NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1068 คุณชายหลิวที่หงุดหงิดจนโกรธ

บทที่ 1068 คุณชายหลิวที่หงุดหงิดจนโกรธ

คนทั้งหลายนั้นมองอย่างเงียบๆ ในหน้าจอขนาดใหญ่นั้น เงาของคุณชายโล่นั้นเดินออกมาจากด้านนอก เพียงไม่นานก็เดินมาอยู่ตรงหน้านิ่งหรงหรงที่กำลังอยู่ตรงโต๊ะพนัน แถมยังมีหลี่เหวยที่กำลังแบ่งปันเรื่องของหลี่ฝางกับนิ่งหรงหรงอย่างตื่นเต้น ทำให้สีหน้าก็ดูไม่ได้ในทันที

เพียงไม่นาน เขาก็เอานาฬิกาของตัวเองออกมาเหยียบให้พังอย่างเต็มแรง ก่อนจะใส่นาฬิกาแล้วปรี่เข้าไป ชนเขาอย่างเต็มแรง

หลังจากนั้น ก็เป็นฉากแบบที่ทุกคนเห็น

เมื่อดูมาถึงตรงนี้ แววตาของทุกคนที่มองไปทางหลี่เหวย ก็เต็มไปด้วยความเห็นใจ

เรื่องที่เขาถูกเปิดโปงว่าเขาใส่ร้ายไอ้กระจอกนี้ต่อหน้าทุกคน ก็พอที่จะให้คุณชายโล่ไม่กล้าสู้หน้าได้แล้ว

ถึงขนาดที่คุณชายโล่คงจะไม่กล้าเจอใครเพราะความอับอายไปอีกสักพักใหญ่ๆ

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาหาเรื่องหลี่ฝาง เพราะฉะนั้นโชคของเขา อาจจะเปลี่ยนไปอย่างเลวร้ายน่าสงสาร

หลี่ฝางในตอนนี้ ไม่อยากจะอดทนมาเสียเวลาแล้ว ก่อนจะถามคุณชายโล่ “ยังมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?”

แต่เมื่อมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีภยันตรายอยู่รอบด้านแบบนี้ และถูกดวงตามากมายจับจ้อง อารมณ์ของคุณชายโล่ก็แทบบ้าแล้ว

“ฉันตั้งใจเอง แล้วคุณจะทำอะไรฉันงั้นเหรอ!” คุณชายโล่มีแววตาของความบ้าคลั่ง

“เป็นแค่ไอ้กระจอก ฉันกลั่นแกล้งเขาแล้วจะทำไมเหรอ?เป็นคนไร้ประโยชน์ ฉันไม่ได้แกล้งเขาแค่วันนี้ จากนี้ฉันจะไปให้คนตามเก็บเขาตลอด ถ้าเก่งมากคุณก็ปกป้องเขาให้ได้ทุกวันสิ!”

เขาตะโกนออกมาเหมือนคนบ้า น้ำเสียงเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งอัดอั้นอย่างเต็มเปี่ยม

เขาไม่รู้ว่าฐานะของหลี่ฝางนั้นมันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่ม เขาเลยไม่ได้สนใจหลี่ฝางเลย

ตามที่เขาคิด อันดับกำลังภายในน่าจะเป็นเพียงกำลังในการต่อสู้เท่านั้น จะเก่งมากแค่ไหน มันก็เท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ?

ถึงแม้ว่าปรมาจารย์อู๋จะคุกเข่าให้เขาแล้วมันจะทำไมกัน?ถึงเฟ่ยเหวินเย่าจะไม่ช่วยตัวเองแล้วมันจะทำไมล่ะ?

เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ของ พ่อของเขาอยู่ในตำแหน่งมูลค่าหมื่นกว่าล้าน ถึงจะเป็นเฟ่ยเหวินเย่าแล้วจะทำอะไรเขาได้เล่า?

เดี๋ยวถึงเวลาก็แค่ใช้เงินฟาดเรื่องก็จบแล้ว อันดับกำลังภายในคนเดียว ก็เป็นแค่กำลังในการต่อสู้เท่านั้น จะมามีความรู้อะไรมากมาย?

ใช้เงินเพียงร้อยสองร้อยล้านปากไป ก็ทำให้เขามึนได้แล้ว!

คุณชายโล่คิดแบบนี้ เลยเริ่มหัวเราะขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่ง

จนกระทั่งหลี่ฝางตบเขาอย่างเต็มแรงทันที

“เพี๊ยะ!”

การตบครั้งนี้ ทำให้หน้าครึ่งหนึ่งของคุณชายโล่ก็บวมแดงขึ้นมาทันที และทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก

เขาโตมาขนาดนี้แล้ว ขนาดพ่อของตัวเองยังไม่เคยมาแตะต้องอะไรเขาเลยแม้แต่ปลายนิ้ว

กลับคิดไม่ถึงเลย ว่าเวลาสั้นๆ ในคืนนี้ กลับถูกตบถึงสองครั้ง ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้!

“คุกเข่าลงขอโทษตอนนี้ ฉันจะให้คุณออกไปตอนนี้เลย” หลี่ฝางพูดเสียงเย็นชา

เขาไม่มีความอดทนอีกต่อไปแล้ว

“แกคิดว่าแกเป็นใคร!แค่กำลังในการต่อสู้กระจอกคนหนึ่ง มีวิทยายุทธ์เพียงเล็กน้อยก็คิดว่าตัวเองเก่งแล้วเหรอ?” ในสายตาของคุณชายโล่นั้นคลุ้มคลั่งเป็นอย่างมาก เลยด่าออกมาโดยไม่สนใจอะไรเลย

“คุณคิดว่าอยู่อันดับสูงกว่าเฟ่ยเหวินเย่าแล้วเก่งมากงั้นเหรอ?กล้ามาหาเรื่องฉัน เฟ่ยเหวินเย่าเองก็ปกป้องคุณไม่ได้หรอก!”

ไม่ว่าคนรอบๆ จะหัวเราะอย่างแดกดันขนาดไหน นิ่งหรงหรงก็ยังไม่อยากจะเข้าใกล้เขาเลย และความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขานั้น ก็ทำให้สติเขาหายไปอย่างไม่หยุดหย่อน

“รนหาที่ตาย!” ในใจของหลี่ฝางนั้นมีความอาฆาต

“ยอมได้ก็ต้องยอมกัน อายุยังน้อย ทำอะไรก็ต้องเหลือทางเอาไว้บ้าง!”

ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่ม ท่าทีไม่สิ้นสุด แววตานั้นมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก

เพียงไม่นาน ก็มีคนตะโกนฐานะของชายคนนั้นออกมาจากกลุ่ม

“เขาเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพของหนานเจียง นั่นก็คือซุนกั๋วอันของตระกูลซุน!”

สามตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพของหนานเจียง มีชื่อเสียง และความสามารถที่ไม่ธรรมดา

อย่างเช่นตระกูลเจิ้งที่มีความสัมพันธ์ดีกับหลี่ฝาง แถมยังมีคนมากฝีมืออย่างนายท่านเจิ้งอีกด้วย

ดังนั้นตระกูลซุนที่มีดีเทลเทียบเท่าสามตระกูลใหญ่ เลยมีความล้ำลึกอย่างเป็นปกติ

ดังนั้นถึงซุนกั๋วอันจะมีความสามารถไม่น้อยไปกว่าปรมาจารย์อู๋สักเท่าไหร่ แต่ฐานะของเขานั้นกลับมากกว่าปรมาจารย์อู๋ไม่รู้เท่าไหร่

ในตอนนี้เอง แววตาของทุกคนกลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง พลางมองมาทางหลี่ฝาง เพราะอยากจะรู้ว่าตอนนี้เขาจะตัดสินใจอย่างไร

ถึงอย่างไร ฝีมือของตระกูลซุน ก็ไม่ใช่ว่าเฟ่ยเหวินเย่าจะสู้ได้อยู่แล้ว

“เขาเป็นรุ่นน้อง จะมาบังคับขู่เข็ญคนอื่นแบบนี้ได้อย่างไร?” ซุนกั๋วอันพูดอย่างมีเหตุผล “ปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ จากนี้จะไม่ทำอะไรกันแล้ว เป็นอย่างไร?”

ถึงแม้จะเป็นลูกหลานตระกูลซุน แต่เขาเองก็รู้ หลี่ฝางในฐานะที่เป็นอันดับกำลังภายใน เพียงคนเดียวก็สามารถเทียบเท่ากับตำแหน่งของเขาในตระกูลซุนได้ ดังนั้นเขาเลยอยากปกป้องคุณชายโล่คนเดียว ส่วนคนอื่นๆ ก็คงคาดหวังอะไรไม่ได้แล้ว

“ตอนแรกตระกูลโล่ไต่เต้าตระกูลซุนขึ้นมา ไม่แปลกเลยที่คุณชายโล่ดูไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น”

“คุณไม่รู้เลยใช่ไหม ได้ยินว่าพี่ชายของคุณชายโล่แต่งงานเข้าตระกูลซุน หึๆ ……”

“ร้ายกาจ ร้ายจริงๆ !”

มีคนมากมายพูดขึ้นมา

คนที่สามารถไต่เต้าขึ้นไปหาตระกูลซุนได้นั้น เกรงว่าจะใช้วิธีแต่งงานเข้า ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่นๆ เห็นตระกูลโล่สูงส่งขึ้นเล็กน้อย

ถึงอย่างไร ตระกูลซุนก็มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก เขาเป็นเกินที่หนึ่งของที่ดินนี้ เมืองนี้ไปแล้ว ทั้งหนานเจียงนั้น มีเพียงสองตระกูลเท่านั้นที่สามารถเทียบกับพวกเขาได้

ขณะเดียวกันในใจของคนเหล่านี้ก็แอบคิด ว่าท่าทีที่จะทำต่อตระกูลโล่หลังจากนี้ เกรงว่าคงจะต้องเปลี่ยนสักหน่อยแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท