“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย มีแขกมาเยี่ยม” หลี่ฝางมองไปยังหยางฉงที่แกล้งทำหน้าน่าสงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
หยางฉงพยักหน้าด้วยความเขินอายเล็กน้อยแล้วรีบมุดเข้าไปในห้องนอน
“นั่งสิ” หลี่ฝางมองดูหลิวฮุยที่ทำหน้าประหลาด พูดพลางฝืนยิ้มให้
“ไอ้เด็กแสบแกนี่แน่มาก ลงมือได้รวดเร็วจังนะ” หลิวฮุยยิ้มอย่างทะเล้นแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ฉันรับรองว่าไม่พูดเรื่องนี้กับวี่เฟยแน่นอน ผู้ชายด้วยกันนะ ย่อมเข้าใจกัน”
วี่เฟยเหรอ?
ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ ในสมองของหลี่ฝางก็ระเบิดเศษเสี้ยวความทรงจำมากมายออกมา ก็เหมือนแสงสว่างที่แวบผ่านหน้าหลี่ฝางไป
หลี่ฝางรู้สึกตาพร่ามัว รีบนั่งลงไปบนโซฟา
“แกไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?” หลิวฮุยรียถาม
หลี่ฝางส่ายหน้า ความทรงจำที่แตกกระจายในสมองก็ได้หายไปในพริบตา ราวกับว่าไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนเลย
เขาเงยหน้ามองหลิวฮุย “วันนี้แกมาทำอะไรเหรอ?”
“อันนี้……” หลิวฮุยลังเลสักครู่แล้วพูดว่า “พละกำลังที่ฝึกฝนมาของกู่ยี่เทียนถูกสกัดไว้หมดแล้ว พวกฉันหาแกไม่เจอ แล้วเป็นห่วงแกจะเหมือนกับเขา ตอนนี้ไม่มีกำลังแล้ว อาจจะได้รับอันตรายก็ได้ ดังนั้น……..”
เมื่อหลี่ฝางได้ฟังเรื่องที่หลิวฮุยเล่าแล้ว หลี่ฝางก็ค่อยๆรู้เรื่องราวมากขึ้น และรู้จักตัวตนในอดีตได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
“หลี่ฝาง แกความจำเสื่อมเหรอ?” หลังจากที่บอกเป้าหมายที่ตัวเองมาแล้ว หลิวฮุยก็ถามขึ้น
“อึม” หลี่ฝางพยักหน้า เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าปิดบังอีกแล้ว
“เรื่องทุกอย่างในอดีตจำไม่ได้เลยเหรอ?”
“ใช่”
“งั้นวรยุทธ์ของแกก็ถูกสกัดกั้นไปด้วยหรือเปล่า?”
“ไม่รู้สิ” หลี่ฝางส่ายหน้า “ต่อให้ไม่ได้ถูกสกัดไว้ ตอนนี้ฉันก็ใช้ไม่เป็นแล้ว”
“งั้นก็แย่แล้ว” หลิวฮุยรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ความจำเสื่อมเป็นเรื่องที่ยุ่งยากกว่าสูญเสียวรยุทธ์เสียอีก
“ไปกับฉันเถอะ ไปหาผู้เชี่ยวชาญดูว่าจะแก้ไขปัญหาให้แกยังไงดี” หลิวฮุยพูดพลางลุกขึ้นยืน
หลี่ฝางส่ายหน้า
จนถึงตอนนี้ เขาก็ได้แต่ฟังหลิวฮุยพูดเองเออเองอยู่คนเดียวที่นี่ หนำซ้ำหลี่ฝางยังไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายหนึ่งกำลังจะหลอกตัวเองหรือเปล่า ย่อมต้องไม่เชื่อที่หลิวคุยพูดอย่างง่ายดายเป็นธรรมดา
หลิวฮุยเข้าใจความคิดของหลี่ฝาง ได้แต่พูดอย่างจนใจว่า “ฉันเข้าใจความคิดของแก เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน วันนี้……”
พูดยังไม่ทันจบคำ ทันใดนั้นหลิวฮุยก็เกิดความรู้สึกเหมือนมีอันภัยตรายเกิดขึ้น สัญชาตญาณทำให้เขากระโดดเข้าไปหลบอยู่ข้างหลังโซฟาทันที
เสี้ยววินาทีต่อมา ข้างนอกก็มีเสียงปืนดังขึ้นอย่างถี่รัว เหมือนกับฝนห่าใหญ่ที่กราดยิงกระหน่ำเข้ามาในอพาร์ทเม้นท์เล็กๆแห่งนี้อย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าจะใช้กระสุนปืนกวาดล้างห้องนี้ให้สะอาดไปเลย
หลี่ฝางหลบอยู่หลังตู้อีกด้านหนึ่ง กำลังรอมองไปยังหลิวฮุย หลิวฮุยรีบส่ายหน้า แสดงให้รู้ว่าตัวเองก็ไม่ได้รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เสียงปืนข้างนอกก็ค่อยๆหยุดลง ภายในห้องก็ทำลายเสียหายจนไม่เป็นท่า เศษกระจกที่แตกละเอียดและก้อนอิฐเศษไม้กระจัดกระจายไปทั่วพื้น สำลีที่อยู่ภายในโซฟานั้นก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง บนพื้นเต็มไปด้วยปลอกกระสุนปืนที่ร้อนฉ่า
ในขณะที่หลิวฮุยกำลังเตรียมจะตรวจสำรวจอยู่นั้น ทันใดนั้นในห้องนอนก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา
“โอ้ย!”
หลิวฮุยในใจก็แตกตื่นตกใจ รีบบุกเข้าไปในห้องนอนของผู้หญิงคนนั้นที่ตัวเองเพิ่งเห็นเมื่อครู่นี้
ยังไม่ทันรอให้เขาทำอะไรเลย ทันใดนั้นก็เหมือนมีลมพัดผ่านข้างกายไป หลิวฮุยก็เห็นเงาดำมืดแวบผ่านข้ามไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นขึ้นข้างหู ประตูห้องนอนก็กลายเป็นเศษไม้แตกกระจายไปทั่วห้อง
ทันใดนั้น แขนที่ขาดสองข้างก็กระเด็นออกมาจากในห้องนอน แล้วตามด้วยชิ้นส่วนของอาวุธปืนบางส่วนออกมา
ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชองของหลิวฮุยมองดูก็รู้แล้วว่า นั่นเกิดจากการใช้พลังแรงในการฉีกทุบทำลายจนแตกละเอียด
หลี่ฝางกอดหยางฉงเอาไว้ในอ้อมกอด สีหน้าแสดงให้เห็นพลังจิตสังหารอันมหาศาลออกมา
“ไปตายให้หมด!”
“โป้ง!”
ภายในห้องเล็กๆดูเหมือนถูกพายุระดับสิบสองพัดผ่านมา กระจกทั้งหมดแตกละเอียดในชั่วพริบตาเดียว เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไม้สอยทั้งหมดถูกระเบิดออก ท่อน้ำแตกร้าว แม้แต่ผนังกำแพงห้องยังแตกร้าวเป็นทาง
รังสีออร่าสีเลือดที่น่าสะพรึงกลัวนั้นก็แผ่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว เสี้ยววินาทีนั้น คนที่ถูกรังสีออร่าห่อหุ้มอยู่ภายในนั้นต่างก็สลบแน่นิ่งไปหมด ขอเพียงแค่ยังมีพลังพิฆาตแม้แต่นิดเดียว ก็จะถูกฉีกออกเป็นเศษเป็นชิ้นในชั่วพริบตา
ในช่วงเวลาอันสั้นไม่กี่นาทีนี้เอง รังสีออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของหลี่ฝางนั้นก็ปกคลุมไปทั่วทั้งอาคารหลังนี้แล้ว ภายในตึกอาคารนี้นอกจากสามคนนี้แล้ว ก็ไม่มีใครสักคนเลยที่ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
ในขณะนี้ ก็มีชาวต่างชาติสองคนยืนอยู่ที่ตึกอาคารอีกหลังหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกับอพาร์ทเม้นท์พอดี กำลังใช้กล้องส่องทางไกลตรวจดูสถานการณ์ของอพาร์ทเม้นท์นั้น
คนที่อยู่ด้านซ้ายมือก็พูดว่า “สั่งให้คนที่เหลือถอยไปก่อนเถอะ”
คนที่อยู่ด้านขวาก็หยิบอินเตอร์โฟนขึ้นมาสั่งการออกไป จากนั้นก็พูดกับคนที่อยู่ด้านซ้ายว่า “ถึงแม้จะสูญเสียความทรงจำไปก็ยังมีพละกำลังที่น่ากลัวขนาดนี้ หลี่ฝางคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ”
“อย่างน้อยเขาก็เป็น…….แย่แล้ว! เขาเห็นเราแล้ว!”
ภายในอพาร์ทเม้นท์ หลี่ฝางสัมผัสได้ถึงสายตาทั้งคู่นั้นจึงมองตรงข้ามไป ดวงตาทั้งคู่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังพิฆาตก็ปะทะกับสายตาของทั้งสองคนนั้นพอดี ทันใดนั้นทำให้ทั้งสองคนนั้นก็มีความรู้สึกราวกับกาลเวลาถูกแช่แข็งไว้ไม่เดินต่อไปอีกแล้ว!
โป้ง!
เงาร่างของหลี่ฝางราวกับธนูที่ออกจากคันศรเหาะพุ่งออกไป……
และตอนนี้ห้องหลังเล็กที่กลายเป็นเศษซากปรักหักพัง หลิวฮุยหน้าตามึนงงยืนอยู่ตรงนั้นนึกถึงรังสีออร่าที่หลี่ฝางปลดปล่อยออกมา นึกถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น ต่อจากนี้ไป หลิวฮุยก็รู้สึกถึงอนาคตที่มืดมนของตัวเองแล้ว…….
หยางฉงที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ตกใจกลัวจนช็อกไปหมด นั่งมึนงงอยู่ตรงนั้น สายตาว่างเปล่า ร่างกายก็สั่นสะท้านเป็นระยะๆ ตกใจจนขวัญกระเจิงไปหมดแล้ว