NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1072 เส้นทางเดียวกัน

บทที่ 1072 เส้นทางเดียวกัน

ในตอนนั้นเอง คำพูดนี้มันเหมือนกับฟ้าผ่าในวันที่ฟ้าสาง ที่ผ่าลงกลางหัวของคนมากมายในตระกูลซุน

คนเหล่านั้นสั่นไหวจนมึนงง คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ฝางจะเป็นคนลงมือกับซุนกั๋วอัน

“นี่……นี่มัน……”

เสียงของคนเหล่านั้นทุ้มต่ำลง จนท่าทีโกรธแค้นเหมือนก่อนหน้านี้หายไปหมด

“ทำไมไม่บอกให้ไปแก้แค้นแล้วล่ะ?ห๊ะ?” ท่านซุนพูดเสียงเย็นชา พลางมองคนเหล่านั้นไม่ละสายตา

คนที่ถูกท่านซุนกวาดตามอง ก็ไม่กล้ามองแววตาของท่านซุนตรงๆ ก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความทำตัวไม่ถูก

เมื่อเห็นท่าทีของคนในตระกูลของตัวเอง นายท่านซุนก็ถอนหายใจอย่างไร้เสียง

“เรื่องนี้……พอแค่นี้เถอะ!”

นอกจากจะพอแค่นี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นๆ แล้ว

ขนาดตระกูลหวางที่มีชื่อเสียง ก็ทำอะไรหลี่ฝางไม่ได้ แล้วพวกเขาตระกูลซุน จะทำอะไรได้งั้นเหรอ?

ในสถานการณ์แบบนี้ หลี่ฝางออมมืออย่างเห็นได้ชัด ไม่อย่างนั้น ถึงซุนกั๋วอันจะไม่ตาย แต่ก็ต้องพิการ ไม่มีทางเป็นเหมือนตอนนี้ ที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ผลลัพธ์แบบนี้ พวกเขายอมรับแล้ว!

……

“ฉันว่า ฉันไปเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสมล่ะ?”

“ถ้าคุณสามารถไปตอนนี้ได้ก็ดี” หลิวฮุยพูดหยอกล้อ

“ได้สิ ขอแค่คุณยอมไปกับฉันด้วย” หลี่ฝางปรายตามองหลิวฮุยพลางพึมพำเสียงเย็นชา

หลิวฮุยยิ้มอย่างอึดอัด พลางพูด “แต่คุณเองก็อย่าไปอย่างเปิดเผย เพราะมันถูกเปิดโปงง่าย เอาแบบนี้ ฉันช่วยคุณจัดบอดี้การ์ด ส่งนักธุรกิจคนหนึ่งไปเจรจาที่ญี่ปุ่น หลังจากที่คุณไปแล้วค่อยหาเวลาปฏิบัติการ”

“ต้องทำแบบนั้นด้วยเหรอ?” หลี่ฝางบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจ จู่ๆ ก็พูดขึ้น “ฉันไปหาคนให้ดีกว่า ไม่ต้องให้คุณลำบากหรอก”

“ห๊ะ?คุณเองเหรอ?จะ……” หลิวฮุยรีบเสนอความเห็นต่าง

“ทำไมเหรอ คุณไม่เชื่อฉันเหรอ?” จู่ๆ หลี่ฝางก็ถามด้วยใบหน้าดุดัน

“จะเป็นไปได้อย่างไร!” หลิวฮุยเปลี่ยนอารมณ์บนใบหน้า ก่อนจะหัวเราะพลางพูดออกมา

หลี่ฝางในตอนนี้ยังรื้อฟื้นความจำไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าเขาไม่คุยเรื่องความสัมพันธ์เมื่อก่อนของทั้งสองคน

หลี่ฝางพึมพำเสียงเย็นชา ก่อนจะพูด “ที่เหลือคุณจัดการเอาเถอะ ตอนนี้ฉันจะกลับไปหาคนก่อนนะ เตรียมเสร็จแล้วค่อยมาบอกคุณ”

“โอเค” หลิวฮุยพยักหน้าอย่างจนปัญญา ก่อนจะตอบตกลง

วันที่สอง หลี่ฝางไปทำงานตามปกติ

“หัวหน้าหลี่มาแล้ว!”

“อรุณสวัสดิ์หัวหน้า!”

ผู้ชมมากมายเมื่อเห็นว่าหลี่ฝางมาแล้ว ก็ทยอยทักทายหลี่ฝาง

“พี่หลี่ วันนี้ไม่สายเหรอ?”

โจวหมิงนี้เดินเข้ามาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ได้ยินว่าเมื่อคืนพี่ใหญ่เฟ่ยเชิญพี่หลี่ไปเล่นทั้งคืนเลย ฉันยังคิดว่าเช้านี้พี่หลี่จะลุกไม่ขึ้นเสียอีก ฮิๆ ……”

“คุณไปได้ยินใครพูดมา?” หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพลางพูดขึ้น “นี่มันสร้างเรื่องชัดๆ ไม่อยากได้วันหยุดของเดือนนี้แล้วใช่ไหม?”

หลี่เหวยที่อยู่ไม่ไกลมีสีหน้าขมขื่น เลยรีบพูด “หัวหน้าหลี่ ฉันไม่ได้พูดมากขนาดนั้น ฉันแค่บอกเมื่อคืนคุณไปกับพี่ใหญ่เฟ่ย ส่วนเรื่องอื่นๆ โจวหมิงเดาขึ้นมาเอง……”

ตอนแรกห้องรักษาความปลอดภัยที่ดูเงียบเหงา เพียงไม่นานก็ไม่เงียบอีกต่อไปเพราะการมาของหลี่ฝาง มันทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

ถึงแม้หลี่ฝางจะมาที่นี่เพียงไม่กี่วัน แต่กลับเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และกลายเป็นจุดศูนย์รวมอีกด้วย

ขนาดส้งหลงที่เงียบไม่พูดอะไรมาตลอด ยังมองหลี่ฝางด้วยสายตาสนิทสนม หวังว่าจะเรียนรู้จากหลี่ฝางได้ว่าจะทำให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างไร

“พี่ใหญ่ เมื่อวานสนุกจริงๆ เลย สาวๆ ในคลังสมบัตินั้น……เอ้อ ฉันอยากจะไปอีกครั้งจัง……”

“ก็ต้องดูว่าโชคของพวกเราดีแค่ไหนแล้วล่ะ ถ้าเกิดครั้งหน้าเฮียเว่ยเชิญพี่หลี่ไปอีก ฮิๆ ……”

“พี่หลี่เก่งกาจจริงๆ !”

คนมากมายเริ่มพูดถึงประสบการณ์ที่ราวกับเป็นจินตนาการขึ้นไม่หยุด

ส่วนคนที่เมื่อวานไม่ได้ไปนั้นก็ทำหน้าหงุดหงิดใจ พลางฟังคนพวกนั้นพูดโอ้อวดอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าตัวเองนั้นพลาดโลกทั้งใบไป

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ว่าก็คือ มีคนสัมผัสประสบการณ์ที่เปลี่ยนโลกไปทั้งชีวิตเลย ถ้าเกิดพวกเขารู้เข้า เกรงว่าจะยิ่งหงุดหงิดใจเข้าไปใหญ่

หลี่ฝางปรายตามองหลี่เหวย ก่อนจะพบว่าเขากำลังโอ้อวดประสบการณ์ที่เขาได้พบเจอเมื่อวานเหมือนกำลังไม่มีอะไรทำ แต่ไม่พูดเรื่องที่ตัวเองชนะมาไม่รู้กี่ร้อยครั้ง

จริงๆ แล้ว คนที่มีเงินเก็บไม่ถึงหลายหมื่น จู่ๆ ก็มีถึงหลายล้าน ในใจของเขานั้นเป็นอย่างไร มันน่าจะอธิบายออกมาอย่างยากลำบาก

เพียงไม่นาน วันหนึ่งก็ผ่านไปแล้ว ก็ถึงเวลาเลิกงาน

ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางกำลังเล่นเกมอยู่ในห้องรักษาความปลอดภัยเพื่อฆ่าเวลา

โจวหมิงมาดูเล็กน้อย ก็เห็นหลี่ฝางกำลังควบคุมตัวละครฆ่าฟันกันใจหน้าจอ จนเงยหน้าขึ้นมามองไม่ได้เพราะการควบคุมจนตาลายหนึ่งต่อหน้า แถมยังอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงอย่างน่ากลัวออกมา

“พี่หลี่ คุณทำอะไรก็เก่งไปหมด แล้วจะให้คนธรรมดาอย่างพวกเราอยู่อย่างไร” โจวหมิงอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา

“อยู่อย่างไรเหรอ?อยากจะอยู่อย่างไรก็อยู่ไปเถอะ!” หลี่ฝางหัวเราะพลางพูดขึ้น

ขณะที่เขากำลังจะชนะเกมนี้นั้น จู่ๆ ก็มีสายเข้า ทำให้ตัวละครของเขาค้างอยู่ที่หน้าจอ

“ใกล้จะชนะแล้วเชียว” หลี่ฝางไม่พอใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นสายของหยางฉง ก็รีบรับสาย

ก่อนหน้านี้ไม่นาน

เลขาของหยางฉงอย่าง กำลังรายงานกับหยางฉงเรื่องเมื่อวานของหลี่ฝางที่เธอไปสืบมา หลังจากที่พูดจบ เธอยังถามด้วยความสงสัย “ประธานหยาง หลี่ฝางกับคุณเป็นอะไรกันเหรอ?”

เธอสงสัยมาก หลี่ฝางเพิ่งออกมาด้วยเวลาอันสั้น แต่สิ่งที่ล้อมรอบตัวเขากลับเกิดเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า มันทำให้จางเสว่สงสัย เพราะทุกๆ เรื่องเหมือนกำลังโชว์ว่าตัวตนของหลี่ฝางนั้นไม่ปกติ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท