NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1053 งานเลี้ยงบริษัท

บทที่ 1053 งานเลี้ยงบริษัท

“สุดยอด!” ทุกคนต่างก็ยกนิ้วหัวแม่มือตามหลังทั้งสองคน

โอกาสที่จะได้เจอสาว ๆ เยอะแบบนี้นั้นหาได้ยากมาก ใส่ชุดแบบนี้ไป มันค่อนข้างจะ……

งานเลี้ยงในครั้งนี้ ครึกครื้นเป็นพิเศษ พนักงานนับร้อยคนกินดื่ม หยอกล้อ พูดคุยกัน จีบสาว สร้างความสัมพันธ์ คึกคักอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ส่วนหลี่ฝางและส้งหลง กลับไม่ทำอะไรเลย เพียงนั่งอยู่ตรงนั้นและทานอย่างไม่หยุด

หลี่ฝางเป็นคนที่มีโลกทัศน์สูง สาว ๆ พวกนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด แม้แต่จางเสว่ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสาวสวยอันดับสองของบริษัท ในสายตาของหลี่ฝางแล้วก็แค่นั้นเอง

เพราะถึงยังไง สาวสวยอันดับหนึ่งของบริษัทก็คือหยางฉงเจ้านายของพวกเขานั่นเอง

เพียงแต่ว่า โลกทัศน์ของคนอื่น ๆ ไม่ได้สูงเหมือนหลี่ฝาง

จางเสว่ที่ทั้งหน้าตางดงามอ่อนหวานทั้งร่าเริงแจ่มใส ที่ข้างกายของเธอไม่เคยขาดคนตามจีบเลยสักนิด

ยกตัวอย่างเช่นพวกโจวหมิงและหลี่เหวย ที่ได้ประจบเข้าไปหาตั้งนานแล้ว

ส่วนพวกหานจื้อเย่ถ้าไม่ไปจีบสาว ก็ไปหาพูดคุยกับเพื่อนคนอื่น ๆ

ไม่นาน ก็เหลือเพียงหลี่ฝางและส้งหลงนั่งกินดื่มอยู่ที่โต๊ะเพียงสองคน

“ทำไมคุณไม่ไปหาคุยกับสาว ๆ ล่ะ?”

เมื่อทานไปพอประมาณแล้ว หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางส้งหลง

ส้งหลงส่ายหัวกล่าว: “ไม่สนใจ”

ไม่สนใจผู้หญิงงั้นเหรอ?

เมื่อได้ยินดังนั้น จู่ ๆ หลี่ฝางก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งใจ มุมปากกระตุกเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะขยับออกห่างส้งหลง

ทันทีที่เห็นท่าทางของหลี่ฝาง ส้งหลงก็รู้เลยว่าหลี่ฝางเข้าใจผิด จึงรีบเอ่ยอธิบาย: “ผมยิ่งไม่สนใจผู้ชาย!”

“เหอะ ๆ ใช่หรือเปล่า?” หลี่ฝางหัวเราะแห้ง ๆ แต่กลับไม่ได้นั่งกลับไป

“……” ส้งหลงพูดไม่ออกเล็กน้อย เขาเองก็เป็นคนพูดไม่ค่อยจะเป็นอยู่แล้ว จึงไม่อธิบาย และเงียบต่อไป

ดูท่าทางกลัดกลุ้มของส้งหลง หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาอีกครั้ง: “ผมถามหน่อยนะ เพราะอะไรคุณถึงมาเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย? ความสามารถของคุณ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่เลย”

ส้งหลงเงียบไปสักพัก แล้วเอ่ยตอบ: “คุณฝีมือดีกว่าผมอีก แล้วทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะ?”

“อยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ” หลี่ฝางฉีกยิ้ม: “อยู่พอแล้วก็จะไป”

“อ้อ” ส้งหลงตอบห้วน ๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“อ้อใช่ ได้ยินมาว่าคุณเคยอยู่ในทีมมาก่อน? ทำไมถึงได้ออกมาล่ะ?” หลี่ฝางถามขึ้นมาอีกครั้ง

ทันทีที่ส้งหลงได้ยินหัวข้อนี้ ก็ได้เงียบไป

หลี่ฝางยังคิดว่าตัวเองได้ถามอะไรที่ไม่ควรถามไปซะแล้ว และกำลังจะเอ่ยขอโทษ แต่ส้งหลงกลับเอ่ยตอบขึ้นมา: “ผมอัดครูฝึกของพวกเราไปน่ะ”

“โหดขนาดนั้นเชียว?” หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม

ส้งหลงกล่าวอย่างเอือมระอา: “การคัดเลือกสมาชิกสำรองของทีมปฏิบัติการพิเศษในตอนนั้น ผมเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด คิดว่ายังไงตัวเองก็ต้องผ่าน สุดท้ายครูฝึกบอกว่าฉันความสามารถไม่พอ หลังจากนั้นก็เลย……”

ราวกับได้กล่าวถึงจุดที่ทำให้เสียใจ ส้งหลงได้เริ่มพูดเป็นน้ำไหลไฟดับขึ้นมา

“ข้อกำหนดของทีมปฏิบัติการพิเศษนั้นเข้มงวดจริง ๆ นอกจากอัจฉริยบุคคลพิเศษแล้ว ข้อเรียกร้องด้านพลังในการต่อสู้นั้นสูงมาก ในตอนนั้นความสามารถของผมไม่พอจริง ๆ เพียงแต่ว่ามาเข้าใจเอาตอนหลังนั้นมันก็สายไปแล้ว”

“เป็นแบบนี้นี่เอง” หลี่ฝางพยักหน้า เข้าใจแล้วว่าทำไมส้งหลงถึงได้นิ่งเงียบแบบนี้

“ต่อมาผมได้มาอยู่ที่บริษัท แป๊บเดียวก็ผ่านไปสามปีแล้ว ถึงแม้จะใช้ชีวิตอย่างมั่นคง แต่ความแข็งแกร่งของผมกลับไม่สามารถเติบโตไปได้อีก เดิมที ผมคิดว่าชาตินี้ฉันคงต้องมีชีวิตอยู่แบบนี้ตลอดไปแล้ว……”

กล่าวถึงตรงนี้ จู่ ๆ ส้งหลงก็ได้มองมาที่หลี่ฝาง

“แต่คุณได้ให้ความหวังกับผม! ฝีมือของคุณแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งกว่าผมอีกเยอะ! หัวหน้า คุณช่วยสอนผมหน่อยได้ไหม? ทำยังไงถึงจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมได้?”

“เอ่อ……” เผชิญหน้ากับสายตาอันร้อนแรงของส้งหลง หลี่ฝางไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี

เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเองนั้น ได้ฟังจากที่กู่ยี่เทียนเล่ามา แม้กระทั่งตัวเขาเองยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ

จะบอกเขาไปว่าคนรวยพึ่งพาเทคโนโลยีก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?

ลังเลอยู่ครึ่งค่อนวัน หลี่ฝางทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจำใจ: “ได้ กลับไปเดี๋ยวผมช่วยชี้แนะคุณ จะแข็งแกร่งขึ้นได้มาแค่ไหนต้องดูความพยายามของตัวคุณเอง”

เพียงแค่ประโยคนี้ก็ทำให้ส้งหลงดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง เหมือนกำลังจะพูดอะไร แต่ในตอนนี้โจวหมิงกลับวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางเบิกบานใจ

“ลูกพี่ทั้งสอง ไป ไปต่อกัน พวกเราไปสนุกต่อที่ผับ!”

“งานเลี้ยงจบแล้วเหรอ?” ทั้งสองคนเอาแต่คุยกัน ตอนนี้ถึงพบว่ามีผู้คนอยู่ไม่น้อยที่เตรียมตัวจะกลับแล้ว

“ผับมีอะไรน่าไป ฉันกลับไปดีกว่า” ส้งหลงกล่าวอย่างเบื่อหน่าย

เขายังคงไม่ชินกับสภาพแวดล้อมเช่นนั้น

“โถ่ หัวหน้าส่ง ครั้งนี้กว่าผมจะนัดสาว ๆ ได้เยอะแบบนี้เชียวนะ เลขาจางก็รับปากแล้วด้วย คุณบอกว่า คุณไม่ไป มันจะไม่เสียน้ำใจผมไปหน่อยเหรอ?”

โจวหมิงกล่าวจบก็ผลักทั้งสองคนออกไปด้านนอก ไม่นาน ก็มาถึงด้านนอก และได้เห็นกับพวกหลี่เหวย และยังมีสาว ๆ อีกห้าคนหัวเราะพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น

สายตาของพวกโจวหมิงนั้นไม่เลวเลยจริง ๆ สาว ๆ ทั้งห้าคนนั้นทั้งสาวทั้งสวย ประเภทที่ดูยังไงก็ไม่เบื่อ

หนึ่งในนั้นยังมีจางเสว่ ที่หน้าตาดีกว่าคนอื่น ๆ ในระดับหนึ่ง

เมื่อเห็นหลี่ฝางเดินออกมา ดวงตาคู่นั้นของจางเสว่ก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที พอดีกลับที่หลี่ฝางได้มองมา จางเสว่จึงได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สงบเสงี่ยม

ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะโจวหมิงบอกว่าหลี่ฝางก็จะไปด้วย เธอก็ไม่มีทางที่จะรับปากหรอก

ทุกคนเตรียมที่จะออกเดินทาง เพียงแต่ว่าส้งหลงรู้สึกไม่เคยชินจริง ๆ เขาปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายยังต้องปล่อยให้เขากลับไปอยู่ดี

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท