NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1111 เตะหมาไปตัวหนึ่ง

บทที่ 1111 เตะหมาไปตัวหนึ่ง

ในตอนนี้ สีหน้าของหยางฉงกับซูจื้อเย่นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ซูจื้อเย่มีรอยยิ้มที่กำลังจะชนะ ส่วนสีหน้าของหยางฉงนั้นกลับดูไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะเธอมองออก ถึงความประสงค์ร้ายของซูจื้อเย่

คนที่มุงดูมีบรรยากาศที่ครึกครื้นขนาดนั้น เสียงร้องที่ดังอย่างชอบใจ จะบอกว่าด้านในนั้นไม่มีคนของซูจื้อเย่ ให้ตายเธอก็ไม่เชื่อ

แต่ซูจื้อเย่ในตอนนี้ได้ยินเสียงโห่ร้องอย่างชอบใจ แถมยังคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พลางเงยหน้าขึ้นพูดขึ้นอย่างเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก “ตอบตกลงฉันเถอะ หยางฉง ฉันรับประกันว่าจะทำให้คุณกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก”

คนที่มุงดูนั้นเหมือนจะตื่นเต้นกว่าเจ้าตัว เลยร้องจนเสียบแหบแห้ง

ในตอนนั้นเอง เสียงเย็นชาของหยางฉงก็ดังขึ้น ก่อนจะทำให้ความยินดีของทุกคนหายไปหมด

“ฉันมีแฟนแล้ว ดังนั้นอย่ามาเล่นแง่กับฉันแบบนี้”

ในตอนนั้นเอง เสียงที่พูดขึ้น ทำให้บริเวณนั้นเงียบลงจนหมด

รอยยิ้มของซูจื้อเย่ ค้างอยู่บนใบหน้านิ่งไปทันที

คำพูดแบบนี้ มันทำให้บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาบริเวณนั้น หยุดนิ่ง ซูจื้อเย่ที่มีรอยยิ้มอยู่เต็มใบหน้า เองก็อึ้งไปเหมือนกัน

ถึงแม้หยางฉงจะปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาดแล้ว แต่เขาลงทุนลงแรงในการเตรียมเรื่องนี้ เลยไม่ยอมยอมแพ้ไปง่ายๆ

เขาที่เป็นถึงคาสโนวาเมื่อได้ชอบผู้หญิงคนไหน ก็ไม่เคยกลับไปมือเปล่า

ทุกสิ่งวนเวียนอยู่ในหัว จากนั้นซูจื้อเย่ก็มีสีหน้าขมขื่น ก่อนจะเล่นการแสดงต่อไป “ฉันเข้าใจ หยางฉง วันนี้ฉันโผงผางมากเกินไป คุณเลยเกรงใจที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเลยใช้ข้ออ้างนี้”

สิ่งที่เขาพูดออกไปนั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึก เลยทำให้คนรอบๆ นั้นซึ้งใจเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดาย ที่หยางฉงได้ฟังแล้วกลับรู้สึกอยากอาเจียนออกมา

ตั้งแต่ที่ซูจื้อเย่เริ่มจีบเธอนั้น ก็เคยได้ยินเรื่องของซูจื้อเย่เกี่ยวกับความ “เรื่องมากรัก” มาก่อนแล้ว

คนที่อยู่ตรงหน้านั้น แทบจะบอกได้ว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ เมื่อสืบหาดู ยังพบอีกหลายคนที่ถูกเขาหลอก จากนั้นกลับมีหญิงที่ถูกเขาทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ส่วนคนที่ท้องเพราะเขาก็มีหลายสิบคนแล้วด้วย

เรื่องที่เกี่ยวกับความมากรักแบบนี้ อีกฝ่ายไม่มีท่าทีที่อยากจะปกปิดเลย ถึงขนาดที่ว่าหลายๆ ครั้งก็พูดโอ้อวดในที่สาธารณะ แถมยังพูดเกินความเป็นจริง อย่างหน้าไม่อายอีกด้วย

หยางฉงที่รู้สึกขยะแขยงในใจ จนไม่อยากจะมองซูจื้อเย่ด้วยซ้ำ ก่อนจะเดินออกไปทันที

แต่ตอนที่เธอกำลังจะไปนั้น ก็มีบอดี้การ์ดตัวสูงใหญ่มากมายมายืนขวางเธอเอาไว้

“หมายความว่าอะไร อยากจะขู่ฉันงั้นเหรอ?” หยางฉงหรี่ตาลง ก่อนจะมองซูจื้อเย่อย่างเย็นชา

เมื่อผ่านประสบการณ์ที่ญี่ปุ่นมา ทำให้เธอเปลี่ยนเป็นคนละคนแล้ว

ซูจื้อเย่กลับแกล้งทำเป็นตะโกน “ซูลู่ หลีกไป จะทำอะไรน่ะ!”

พูดไป เขาก็พลางเดินเข้ามา

ซูลู่มีสติขึ้นมา ก่อนจะรีบถอยไปด้านหลัง ในขณะเดียวกันซูจื้อเย่ก็ยื่นมือออกมา ก่อนจะวางไปที่ไหล่ของหยางฉง

ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เขาจะให้หยางฉงออกไปแบบนี้ไม่ได้

ในตอนนี้เอง จู่ๆ ซูจื้อเย่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา จากนั้นทั้งตัวก็รู้สึกหัวขาวโพลนเหมือนมีหมอกมาบังไปหมด จากนั้นจึงกระเด็นออกไป

แน่นอนว่าหลี่ฝางเป็นคนลงมือ

เมื่อเห็นซูจื้อเย่กระเด็นไป คนแก่คนหนึ่งก็ออกมารับซูจื้อเย่เอาไว้ ก่อนจะมองหลี่ฝางด้วยดวงตาคู่ที่โหดร้าย

“หลี่ฝาง!”

หยางฉงเห็นทุกอย่างหลี่ฝาง เลยอดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ก่อนจะร้องไห้พลางกอดหลี่ฝาง

“ไม่ต้องร้องแล้วๆ วางใจเถอะ ฉันจะสั่งสอนเขาให้เอง!”

หลี่ฝางปลอบหยางฉงเบาๆ จากนั้นก็มองซูจื้อเย่ด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเป็นความมืดมน

มาทำให้ผู้หญิงของเขาตกใจกลัว รนหาที่ตายชัดๆ !

ในตอนนี้ คนที่มุงดูต่างพูดอะไรไม่ออก

เมื่อเห็นชายหญิงที่กอดกันอยู่ตรงนั้น ทุกคนต่างอ้าปากค้างเพราะทำอะไรไม่ถูก เหมือนกับเห็นภาพในจินตนาการ

“ให้ตายเถอะ!บ้าไปแล้ว นายคนนั้นไม่ใช่หัวหน้ารักษาความปลอดภัยของบริษัทพวกเราเหรอ?”

“เป็นเขาจริงๆ ด้วย!โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด?”

“ไม่ ฉันต้องมองผิดไปแน่ๆ ฉันจะดูให้ชัดอีกครั้ง……ให้ตายเถอะ!”

“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้……”

ในตอนนั้นเอง บางคนคิดว่าทุกอย่างนั้นมันพังทลายไปหมด บางคนก็คิดว่าหัวใจแตกสลาย

เจ้านายสาวที่สูงส่งคนหนึ่ง กับหัวหน้ารักษาความปลอดภัยตำแหน่งเล็กๆ พวกเขาทั้งสองมาคบกันได้อย่างไร?

เมื่อครู่ที่ซูจื้อเย่สารภาพรักกับหยางฉง ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพราะพวกเขาคิดว่าซูจื้อเย่รวย โอ้อวดมากเป็นไหนๆ ทำให้พวกเขาไม่กล้าเข้าไปแข่งขันด้วย

แต่ตอนนี้เป็นหลี่ฝาง กลับทำให้คนรอบๆ นั้นมีความคิดประหลาดขึ้นมา

ถ้าเกิดพนักงานรักษาความปลอดภัยยังคบได้ งั้นฉันก็ได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

ในตอนนั้นเอง แววตาที่กลุ่มผู้ชายมองหยางฉงออกจะแปลกๆ ไป ราวกับว่าในหัวมีแผนร้ายๆ เกิดขึ้น

ส่วนอีกฝั่ง หญิงที่มองคนที่ถูกหลี่ฝางทำร้ายจนกระเด็นไปอย่างซูจื้อเย่ ก็โกรธเป็นอย่างมาก

เวลาเพียงไม่นาน กลุ่มของผู้หญิงก็มองซูจื้อเย่เป็นชายฝัน ดังนั้นพวกเธอเลยสาดความโกรธใส่หลี่ฝางอย่างไม่ลังเล

เมื่อรู้สึกถึงแววตาที่ไม่เป็นมิตรของคนมากมาย แต่หลี่ฝางกลับไม่ได้สนใจ พลางเอาแต่ตั้งใจปลอบหยางฉง

ในตอนนั้นเองซูจื้อเย่ที่ลุกขึ้นได้อย่างยากเย็น ก็เอามือเช็ดเหงื่อที่แตกออกด้วยความเจ็บปวด พลางพูดอย่างร้ายกาจ “แกกล้ามาทำร้ายฉันงั้นเหรอ?”

“ทำร้ายคุณ ถือว่าไว้หน้าคุณแล้วนะ” หลี่ฝางพูดอย่างไม่สนใจ

“ไอ้เลว!”

ซูจื้อเย่โกรธขึ้นมา ก่อนจะตวาดด้วยแววตาโหดร้าย “คุณรีบปล่อยหยางฉงเดี๋ยวนี้นะ!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท