NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1103 จุดสนใจ

บทที่ 1103 จุดสนใจ

นาทีที่สิ้นสุดประโยค โทชิโอะ คามิยะราวกับแก่ลงไปอีกสิบปี

อีกเพียงแค่นิดเดียวแท้ๆ ก็จะได้รับชัยชนะแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะได้รับความเสียหายมากแค่ไหน ก็สามารถชดเชยกลับมาได้

ท้ายที่สุดกลับอีกนิดเดียวเท่านั้น ทำให้โทชิโอะ คามิยะสูญเปล่าทุกสิ่ง

หากวันนี้ยังสู้กันต่อไป หลี่ฝางทำลายสะพานจริงๆ ละก็ เรื่องนี้คงจะแพร่สะพัดไปทั่วเมือง ถึงตอนนั้นความกดดันที่แบกรับ คงไม่ใช่แค่เขาคนเดียวแล้ว แต่เป็นเบื้องบนทุกคน

ยิ่งไปกว่านั้น ความหวาดหวั่นที่ทุกคนได้รับ คงมากจนไม่สามารถคาดเดาไว้

เมื่อหลี่ฝางได้ยินคำของโทชิโอะ คามิยะ ในใจของเขาโล่งออกไปหนึ่งเปลาะ อันที่จริงเขาไม่มีทางลากคนมากมายขนาดนี้ไปตายกับเรื่องบ้าคลั่งนี้ได้

การเสี่ยงทายในครั้งนี้ เพียงแค่ เขาชนะก็เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ท้ายที่สุดหากการตัดสินของโทชิโอะ คามิยะคือการสู้ตายกับเขาไปข้าง เขาก็ไม่มีทางทำลายสะพานหรอก แต่จะใช้แผนการอื่นแทน

อย่างเช่นว่า เปลี่ยนสถานที่รบใหม่ ไปในที่ที่ชนชั้นสูงรวมตัวกัน

หากสูญเสียประชาชนกว่าพันก็ยังไม่สามารถทำให้โทชิโอะเลิกราได้ แล้วถ้าหากสูญเสียชนชั้นสูงนับพันล่ะ?

หากเช่นนั้นแล้วโทชิโอะยังไม่ยอมเลิกรา งั้นหลี่ฝางก็ยอมแล้ว

“ไม่ โทชิโอะ คามิยะ!”

ได้ยินคำตอบของโทชิโอะ คามิยะเหมือนกัน เฟอร์กัสกลับโมโหขึ้นมา

“เป็นปรมาจารย์กำลังภายใน แกจะไปสนใจพวกนักโทษทำไม……”

เฟอร์กัสคำรามอย่างบ้าคลั่ง เมื่อดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตจ้องเขม็งเขา ชะงักกะทันหัน

“คำว่าคนธรรมดาสองคำก็คนธรรมดา แกคิดว่าปรมาจารย์กำลังภายในเป็นใครกัน เทพหรือยัง?”

ปัง!

เสียงระเบิดดังขึ้นที่ยอดเสา ทันใดนั้น เสาเหล็กที่หลี่ฝางยืนอยู่นั้นถูกบิดจนเบี้ยว ส่วนเงาร่างของหลี่ฝาง เสียงสายลมที่ยอดสะพานถูกหักท่อน เกิดจู่โจมคำรามลั่น

“ต่อให้เป็นเทพจริงๆ ก็ไม่ได้!”

“ปัง!”

เสียงดังสนั่นอีกครั้ง เฟอร์กัสถูกหมัดของหลี่ฝางกำราบจนปลิวออกไป กระแทกเข้ากับสะพาน สะพานเหล็กก้านเสริมแรงปูน เกิดรอยหลุมขนาดใหญ่!

ชั่วพริบตา บนสะพานเกิดโกลาหล รถติด เสียงกรีดร้องของผู้คนดังสนั่นไปทั่ว

“หลี่ฝาง!”

โทชิโอะ คามิยะคำรามเสียงดังลั่นอย่างโกรธจัด แทบจะกลบเสียงของทุกสรรพสิ่ง

“หากแกคิดที่จะลงมือตรงนี้ ฉันไม่เกรงใจแน่!”

หลี่ฝางแสยะยิ้ม ยกขาขึ้นสูง ถีบไปที่เฟอร์กัสอย่างแรง

ปัง!

เสียงคำรามในครั้งนี้ดังสนั่นกว่าสองครั้งที่แล้วเป็นไหนๆ!

สะพานถูกรอยฝีเท้าอันที่สุดแรงเกิดของหลี่ฝางจนทะลุ

ร่างทั้งร่างของเฟอร์กัสโทชิโอะ คามิยะ ก่อนที่จะแทรกลงสู่หลุมใหญ่

โทมิโอะ คามิยะหน้าเสีย จ้องมองหลุมขนาดใหญ่บนสะพาน ทำได้เพียงหันหน้ากลับอย่างไร้หนทาง

เพราะการต่อสู้ของเฟอร์กัสและหลี่ฝางได้เปลี่ยนสถานที่แล้ว

“พระเจ้า เมื่อกี้ฉันไม่ได้เกิดภาพจินตนาการหรอกใช่ไหม?”

“กำลังถ่ายหนังอยู่หรือไง?”

“แม่ฮะ มนุษย์ต่างดาวบุกโลกแล้วฮะ!”

“ช่วยด้วย……”

……

จ้องมองหลุมขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้น เหล่าคนบนสะพานต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน เกิดการกระทบกระเทือนอย่างแรง

หรือแม้แต่มีบางคนคิดว่าตนเองเกิดภาพจินตนาการ ถึงกับเข้าไปใกล้เพื่อสำรวจ กระทั่งใช้มือสัมผัสร่องรอยที่พื้น คนกลุ่มหนึ่งถึงได้เกิดบ้าคลั่งขึ้น

บางคนวิ่งหนีพลางกรีดร้อง บางคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นอัดวิดีโอ ในเวลานี้ ทุกคนต่างมีปฏิกิริยาที่แตกต่าง แสดงออกมากันให้วุ่น ช่างวิเศษเสียยิ่ง

คนมากมายต่างเป็นกังวลสองคนที่ตกลงไปในหลุม พูดให้ถูกคือ คนหนึ่งตกลงไปเอง อีกคนถูกถีบลงไป

และเมื่อทุกคนได้เห็นเงาร่างของคนบนผิวน้ำ ทุกคนรู้สึกคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง

“เขาคนนั้นยืนอยู่บนผิวน้ำใช่ไหม? นี่เขาไม่ได้กำลังเล่นมายากลอยู่ใช่ไหม!”

หลี่ฝางในตอนนี้ กำลังยืนอยู่บนผิวน้ำทะเล ก้าวเดินไปยังเฟอร์กัสที่ค่อยๆ โผล่พ้นผิวน้ำทีละก้าว

เฟอร์กัสกระอักเลือดสีแดงสดออกมา การจู่โจมที่รุนแรงของหลี่ฝางเมื่อสักครู่ ทำให้ภายในของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

“แกกล้าฆ่าฉัน ทางราชวงศ์ไม่ปล่อยแกไปแน่!” เฟอร์กัสกล่าวด้วยความโมโห

เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลี่ฝางอดหัวเราะลั่นไม่ได้

“ฮ่าๆ ถ้าฉันไม่ฆ่าแก ราชวงศ์ก็ยอมปล่อยฉันไปหรือไง?”

การข่มขู่ของเฟอร์กัส ช่างน่าขันเสียจริง

ในที่สุดเฟอร์กัสก็รู้ว่าหลี่ฝางตัดสินใจที่จะปลิดชีพเขา กระอักเลือดสีแดงสดออกมาอีกครั้ง ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เขาอุตส่าห์ได้ขึ้นเป็นปรมาจารย์กำลังภายในด้วยความยากลำบาก เข้าร่วมทีมสิบสองอัศวิน เรื่องอะไรที่เขาจะต้องตายไปตอนนี้?

ทว่าการเผชิญหน้าต่อหลี่ฝาง เขาไม่มีโอกาสใดๆ อีกแล้ว

เช่นนี้ หลี่ฝางค่อยๆ เดินเข้าไปตรงหน้าเขา บีบลำคอของเขายกขึ้น

ใบหน้าของเฟอร์กัส ค่อยๆ ดำมืดลงเรื่อยๆ

ในเวลานี้เอง ความเคลื่อนไหวบางอย่างดังขึ้นจากเหล่าผู้คนบนสะพาน

“เห้ยๆ ไอ้หมอนั่นบ้าไปแล้วหรือ กระโดดสะพานยังจะเลือนแบบอีกเหรอ? ”

“รอเดี๋ยว เหมือนว่าเขาจับผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ด้วย! ไอ้สารเลว นี่มันฆาตกรรมเห็นๆ!”

บุคคลหนึ่งสูงราวสองเมตรขึ้น ชายหนุ่มร่างสูงกำยำบุคลิกดีผู้หนึ่ง ยืนนิ่งอยู่บนราวสะพาน ในมือของเขา มีหญิงสาวสวยผู้หนึ่ง

แม้ว่าเขาจะเหยียบราวเส้นหนึ่งเอาไว้ ก็ทำให้เสียงคลื่นลมพัดผ่านอย่างแรง ร่างของชายหนุ่มเสมือนกับประติมากรรมสำริดที่ตั้งบนสะพาน ไม่ไหวติง

ทว่าหญิงสาวที่อยู่ในเงื้อมมือของเขา ช่างดูน่าสงสารภายใต้คลื่นลมสาด บวกกับรูปลักษณ์ที่งดงามของเธอ กระตุ้นชายหนุ่มทั้งหลายอยากจะปกป้องเธอ

แต่กลับไม่มีผู้ชายแม้สักคนที่กล้าเข้าใกล้ เพราะชายหนุ่มร่างสูงที่จับหญิงสาวเอาไว้ ร่างของเขาแผ่ไอที่น่าหวาดผวา ทำให้คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใกล้ได้

ชายหนุ่มที่ไว้ผมยาวประบ่า ดูมีความเหยียดหยามราวกับผู้สูงส่ง แถมยังมีจิตวิญญาณที่ไม่แยแสสรรพสิ่งของผู้นำ

เขาคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท