆ

เมื่อเห็นดูหลี่ฝางทางนี้ท่าทางที่กระซิบออดอ้อนกัน หลิวฮุยก็ถอนหายใจแล้วคลานขึ้นมาด้วยตัวเอง

ไม่นานนัก คนของต้าเซี่ยหลงเช่วก็ตามมาถึง เริ่มจัดการเก็บกวาดที่นี่ให้เข้าที่เข้าทาง

หลิวฮุยรู้สึกจนใจจริงๆ ทำไมทุกครั้งที่หลี่ฝางก่อเหตุขึ้นตัวเองก็จะต้องเป็นคนที่คอยตามเก็บตามเช็ดอยู่ข้างหลังทุกครั้งไป?

ต้าเซี่ยหลงเช่วก็ได้จัดการหาสถานที่ใหม่ให้หลี่ฝางทั้งสองคนนั้นอยู่ชั่วคราวไปก่อนตอนบ่าย หลิวฮุยก็มาหาอีกครั้งหนึ่ง ก็ได้สืบรู้แน่ชัดถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้แล้ว

“พวกที่ซุ่มยิงแกเป็นพวกทหารรับจ้างสากล พวกเขา……ได้รับเงินรางวัลนำจับจากเจิ้งเหวินซิงมาจัดการกับแก สำหรับสองคนที่เป็นผู้สั่งการที่ถูกแกฆ่านั้น เป็นคนของราชวงศ์”

ในขณะที่ได้รับข่าวสารครั้งแรกนั้นหลิวฮุยก็รู้สึกประหลาดใจมาก ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังรู้สึกลังเลว่าควรจะบอกความจริงให้หลี่ฝางรับรู้หรือไม่

แต่ว่าหลังจากคิดไตร่ตรองแล้วเขาจึงพูดความจริงออกมาดีกว่า ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากหลี่ฝางรู้ความจริงทีหลังละก็ เกรงว่าจะยุ่งยากมากกว่านี้

“คาดเดาว่าคนของราชวงศ์ไม่รู้ได้ข่าวของแกมาจากไหน จงใจถือโอกาสที่จะเอาเงินรางวัลนำจับแกจากเจิ้งเหวินซิงมาจัดการกับแก คิดอยากจะมาสืบดูแล้วถือโอกาสที่จะฆ่าแกไปด้วย”

“โฮ่เอ่อ!”หลี่ฝางตะโกนชื่อคนนี้ออกมาอย่างกะทันหัน

“ใครเหรอ?”

“เมื่อคืนนี้ฉันได้เจอกับนักธุรกิจชาวต่างชาติคนหนึ่ง ไอ้หมอนั่นเป็นคนที่จำฉันได้เป็นคนแรก!”

“ฉันจะรีบไปสืบหาเขา” หลิวฮุยก็รีบดำเนินการทันที แต่แล้วใช้เวลาไม่นานนัก เขาก็แจ้งข่าวร้ายกลับมา

โฮ่เอ่อถูกคนยิงตายไปแล้ว

หลี่ฝางเข้าใจแล้วว่า นี่คือการฆ่าคนปิดปาก

ตอนนี้หลิวฮุยก็ตะคอกใส่ลูกน้องของตัวเองว่า “รีบไปสืบมาด่วนเลย! ไปสืบหารายละเอียดข้อมูลการลักลอบเข้าเมืองของไอ้ทหารรับจ้างพวกนี้มาให้หมด! คิดว่าที่นี่เป็นที่ไหนเหรอ? สนามรบทางเมืองใต้หรือไง? ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะด้วยฐานะอะไรถ้าสืบได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ละก็ จับไปขังไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง!”

หลิวฮุยโกรธจนแทบจะบ้าคลั่ง เกิดเรื่องราวเช่นนี้ภายในประเทศ มันเป็นการตบหน้าเขาและต้าเซี่ยหลงเช่วชัดๆเลย

สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็ถูกรายงานข่าวออกมาว่าเป็นการระเบิดเกิดจากสาเหตุแก๊สรั่ว พวกคนที่นอนสลบอยู่ตอนนั้นก็อ้างว่าเป็นสาเหตุถูกพิษจากการรมแก๊สที่รั่วออกมา

ส่วนหลี่ฝางตอนนี้ กำลังจะได้พบกับผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้

“ท่านผู้อาวุโส!”

เมื่อได้เห็นผู้ยิ่งใหญ่คนนี้แล้ว หยางฉงที่อยู่ข้างกายหลี่ฝางก็ตกใจจนเอามือปิดปากตัวเองไว้ สุดท้ายแล้วหลี่ฝางก็หมดความระแวงสงสัยในที่สุด

ถ้าหากสามารถเชิญผู้เฒ่าที่คนทั่วทั้งประเทศก็รู้จักมาเพื่อโกหกหลี่ฝางได้ละก็ ก็ถือว่าหลิวฮุยเก่งกาจมาก!

“หลี่ฝาง! ตอนนี้คุณยังจำฉันได้ไหม?” ผู้เฒ่าถามด้วยรอยยิ้ม

“ฉันจำท่านได้ แต่ว่าดูจากในทีวีนะ” หลี่ฝางยิ้มอย่างรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย

“ดูไปแล้วคุณสูญเสียความทรงจำไปแล้วจริงๆ” ผู้เฒ่าก็แอบถอนหายใจ “แต่ละคนก็ย่อมถนัดไปตามอาชีพของตนเอง คงต้องอาศัยคนที่เก่งเฉพาะทางด้านนี้มาดูแล้วล่ะ”

ไม่นานนัก กู่ยี่เทียนและกู่เฟยจางก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง สำหรับฉันพอจะจำได้บ้างไหม?” กู่ยี่เทียนถามด้วยความตื่นเต้น

เมื่อเห็นหลี่ฝางไม่ได้รับบาดเจ็บจากการที่เข้าช่วยเหลือเขาตอนอยู่ที่สุสานจูหลงนั้น ในใจเขาก็ค่อยสบายใจขึ้น

“จะต้องให้ทุกคนถามฉันแบบนี้เลยเหรอ…….” หลี่ฝางรู้สึกไม่มีทางเลือก

กู่เฟยจางพยักหน้าเห็นด้วย “งั้นก็เริ่มเลยดีกว่า ไม่ต้องมีพิธีรีตองแล้ว ให้ฉันช่วยตรวจดูอาการของปรมาจารย์หลี่ก่อนก็แล้วกัน”

“ตรวจดูยังไงล่ะ?” หลี่ฝางมองดูกู่เฟยจาง หลังจากที่เขาได้รู้จักฐานะของกู่เฟยจางจากการแนะนำแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ระแวงอะไรแล้ว

กู่เฟยจางเปิดกระเป๋ายาที่ติดตัวมาตลอด ภายในนั้นมีเข็มเงินหลายชนิดและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ

“ขอให้ปรมาจารย์หลี่ทำตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน ใช้เวลาไม่มากหรอก”

กู่เฟยจางพูดพลาง ก็หยิบขวดยาออกมาขวดหนึ่งแล้วเทยาเม็ดสีแดงออกมาหนึ่งเม็ด จากนั้นก็ยื่นให้กับหลี่ฝาง

“ขอให้ปรมาจารย์หลี่กินยาระงับประสาทเม็ดนี้เข้าไป จากนั้นก็มานอนบนเก้าอี้เอนนี้”

หลี่ฝางก็ทำตาม นิ้วมือทั้งสิบของกู่เฟยจางก็กดลงตรงจุดฝังเข็มบนศีรษะของหลี่ฝาง แล้วค่อยๆนวดคลึง

“ลองผ่อนคลายลง ทำให้จิตใจอารมณ์ของคุณปลดปล่อยออกมาให้หมด”

หลี่ฝางค่อยๆผ่อนคลายลง กู่เฟยจางก็ดึงมือทั้งสองข้างกลับมา แล้วหยิบเอาเข็มเงินออกมา จากนั้นก็ปักลงไปในตำแหน่งจุดฝังเข็มบนศีรษะของหลี่ฝาง

ในไม่ช้า บนศีรษะของหลี่ฝางก็มีเข็มเงินหลายสิบเล่มฝังอยู่ ภายใต้การควบคุมพลังภายในของกู่เฟยจาง เข็มพวกนั้นก็ค่อยๆสั่นไหว

“คุณคิดอะไรออกหรือเปล่า?” กู่เฟยจางถามด้วยเสียงเบาๆ

หลี่ฝางพูดด้วยเสียงคลุมเครือเหมือนฝันละเมอ “ไม่มีอะไรเลย”

กู่ยี่เทียนมองไปยังผู้อาวุโสแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าจะต้องเพิ่มแรงกระตุ้นให้มากกว่านี้ถึงจะได้”

“คุณก็ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน” ผู้อาวุโสก็ยังคงลังเลอยู่ แต่กู่ยี่เทียนกลับรีบชิงตอบก่อน

ไม่มีความกังวลใดๆแล้ว กู่เฟยจางจึงเริ่มปฏิบัติการต่อไป เริ่มจากให้หลี่ฝางกินยาที่แตกต่างกันหลายชนิด จากนั้นก็ใช้เงินเข็มอาบยาที่ไม่เหมือนกันปักลงไปบนศีรษะของหลีฝางอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากนั้นเขาจึงใช้พลังภายในควบคุมเข็มเงินไว้ เพื่อให้หลี่ฝางค่อยๆดูดซับยาพวกนั้นเข้าไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน