NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1078 รถหรูเปิดทาง

บทที่ 1078 รถหรูเปิดทาง

เอโกะ โคมุระสะดุ้งโหยง พลันนึกถึงคู่ของเธอขึ้นมา เธอโล่งอกขึ้นมาทันที

เธอมั่นใจว่าเธอไม่มีทางขายหน้าในงานเลี้ยงน้ำชาครั้งนี้แน่

เพียงแต่ริโกะจะขายขี้หน้าหรือไม่นั้น? เธอไม่แยแสหรอก หรือแม้กระทั่งรู้สึกยินดีด้วยซ้ำ

“ริโกะ อีกเดี๋ยวบอกให้แฟนจนตรอกของแกแต่งดีๆ หน่อยนะ อย่าใส่เสื้อผ้าที่กระจอกไปขายขี้หน้า!” เอโกะหัวเราะเยาะใส่ริโกะ

ริโกะหวั่นเกรงขึ้นมา เธอรู้ดีว่าเอโกะตั้งใจพูดอย่างงั้น เพื่อให้บิดาของเธอได้ยิน ให้ท่านสาวความ หรือสั่งสอนเธอสักหน่อย

หากแต่ สิ่งที่ทั้งคู่คาดไม่ถึง บิดาของพวกเธอโนะชิมะ โคมุระได้ยินประโยคนั้น กลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ แม้แต่น้อย พลันผ่านทั้งคู่ไป ขึ้นไปบนรถเคลื่อนตัวออกทันที

ทันใดนั้น เอโกะและริโกะต่างรู้สึกประหลาดใจ สงสัยว่าบิดาของพวกเธอไม่ได้ยินประโยคนั้น

หากเป็นปกติ โนะชิมะ โคมุระได้เอ็ดริโกะจนโงหัวไม่ขึ้นนานแล้ว

ในเวลานี้เอง เสียงลำโพงของเครื่องยนต์ดังขึ้นจากทางด้านนอก ทั้งคู่แหงนหน้าขึ้น ก็ได้พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีเดินลงมาจากรถ

“เอโกะ เราไปกันเถอะ!”

เมื่อเห็นชายหนุ่ม เอโกะเผยรอยยิ้มหวานบนใบหน้า พร้อมมุ่งไปที่ชายหนุ่ม

“ฮิเดโทชิ!”

ชายหนุ่มผู้นี้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลใหญ่หนึ่ง และเป็นแฟนหนุ่มของเธอ

ไม่ว่าจะสำหรับเธอหรือฮิเดโทชิ สถานะของทั้งคู่ก็เหมาะสมกันอย่างมาก ทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็ได้รับการยอมรับจากทั้งสองครอบครัว

พวกเขาทั้งคู่ไปร่วมงานเลี้ยงน้ำชาด้วยกัน ไม่มีทางมีปัญหาใดๆ อยู่แล้ว

“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแฟนจนตรอกของริโกะเลย!” เอโกะคิดในใจ

ในเวลานี้เองฮิเดโทชิเดินเข้ามา จ้องมองสองพี่น้องเอโกะและริโกะที่ยืนอยู่ที่หน้าประตู สายตาหยุดอยู่ที่ริโกะสักพัก พลันเก็บซ่อนความต้องการเอาไว้ในส่วนลึก

ความจริง ไม่ว่าจะรูปลักษณ์หรือหุ่นของริโกะก็อยู่เหนือเอโกะทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังอายุน้อยกว่าเอโกะด้วย สิ่งเหล่านี้ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ดึงดูดสายตาของฮิเดโทชิ

และเพราะความโดดเด่นของริโกะที่มากกว่าเธอ จึงทำให้เอโกะไม่พึงพอใจในตัวริโกะ

“ริโกะ ผมไปส่งไหม?” เขากล่าวถามด้วยความหวังดี

“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไร รบกวนแล้วนะคะ” ริโกะปฏิเสธ

“เหอะ แฟนจนตรอกของริโกะอีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว” เอโกะเดินขึ้นไปบนรถโดยไม่หันกลับมามอง พร้อมเหยียดหยามไม่หยุด “ริโกะ พวกเธอคงไม่ได้เดินไปร่วมงานเลี้ยงน้ำชาหรอกนะ?”

ประโยคของเอโกะ ทำให้ฮิเดโทชิสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมา แต่กลับมลายหายไปในทันที ไม่มีใครได้ทันสังเกตเห็น

“ริโกะมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ริโกะไม่ตอบโต้ใดๆ

เอโกะจ้องมองทีท่านิ่งเงียบของริโกะ ด้วยความโกรธมากกว่าเดิม ไม่วายกล่าว “ริโกะ ฉันเป็นพี่สาวของแก ยังไวก็ทิ้งแกไว้แบบนี้ไม่ได้ เอางี้แล้วกัน เราจะรออยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนเธอสักพักแล้วกัน ไม่แน่หากแฟนจนตรอกของเธอคนนั้นไม่มาขึ้นมา เราก็จะได้พาเธอไปด้วย”

เธอจะทำให้น้องสาวของเธอขายขี้หน้าให้ได้ ถึงจะทำให้เธออารมณ์ดีได้ ริโกะอับอายมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น

“ผมว่าความคิดนี้ไม่เลวเลยนะ” ฮิเดโทชิที่คิดไม่สื่อกล่าวไปตามน้ำ

เขาเองก็อยากใช้โอกาสนี้ข่มริโกะ ให้เธอได้ขายขี้หน้า เช่นนี้ อีกหน่อยหากเขาทำอะไรเธอละก็ ไม่แน่เธอก็อาจจะไม่ต่อต้าน……

แถมเอโกะคำก็จนตรอกสองคำก็จนตรอก ก็เท่ากับได้บอกกับฮิเดโทชิอย่างชัดเจนแล้ว ว่าแฟนหนุ่มของริโกะไร้สถานะใดๆ

เช่นนี้ เวลาค่อยๆ ผ่านไป เมื่อเห็นว่าหากไม่ออกเดินทางอีกก็จะสายแล้ว ริโกะกลับรอเงาร่างของหลี่ฝางปรากฏตัวไม่ได้เสียที

“ริโกะ ฉันว่าไอ้จนตรอกนั่นไม่มาแล้วล่ะ!” เอโกะร้องเสียงแหลม อย่างเย้ยหยัน ได้เสียความอดทนที่จะรออีกต่อไปแล้ว

“เอโกะ ผมว่าริโกะคงจะถูกหลอกเข้าแล้ว ผมว่าเรารีบไปกันเถอะ!” ฮิเดโทชิเร่งเร้า

หากยังเสียเวลาต่อไป อาจจะไปสายได้ งานเลี้ยงน้ำชาที่สำคัญขนาดนี้ หากสายขึ้นมาละก็ เขาต้องเจอดีแน่

“ไปกันเถอะ เราไม่รอแล้ว” เอโกะเองก็เข้าใจดีในส่วนนี้ จึงรีบพยักหน้า

จบประโยค เอโกะเหลือบมองริโกะอย่างได้ใจ ด้วยความรู้สึกสะใจ

รอคู่ของตัวเองไม่ได้ คงต้องไปร่วมงานเลี้ยงน้ำชาคนเดียว หรือแม้แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเข้างานสาย

สำหรับเธอ ริโกะในตอนนี้มีเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้น

หากแต่ ในขณะที่ทั้งคู่ออกรถ เสียงของเครื่องยนต์ก็ดังเข้ามาที่โสตประสาทหูของพวกเขา

ทั้งคู่ถูกเสียงนั้นดึงดูด พลันหันกลับไปมอง ก็ได้พบกับรถหรูสีดำราวสายฟ้าคันหนึ่ง กำลังแล่นเข้ามาด้วยความเร็วสูง

นี่เป็นรถสปอร์ตในประเทศที่มีจำนวนจำกัด มีมูลค่ากว่าสิบล้านเหรียญสหรัฐ

รถสปอร์ตระดับนี้ ปรากฏขึ้นที่นี่ได้ ทำให้ฮิเดโทชิเบิกตาโพลง

ไม่มีผู้ชายกี่คนหรอกนะที่ไร้ความสนใจในเรื่องรถ โดยเฉพาะรถระดับนี้

รถถูกเบรกจอดอยู่ตรงหน้าริโกะ สำแดงอิทธิฤทธิ์ที่น่าทึ่ง

ประตูรถถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติ รอยยิ้มของหลี่ฝางปรากฏขึ้นตรงหน้าของริโกะ

เขาเพื่อให้ได้รถคันนี้มา เสียแรงไปไม่น้อย อย่างน้อยก็ทำให้หลิวฮุยเสียแรงอยู่ไม่น้อย

คนเรา ต่างก็ชอบเสแสร้งกันทั้งนั้น หากไม่มีรถหรูสักคันเพื่อเสริมความโดดเด่น จะแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าดึงดูดได้อย่างไร?

ส่วนเรื่องอื่น หลี่ฝางเบื่อหน่ายที่จะไตร่ตรองให้มากความ คำเดียว เท่ก็พอแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท