NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1079 ผมไม่รู้จักพวกเขา

บทที่ 1079 ผมไม่รู้จักพวกเขา

รถที่เจิดจรัสขนาดนี้ ช่างตระการตาเหลือเกิน

ฮิเดโทชิที่เห็นรถคันนี้จอดอยู่ตรงหน้าของเขา เขาตะลึงงันในทันที

ฮิเดโทชิและเอโกะทั้งคู่จับจ้องหลี่ฝางเปิดประตูรถลงมาตาถลน หลี่ฝางในตอนนี้ทั้งตัวประดับด้วยเสื้อผ้าสวยหรูดูแพง รูปร่างสง่าผ่าเผย บวกกับออร่าของเขา ทำให้ทั้งคู่ตะลึงงัน

คนแบบนี้ จะเป็นไอ้จนตรอกได้อย่างงั้นเหรอ? ฮิเดโทชิคำรามในใจ เหล่าชนชั้นสูงก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้!

หลี่ฝางเพียงแค่ชายตามองทั้งคู่เท่านั้น ก่อนหันหน้ากลับ มองไปที่ริโกะ

“โทษที ริโกะ ผมมาช้าไปหน่อย”

เมื่อจ้องมองริโกะที่เห็นได้ชัดว่ารออยู่ตรงนี้นานแล้ว หลี่ฝางเผยรอยยิ้มที่รู้สึกผิด

“ไม่เป็นไร ฉันเองก็เพิ่งเตรียมตัวเสร็จเมื่อสักครู่นี้” ริโกะกล่าวอย่างเขินอาย

“ถ้างั้นเราขึ้นรถเถอะ” หลี่ฝางเปิดประตูให้กับริโกะ

ริโกะขึ้นไปนั่งบนรถด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข รู้สึกว่าหัวของเธอวิงเวียนเล็กน้อย

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ? ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม? ความฝันที่หอมหวานขนาดนี้ ฉันไม่อยากจะตื่นมาอีกแล้ว……

ริโกะคิดในใจ

“บรื้น——”

เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงเครื่องยนต์แล่นออกจากที่พาให้เลือดในกายพลุ่งพล่าน ราวกับสายฟ้าสีดำหายวับภายใต้สายตาของฮิเดโทชิและเอโกะอย่างรวดเร็ว

ฮิเดโทชิหันไปทางเอโกะด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เสมือนต้องการค้นหาคำตอบจากเธอว่าทำไมต้องโกหกเขา

ส่วนสีหน้าของเอโกะเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าฮิเดโทชิแม้แต่น้อย ได้เห็นหลี่ฝางปรากฏตัวขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ ไฟโกรธในใจเธอแทบจะเผาตัวเธอให้ไหม้เกรียม

เพราะมาค่อนข้างช้า แม้ว่าหลี่ฝางจะพยายามเร่งความเร็ว แต่ก็ไปงานเลี้ยงน้ำชาสายจนได้

แม้เขาจะไม่แยแสเรื่องมาสายหรือไม่ แต่ก็ใส่ใจในความรู้สึกของริโกะมาก

ยังไงซะริโกะก็มองงานเลี้ยงน้ำชาในครั้งนี้สำคัญมาก

“คุณอาสึกะไม่ต้องใจร้อนไปหรอกค่ะ รถบนถนนแน่นมาก อาจเพราะทุกคนอยากจะชื่นชมรถของเราอีกสักหน่อย”

ริโกะกลับไร้ความไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับดีใจมาก เป็นฝ่ายปลอบโยนหลี่ฝางเสียเอง

“คงงั้นล่ะมั้ง” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ในขณะที่พวกเขาจอดรถเสร็จเตรียมดินเข้าไปด้านใน ด้านหลังมีรถอีกคันพุ่งเข้ามา หลังจากนั้น ฮิเดโทชิและเอโกะก็ลงมาจากรถด้วยความเร่งรีบ

“ให้ตายสิ เราสายแล้ว!” ฮิเดโทชิคำรามเสียงดัง

ความสำคัญของงานเลี้ยงในครั้งนี้ บิดาของเขาย้ำเตือนกับเขาอยู่บ่อยครั้ง ตอนนี้เขาสามารถคาดเดาได้ ถึงเรื่องราวหลังจากที่บิดาของเขารู้เรื่องที่ตนสายเข้า ว่าเขาจะมีจุดจบอย่างไร

หรือแม้อาจถูกตระกูลคามิยะที่เป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ขึ้นกล่าวโทษ หากเช่นนั้นจุดจบของเขาต้องแย่แน่

ในเวลานี้เอง เขาได้พบกับหลี่ฝางและริโกะ อารมณ์หวาดหวั่นในใจเปลี่ยนเป็นยินดีปรีดา

ที่แท้พวกเขาเองก็สายเหมือนกัน ดีจังเลย! ฮิเดโทชิโล่งอกขึ้นมาก พลันเดินเข้าไปยื่นให้ไปหลี่ฝาง

“สวัสดีครับ ผมคือฮิเดโทชิ”

หลี่ฝางชายตามองเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงทำเสมือนว่าฮิเดโทชิเป็นอากาศธาตุ หมุนตัวจูงมือของริโกะเดินจากไป

ทันใดนั้น ความโกรธในใจของฮิเดโทชิราวกับราดน้ำมันเบนซินปะทุขึ้น

ส่วนหลี่ฝางสองคน ตอนนี้เขาถูกการ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าประตูรั้งเอาไว้

“คุณผู้ชายครับ คุณมาสาย ไม่สามารถเข้าไปได้แล้วครับ เชิญกลับดีกว่าครับ”

การ์ดทั้งสองกล่าวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

กล้ามางานของตระกูลคามิยะสาย หนุ่มคนนี้ไม่กลัวบิดาของตนเอาเรื่องหรือยังไง?

ฮิเดโทชิที่ตามเข้ามาติดๆ ก็เห็นสถานการณ์นี้เช่นเดียวกัน พลันเดินเข้าไปด้วยความลังเล

“คุณผู้ชายทั้งสองท่าน ผมเป็นคนของตระกูลซาวาโนะ การมาสายเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ทราบว่าจะยืดหยุ่นให้หน่อยได้หรือไม่?”

เขาไม่กล้าล่วงเกินทั้งสอง แม้ว่าทั้งสองเป็นเพียงการ์ดก็ตาม

ขณะเดียวกันเขาเองก็เน้นย้ำ “ซาวาโนะ” สองคำนี้เช่นเดียวกัน หวังว่าจะสามารถใช้อำนาจของตระกูลเพื่อให้ทั้งคู่ประนีประนอม

น่าเสียดาย ที่วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับทั้งคู่

“ไสหัวไปซะ!”

“ถ้ายังกล้าเข้ามาอีก ฉันจะฆ่าพวกแกซะ!”

ทั้งสองเกิดเกรี้ยวกราดขึ้นมา

ตระกูลคามิยะเป็นตระกูลแบบไหนกัน เป็นคนมีสัจจะ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงการ์ดเฝ้าประตู แต่ก็เป็นผู้มีฝีมือ หรือแม้แต่มีอำนาจอยู่บ้าง จึงไม่แยแสทั้งคู่

ทันใดนั้น ฮิเดโทชิและเอโกะสีหน้าบูดบึ้ง แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ สีหน้าเต็มไปด้วยคชอารมณ์หลากหลาย

ในเวลานี้เองฮิเดโทชิพบว่าหลี่ฝางหยิบการ์ดเชิญเดินเข้าไป

ทันใดนั้น ฮิเดโทชิเกิดอารมณ์ที่เปลี่ยนไป เสมือนว่าเขาเยาะเย้ยความผิดหวังของหลี่ฝาง พลันรู้สึกอยากจะดูเรื่องสนุก

ส่วนการ์ดทั้งสองที่เห็นว่าหลี่ฝางยังกล้าเข้าใกล้อีก กำลังจะเกรี้ยวกราดใส่ เสมือนว่าเห็นสัญลักษณ์บางอย่างบนการ์ดเชิญ

“นี่ นี่มัน……”

การ์ดทั้งสองตกตะลึง ปฏิกิริยาที่มีต่อหลี่ฝางเปลี่ยนไป

หนึ่งในนั้นตรวจสอบการ์ดเชิญของหลี่ฝางด้วยความเคารพ ทันใดนั้น ทั้งคู่เกิดเคารพยำเกรง

“ต้องขออภัยด้วยครับ ท่าน เป็นความผิดพลาดของเราเอง!”

ทั้งสองสามารถพูดได้ว่าโค้งคำนับ รีบเปิดประตู เชื้อเชิญหลี่ฝางเข้าไป

“ไม่เป็นไร นี่เป็นหน้าที่ของพวกนาย” หลี่ฝางเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ก่อนพาริโกะเตรียมเข้าไปในงาน

ส่วนฮิเดโทชิและเอโกะที่อยู่ด้านหลังตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น ด้วยความไม่เข้าใจว่าหลี่ฝางมีสถานะยังไงกันแน่ ถึงได้ทำให้คนของตระกูลคามิยะเคารพนอบน้อมแบบนี้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน