NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1098 ฟูจิวาระผู้น่ากลัว

บทที่ 1098 ฟูจิวาระผู้น่ากลัว

เพียงพริบตา ก็เป็นเวลายี่สิบวันผ่านไปนับตั้งแต่การต่อสู้

ร่างกายของหลี่ฝางฟื้นตัวเร็วกว่าที่เขาคาดคิด หลังจากพยายามมานานกว่า 20 วัน อาการบาดเจ็บของเขาก็เกือบจะหายดีแล้ว

และวันนี้ เขาก็กำลังจะเริ่มเปิดฉากงานเลี้ยงแก้แค้น

เป้าหมายแรก นางาโตะ

ตกดึก หลี่ฝางซ่อนตัวเงียบ ๆ ในที่ลับ และสังเกตดูสถานการณ์ในบ้านหลังนี้

ที่นี่ เป็นสถานบันเทิงระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียง และขณะนี้นางาโตะกำลังสำเริงสำราญอยู่ที่นี่

หลังจากที่หลี่ฝางรอโอกาสนี้มาหลายวัน ในที่สุดโอกาสก็มาถึง

ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ นางาโตะเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตนมาตลอด รอบด้านรอบไปด้วยทหารจำนวนมาก แม้กระทั่งฝันก็ยังกังวลว่าจู่ๆหลี่ฝางจะบุกเข้ามาและฆ่าเขา แต่วันนี้กลับไม่รู้ว่าไปเอาความกล้าหาญมาจากไหน ถึงได้ออกมาจากป้อมปราการเหล็กของเขาได้

และในเวลานี้ หลี่ฝางก็กำลังอาศัยความสามารถในการฟังที่ดีเยี่ยม แอบดักฟังบทสนทนาระหว่างนางาโตะกับลูกน้องของเขา

“ท่านนางาโตะ คุณออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้ หากท่านโทชิโอะรู้เข้าจะโกรธหรือไม่?”

“หึหึ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่โทชิโอะ คามิยะจะต้องพึ่งพาพวกเรา เขาจะมาโกรธฉันด้วยเรื่องพวกนี้ได้ยังไง! ยิ่งกว่านั้น สิบสองอัศวินของDynastyก็มาถึงแล้ว ยังจะมีอะไรให้กลัวอีก!” นางาโตะกล่าว

“Dynastyงั้นหรือ?” หลี่ฝางครุ่นคิด

แม้ว่าเขาจะรู้จักDynasty และเคยต่อสู้กับDynastyมาก่อนไม่ว่าจะก่อนหรือหลังสูญเสียความทรจำ แต่เขากลับไม่เคยรู้เลยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของDynasty นั้นเป็นอย่างไรกันแน่

จนถึงตอนนี้ ความแข็งแกร่งที่Dynastyแสดงออกมายังคงเป็นประหนึ่งภูเขาน้ำแข็งท่ามกลางมหาสมุทร ยากลึกหยั่งถึง

“เห็นที คงต้องระมัดระวังหน่อยแล้ว”

ในใจของหลี่ฝางคิดอย่างนั้น

ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา หากเจอกับDynastyเข้าให้ แข็งชนแข็งก็เท่ากับความตาย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลี่ฝางก็รออย่างอดทนมากขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไปจนค่อยๆ มาถึงกลางดึกครึ่งหลัง ผู้คนในห้องก็ค่อยๆ เหนื่อยอ่อนและผ่อนคลายการเฝ้าระวังของพวกเขาลงจนถึงขีดต่ำสุด

และในที่สุด หลี่ฝางก็ตัดสินใจลงมือ

ในห้อง นางาโตะยังคงโอบซ้ายกอดขวา มองดูนักเต้นสาวหลายคนที่อยู่ข้างหน้าและส่งเสียงเชียร์ดังลั่น

“ท่านนางาโตะ ได้ยินมาว่าท่านเป็นคนแรกที่ทำให้หลี่ฝางบาดเจ็บ ใช่ไหมคะ?” หญิงสาวทางด้านซ้ายพิงอ้อมอกของเขาอย่างออดอ้อน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยั่วยวน จนทำให้คนรู้สึกคันหัวใจขึ้นมายุบยิบ

“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสร้างความเสียหายอย่างมากต่อหลี่ฝาง แบบนั้นโทชิโอะ คามิยะจะชนะได้หรือไง?” นางาโตะหัวเราะลั่วและเอ่ยโอ้อวด

แม้ว่าคนแรกที่ทำร้ายหลี่ฝางจะถูกหลี่ฝางฆ่าตายไปตั้งแต่ในที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนเขาก็ถูกหลี่ฝางโจมตีจนได้รับบาดเจ็บตั้งแต่การเผชิญหน้าครั้งแรก หลังจากบาดเจ็บในใจก็เกิดความหวาดกลัวฝังลึกเอาไว้

แต่เรื่องพวกนี้ถ้าเขาไม่พูด แบบใครจะไปรู้ล่ะ?

คนพวกนี้ ชื่นชมบูชาเขาเป็นอย่างยิ่ง!

