NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1075 เข้าบ้านเลยเหรอ?

บทที่ 1075 เข้าบ้านเลยเหรอ?

“แกจะทำอะไรแฟนฉัน? หืม? นี่แก รนหาที่ตายใช่ไหม?” หลี่ฝางกล่าวอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ

ภาษาญี่ปุ่นของเขาค่อนข้างคล่องแคล่ว หรือแม้แต่มีสำเนียงของคนพื้นที่เล็กน้อย ไม่มีใครดูออกว่าเขานั้นเพิ่งฝึกเรียนมา

ริโกะที่ไหวตัวได้เข้าใจในความหมายของเขาทันที พลันโผเข้าอ้อมกอดของหลี่ฝางไม่ปล่อย

“โยตะ นายรีบไปเถอะนะ! ฝีมือการต่อสู้ของแฟนฉันเก่งมากเลยนะ!”

ริโกะเพื่อให้โยตะเกรงกลัว จึงกล่าวหลอกล่อเขา

“เก่งมากเลยเหรอ? จะเก่งสักแค่ไหนกันเชียว! ฉันอยากจะลองสักตั้ง!”

โยตะเผยใบหน้าเยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่าเกิดความสงสัยต่อสถานะของหลี่ฝางที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน

เมื่อได้ยินอย่างนั้น สายตาของริโกะเผยความหวาดหวั่นแวบผ่านเล็กน้อย เพราะเธอพูดไปเรื่อยจริงๆ นั่นแหละ

และเมื่อเห็นความหวาดวิตก โยตะเกิดความเชื่อมั่นมากกว่าเก่า

แต่สำหรับหลี่ฝางนั้นช่างเป็นเรื่องที่ง่ายดายต่อไป ในเมื่อโยตะคนนี้สร้างโอกาสที่ดีขนาดนี้ให้แก่เขา ถ้างั้นตอนจัดการเขาตนก็จะเบามือหน่อยแล้วกัน

“นี่แก หากแกไปตอนนี้ ก็จะไม่เจ็บตัว ไม่อย่างนั้น อีกเดี๋ยวแกคงต้องคลานกลับไป”

หลี่ฝางหัวเราะอย่างเหยียดหยามพร้อมกับยกหมัดขึ้นพลางพูดยั่วยุ

โอกาสที่ดีขนาดนี้ หากอีกฝ่ายจากไปแบบง่ายๆ คงเสียดายแย่

หากไม่แสดงฝีมือสักหน่อย จะทำให้ริโกะ โคมุระจดจำเขาได้อย่างไรกันล่ะ?

เป็นไปตามคาด เมื่อได้ยินประโยคของเขา บุคคลที่มีนามว่าโยตะเกิดโมโหขึ้นมาทันที

“คอยดูแล้วกันฉันจะสั่งสอนแกให้หลาบจำ!”

จบประโยค เขาส่งสายตาให้กับพรรคพวกที่อยู่ข้างๆ พร้อมพุ่งเข้าไปที่หลี่ฝางอย่างพร้อมเพรียงกัน

เผชิญหน้ากับกำปั้นของชายสองคน หลี่ฝางนิ่งไม่ไหวติง ราวกับว่าตกใจสุดขีด

ทันใดนั้น ทำให้ริโกะและเพื่อนกรีดร้องออกมาเสียงดัง

ริโกะหลับตาปี๋ คิดในใจอย่างเจ็บปวด ชายที่มีความสุภาพบุรุษคนนี้ กำลังจะถูกทำร้าย

หากแต่ต่อมา เสียงร้องอย่างอนาถสองสายดังขึ้นข้างหูเธอ

“สองสาย? ทำไมถึงได้มีเสียงร้องของสองคนได้?” ความคิดดังกล่าวแวบผ่านเข้าในใจของริโกะ พลันลืมตาขึ้น

ทันใดนั้น เธอก็ได้พบกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มสดใสของหลี่ฝางส่งยิ้มให้กับเธอ และชายสองคนอย่างโยตะที่นอนอยู่กับพื้นพร้อมเสียงร้องโอดโอย

ใบหน้าที่อบอุ่นหล่อเหลาของหลี่ฝาง รวมไปถึงออร่าของเรา หัวใจของริโกะเต้นระรัวด้วยความเร็วสูงอย่างไม่เอาไหน

“คุณ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ริโกะดึงสติกลับมาจากภวังค์ กล่าวถามอย่างห่วงใย

“อืม ไม่เป็นอะไรมากหรอก” หลี่ฝางแสร้งยกแขนขึ้นเพื่อให้เห็นบาดแผลอันสุดแสนจะเล็กน้อยของเขา

รอยแผลนี้เขาตั้งใจทำให้ถลอกเอง ไม่เช่นนั้นจะหาข้ออ้างใกล้ชิดหญิงสาวได้อย่างไร?

“ให้ตาย! คุณบาดเจ็บ!” ริโกะรีบมุ่งเข้าไปจับแขนของหลี่ฝางเอาไว้ พร้อมพลิกกายของเขาไปมา พบว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณอื่นอีก จึงลอบถอนหายใจ “คุณต้องทำแผล ไม่เช่นนั้นบาดแผลจะติดเชื้อได้!”

เพื่อนของริโกะที่ยืนอยู่อีกด้าน กุมตัวคนที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด ที่ไม่สามารถแม้แต่คลานลุกขึ้นอย่างโยตะและพวกพ้อง พลันกระตุกมุมปากอย่างอดไม่ได้

เมื่อสักครู่เธอเห็นอย่างชัดเจน หลี่ฝางปล่อยหมัดใส่ทั้งคู่ ปล่อยหมัดคู่พร้อมกัน เล่นงานทั้งคู่อย่างอนาถ

เพราะแผลถลอกเล็กน้อยจากเหตุการณ์เช่นนี้ จำเป็นที่จะต้องจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ?

ยังไงซะ ทั้งสองคนนั้นถูกเล่นงานจนกระอักเลือดเชียวนะ

“ไอ้สารเลวสองคนนี้ หาเรื่องใส่ตัวเอง!” เมื่อได้ยินคำกล่าวของเพื่อนร่วมชั้น ริโกะก่นด่าระลอกหนึ่ง จากนั้นจึงไม่สนใจชายสองคนที่นอนกองกับพื้นอีก

“ไม่งั้นคุณกลับบ้านกับฉันไหม ฉันจะทำแผลให้”

ริโกะจับแขนของหลี่ฝางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย พลันกล่าวเสียงแผ่ว

ห๊ะ ง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ?

หลี่ฝางไม่คิดเลยว่าจะคืบหน้าเร็วขนาดนี้ เขาเองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องลังเล จึงพยักหน้ากล่าว “ได้”

เพราะงั้นริโกะจึงบอกลาเพื่อนร่วมชั้น ลากแขนของหลี่ฝางมุ่งไปที่บ้านของตน

“ใช่สิ คุณ ยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย” ระหว่างทาง ริโกะกล่าวถามอย่างเกรงอกเกรงใจ

“อืม ผม……ผมชื่ออาสึกะ” หลี่ฝางไตร่ตรอง ก่อนที่จะนึกชื่อหนึ่งขึ้นมาได้

เมื่อสักครู่แทบจะไม่ระวังพูดชื่อนามแฝงของตนเมื่อก่อนออกมาแล้ว อยู่ที่นี่ใช้ชื่อภาษาจีนคงไม่ได้

“ฉันชื่อริโกะ โคมุระ” ริโกะเองก็แนะนำตัวเอง

“ฮ่าฮ่า ผมยังรู้อีกด้วยว่าคุณมีพี่สาวสองคน คนโตมีชื่อว่ามิเอะ โคมุระ คนรองมีชื่อว่าเอโกะ โคมุระ” หลี่ฝางหัวเราะในใจ

แน่นอน ว่าคำพูดเหล่านี้ไม่มีทางพูดออกมาได้

ระหว่างทางหลังจากนั้น หลี่ฝางใช้ความคิดอย่างหนัก ใช้แผนการหลากหลายเพื่อที่จะได้คุยกับริโกะ ทำให้ริโกะรู้สึกใกล้ชิดกับเขาอย่างรวดเร็ว

ไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงหน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ริโกะกล่าวกับหลี่ฝาง “คุณอาสึกะ ที่นี่เป็นบ้านของฉัน”

ริโกะที่กล่าวจบประโยค สีหน้าของเธอเหยเกขึ้นมาเล็กน้อย ความร่าเริงสดใสมลายหายไปในทันที

เพราะเธอไม่รู้สึกถึงความสุขเลยแม้แต่น้อยที่บ้านหลังนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบมีเพียงแค่ความเศร้าโศกและเจ็บปวด

“เราเข้าไปกันเถอะ” เมื่อนึกขึ้นได้ว่าข้างกายเขายังมีหลี่ฝาง ริโกะจึงเก็บอาการ ฝืนยิ้มออกมา ลากหลี่ฝางเดินเข้าไปด้านใน

หลังจากที่เดินเข้าไป หลี่ฝางก็พบกับการตกแต่งภายในที่หรูหรา สมแล้วที่เป็นบ้านของรัฐมนตรี

และในขณะเดียวกันกับที่หลี่ฝางชื่นชมภาพทัศน์ ก็ไม่วายที่จะฟังเสียงคนรอบข้างไปด้วย หากแต่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนอื่นดังขึ้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน