ความทรงจำของหลี่ฝางยังไม่ฟื้น ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุด แต่เขาก็ไม่ได้โง่เขลาถึงขั้นที่ต่อสู้กับผู้อื่นและสละชีวิตของตนทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์
ดังนั้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาถูกโจมตีจนกระเด็นในตอนนั้น เขาก็แอบซ่อนระเบิดเอาไว้ที่นี่
จากนั้นในระหว่างการต่อสู้ เขาก็ได้ชักนำโทชิโอะ คามิยะมาที่นี่อย่างเงียบๆ
ตูม!
การระเบิดครั้งใหญ่ทำให้ทุกคนตะลึงไปในทันที
อีกทั้งก่อนที่จะระเบิด หลี่ฝางที่กำลังใช้แรงเฮือกสุดท้ายเพื่อหลบหนี ก็ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธของโทชิโอะ คามิยะ
“ไอ้สารเลว!”
หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูก
ฉันสารเลว?
นี่นายคงไม่ได้ลืมไปแล้วหรอกนะว่านายเรียกคนเป็นสิบมารุมจัดการฉันคนเดียว?
นายสารเลวก่อน แล้วยังกล้ามาว่าฉัน?
ผู้คนที่อยู่ห่างไกลออกไป กำลังตกตะลึงตาค้างไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
คนที่ได้สติกลับมา ก็รีบโทรเรียกรถพยาบาลและรถดับเพลิงในทันที ขณะที่คนที่ยังไม่ได้สติ มาถึงตอนนี้สมองก็ยังไม่แล่นเลยสักนิด
ในเวลานี้ ราวกับว่ามีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นคู่หนึ่ง ฉีกควันและไฟออกจากกันโดยตรง จากนั้น เงาร่างที่เลือนรางร่างหนึ่งก็ค่อยๆเดินออกมาอย่างช้าๆ
ตอนนี้ ทุกคนล้วนจ้องมองไปที่ร่างนั้นอย่างแน่นิ่ง เงาร่างค่อยๆปรากฏชัดขึ้น และนั่นก็คือโทชิโอะ คามิยะ ที่เขาเดินออกมาจากควันดำทีละก้าวๆ บนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยสีดำไหม้เกรียมและมีรอยไหม้อยู่ทุกที่
“พระเจ้า นี่คือพลังของพระเจ้า” มีคนคุกเข่าลงกับพื้นและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำตาคลอเบ้า
และก็มีคนที่รีบพุ่งเข้าไป เพื่อเตรียมตรวจสอบสถานการณ์ของโทชิโอะ คามิยะทันที
ในขณะที่สายตาของโทชิโอะ คามิยะในเวลานี้ กลับเต็มไปด้วยความโกรธจัดอย่างยิ่ง!
……
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ตงหมิงแบกหลี่ฝางที่กลายเป็นคนนองเลือด เดินผ่านตรอกมืดๆไป เขาหลีกเลี่ยงกล้องทุกประเภทและคนเดินถนนที่อาจปรากฏขึ้นได้ทุกเมื่อ
บางทีอาจจะเป็นเพราะการเคลื่อนไหวขณะเดินที่ปลุกหลี่ฝางขึ้นมาจากอาการหมดสติ โลกในตาของเขาพร่ามัวไปหมด แต่เขาก็ยังคงวิเคราะห์ได้ว่าชายที่แบกเขาอยู่นั้นเป็นมิตรหาใช่ศัตรู
“ขอบ…ขอบคุณ…”
หลี่ฝางพูดอย่างยากลำบาก
เขายังคงจำได้ว่า ในขณะที่เกิดระเบิด แม้ว่าตนจะหลบหนีไปได้ไกลพอสมควรแล้ว แต่เขาก็ยังคงกระเด็นไปตามคลื่นระเบิดขนาดมหึมา ร่างกายที่แต่เดิมได้รับบาดเจ็บแล้วบาดเจ็บอีก ก็ยิ่งยากที่จะฝืนทนไหว เขากระอักเลือดออกมาติดๆ
ในเวลานี้เอง จู่ๆตงหมิงก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา อุ้มเขาขึ้นและวิ่งหนีไป
เห็นชัดว่า หากไม่ใช่เพราะตงหมิง วันนี้หลี่ฝางคงยากที่จะหนีพ้น
ส่วนตงหมิงที่พาหลี่ฝางหลบหนี ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เป็นไปได้ทั้งหมด
นั่นเพราะโทชิโอะ คามิยะที่พบว่าหลี่ฝางได้หลบหนี จะต้องบ้าคลั่งสุดขีดขึ้นมาและออกค้นหาเขาไปทั่วเกียวโตแน่
เว้นแต่พวกเขาจะสามารถออกไปจากเกียวโตได้ในเวลาอันสั้นนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้น เมื่อพวกเขาถูกค้นพบก็จะต้องตายในทันที
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดตงหมิงก็พาหลี่ฝางไปยังกระท่อมเล็กๆที่ซ่อนอยู่
“ที่นี่มีหมอที่เก่งมากท่านหนึ่งอยู่ คุณอยู่รักษาตัวที่นี่ก่อน” ตงหมิงกล่าว
หลี่ฝางไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ต่อให้ตงหมิงจะทิ้งเขาไว้ตามลำพัง เกรงว่าเขาก็คงไม่สามารถทนต่อไปได้ สถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้ไปได้สักแค่ไหนเชียว
หลี่ฝางที่สติเลือนรางดูเหมือนจะได้ยินเสียงการสนทนาเบาๆสองครั้ง จากนั้น ประตูก็เปิดออกจากด้านในและมีชายร่างเตี้ยคนหนึ่งเดินออกมา
มาถึงตอนนี้ สติของหลี่ฝางไม่สามารถฝืนทนเอาไว้ได้อีกต่อไป เขาสลบไปทันที
“ปรมาจารย์กำลังภายในคนหนึ่ง…เขาต่อสู้กับปรมาจารย์กำลังภายในอีกคนมา?”
“ช่วยเขา”
“ในเมื่อนายพูดถึงขนาดนี้…อย่างนั้นเมื่อเขาดีขึ้นแล้ว นายก็รีบพาเขาออกไปจากที่นี่ทันที ฉันไม่ติดค้างพวกนายแล้ว”
เสียงสนทนาอันแผ่วเบาดังเข้ามาในหูของหลี่ฝางจนทำให้เขาค่อยๆ ได้สติขึ้นมา
ใบหน้าของหญิงชราตัวเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เธอตรวจดูเขารอบหนึ่งก่อนจะอุทานอย่างตะลึงว่า “เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นานเท่านั้นเอง สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์กำลังภายใน การฟื้นตัวรวดเร็วอย่างยิ่ง”
หลี่ฝางพยายามเคลื่อนไหว ร่างกายของเขายังคงอ่อนแออย่างมาก แต่สายตาของเขากลับคืนมา จากนั้นสภาพแวดล้อมโดยรอบทั้งหมดก็เข้าสู่สายตาของเขา
ทุกที่ในที่นี้ล้วนเต็มไปด้วยขวดและกระป๋องบางอย่าง ในนั้นมีของเหลวแปลก ๆ ทุกชนิด อีกทั้งยังมีเครื่องมือบางอย่างที่ดูแล้วมองไม่ออกถึงจุดประสงค์การใช้งานของมัน ทั้งห้องมองดูแล้วคล้ายกับที่อยู่อาศัยของนักวิทยาศาสตร์ผู้แปลกประหลาด
หญิงชราตัวน้อยมองไปที่หลี่ฝางและไม่พูดอะไร อีกทั้งยังไม่ได้ถามอะไรเขา เธอมองไปที่ร่างของหลี่ฝางและกล่าวว่า “ตอนนี้นายยังอ่อนแออย่างมาก แต่ความสามารถในการฟื้นตัวของนายเร็วอย่างยิ่ง คาดว่าน่าจะใช้เวลาเพียงหนึ่งหรือสองเดือนในการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์”
หญิงชราตัวน้อยดูชื่นชมและประหลาดใจกับความสามารถในการฟื้นตัวที่ไม่ธรรมดาของหลี่ฝาง
“ขอบคุณอย่างยิ่งที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้” หลี่ฝางกล่าว
“ไม่ต้องหรอก มันก็แค่การแลกเปลี่ยน ถ้านายดีขึ้นแล้วก็รีบไปจากที่นี่ซะ ทางที่ดีที่สุดก็คืออย่าได้เอาฉันไปยุ่งเกี่ยว”
หญิงชราตัวน้อยพูดอย่างไม่ใส่ใจ
เรื่องแบบนี้ เธอใช่ว่าไม่เคยเจอมาก่อน ช่วยชีวิตผู้ป่วย แต่สุดท้ายกลับถูกศัตรูของผู้ป่วยมาแค้นถึงหน้าประตู จนเธอเกือบจะถูกฆ่าตาย แม้กระทั่งประเภทเนรคุณ เพื่อที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลของตนออกไปและคิดจะฆ่าเธอปิดปาก เธอก็เคยเจอมาเช่นกัน”
หลี่ฝางลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆและพูดอย่างจริงจังว่า “ผมเป็นหนี้บุญคุณคุณหนึ่งครั้ง”
คำพูดของหลี่ฝาง ทำให้ดวงตาของหญิงชราตัวน้อยมีประกายวาบผ่าน
บุญคุณของปรมาจารย์กำลังภายในนั้นยิ่งใหญ่กว่าคำมั่นสัญญาที่เฉพาะเจาะจงมากมาย
อย่างไรก็ตาม หญิงชราตัวน้อยไม่ได้พูดอะไรมากแต่เธอกลับเอ่ยขึ้นว่า “รอให้ครั้งนี้นายรอดไปได้แล้วค่อยว่ากันเถอะ”