นางาโตะคิดอย่างภาคภูมิใจ ทันใดนั้น จิตสังหารที่เฉียบคมอย่างไม่มีใครเทียบได้ก็พุ่งเข้ามาล็อกนางาโตะเอาไว้ทันที ทำให้เสียงหัวเราะดังด้วยความภาคภูมิใจของเขาติดค้างอยู่ในลำคอ

“จริงเหรอ นางาโตะ?” เสียงกระซิบที่ฟังราวกับเทพแห่งความตายดังขึ้นข้างๆหูของเขา นางาโตะรู้สึกได้เพียงความหนาวเหน็บที่เกิดขึ้นในหัวใจ จากนั้น เขาก็เห็นมือข้างหนึ่งที่กำลังกำหัวใจของเขาเอาไว้ มันถูกยกขึ้นมาตรงหน้าเขาแล้วออกแรงบิดเบาๆ

“ปึง!”

นางาโตะหมดสติไปอย่างสิ้นเชิง

……

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ความตื่นตระหนกก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

นับตั้งแต่การเสียชีวิตของนางาโตะ ผู้ที่มีส่วนร่วมในการสังหารหลี่ฝางวันนั้น ไม่กี่วันมานี้ล้วนถูกสังหารอย่างลึกลับติดๆกัน ส่วนอีกฝ่ายแม้กระทั่งขอบชายเสื้อของฆาตกรก็ยังไม่มีใครจับได้

ทุกคนล้วนรู้ว่า เป็นหลี่ฝางที่กลับมาแก้แค้น

สี่ปรมาจารย์ที่รอดชีวิตในวันนั้น มาตอนนี้สามคนได้ตายไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยเงื้อมมือของหลี่ฝาง

สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่คนสุดท้าย

ในคฤหาสน์ลับ โยโกยาม่ากำลังนั่งอยู่ในห้องของเขา ตรงหน้ามีดาบของเขาวางอยู่

การแสดงออกของเขาดูสงบ แต่ในใจของเขากลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความปั่นป่วน

เขาเป็นคนสุดท้ายในสิบปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ในหลังจากวันนั้น และกำลังเผชิญหน้ากับเทพเจ้าแห่งความตายที่อาจมาเอาชีวิตของเขาได้ตลอดเวลาท่ามกลางความมืด เป็นใครก็คงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้

โยโกยาม่ารู้ดีว่าความแข็งแกร่งของหลี่ฝางนั้นมากขึ้นไปทุกวัน ตนเองที่ในฐานะที่เป็นคนสุดท้ายที่เขาจะมาแก้แค้น การเผชิญหน้ากับเขามีแต่จะต้องตายเร็วขึ้นเท่านั้น และไร้ซึ่งการต่อต้าน

ในที่สุด โยโกยาม่าที่อยู่ในห้องก็ทนไม่ไหวกับบรรยากาศอันกดดันนี้อีกต่อไป เขาเงยหน้าขึ้นไปมองชายวัยกลางคนผิวขาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา

“คุณเฟอร์กัส” เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากขึ้น “ทุกวันที่ผ่านพ้นไปล้วนหมายถึงอาการบาดเจ็บของหลี่ฝางที่ฟื้นตัวขึ้น ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าการลงมือหลายครั้งก่อนหน้านี้ไปมากแล้ว ดังนั้น…”

ตรงหน้าเขา มีคนอยู่ทั้งสิ้นสิบสามคน ส่วนโยโกยาม่าก็กำลังพูดกับชายที่นั่งนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงกลางคนนั้น

“ทำไม คุณไม่เชื่อมั่นพวกเรา?” ชายคนนั้นค่อยๆลืมตาขึ้น ชั่วพริบตา ราวกับว่ามีสายฟ้าสองสายแทงทะลุเข้าไปในหัวใจของโยโกยาม่าทันที ทำให้เขาพูดไม่ออก

ช่องว่างขนาดใหญ่เช่นนี้ ทำให้เขานึกขึ้นได้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย

หนึ่งในสิบสองอัศวินแห่งDynasty ปรมาจารย์กำลังภายใน!

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น” โยโกยาม่ารีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น “ผมแค่เพียงคิดว่า ถ้าท่านโทชิโอะก็อยู่ที่นี่ด้วย คงจะมีความมั่นใจเพิ่งมากขึ้นไปอีก…”

เผชิญหน้ากับปรมาจารย์กำลังภายใน เขาจะไปโต้แย้งด้วยได้ยังไงกัน?

“หึ!” เฟอร์กัสพูดอย่างเย็นชา “ถ้าหลี่ฝางพบว่าโทชิโอะ คามิยะหายตัวไป เขาจะยังมาที่นี่อีกหรือไง? โง่เง่า!”

เขาตำหนิโยโกยาม่าอย่างไม่ไว้หน้า จากนั้นเฟอร์กัสก็เอ่ยอธิบายอย่างรำคาญ “ในนี้ถูกปกคลุมด้วยวางกรอบดักศัตรูแล้ว ต่อให้จะรั้งหลี่ฝางไว้ไม่ได้ แต่จะต้องปกป้องนายให้ปลอดภัยแน่ นายยังจะกลัวอะไร ยังไม่รีบไปหลอกล่อหลี่ฝางให้มาติดกับอีก!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท