NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1110 คนดีไม่ขวางทาง

บทที่ 1110 คนดีไม่ขวางทาง

“บัดซบ! เกิดอะไรขึ้น!”

“ที่รัก ออกมาดูมนุษย์ต่างดาวเร็วเข้า!”

“หรือว่านี่จะเป็นซูเปอร์ไซย่าในตำนาน?”

“พวกแกได้อัดคลิปไว้ไหม? ให้ตาย ตื่นเต้นชะมัด!”

หน้าจอแทบระเบิด แต่ในเหตุการณ์จริง กลับมีแต่ความเงียบกริบ

เมื่อเห็นหลี่ฝางที่ยืนอยู่ตรงหน้าของตนเอง หยูไห่อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย น้ำเหงื่อไหลมาตามหน้าผากอย่างไม่รู้ตัว

เขาเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพียงแต่พริบตา คนที่เขาพามาด้วยก็ต่างล้มลงกองกับพื้น

ทว่าความอาฆาตที่เจือจางในร่างของหลี่ฝาง ทำให้ใจของเขาเต้นตุ้มต่อมราวกับนั่งรถไฟเหาะ

“แก แกอย่าทำอะไรนะ พ่อของฉันเป็น……”

เขาคิดที่จะใช้เส้นสายของตนเอง ที่ใช้แผนการนี้ทุกครั้งจะมักจะได้ผลเสมอเพื่อกดขี่หลี่ฝาง เพื่อให้เขาไม่กล้าแตะต้องตนเอง

ทว่าหลี่ฝางกลับส่ายหน้าอย่างผิดหวัง ก่อนที่จะถีบออกไป

ทำไมพวกลูกหลานคนรวยถึงได้อวดอ้างประโยคนี้ทุกคนเลยนะ?

หยู่ไห่ถูกหลี่ฝางถีบจนปลิวเข้าพุ่มไม้ เปื้อนโคลนทั้งร่าง บนหัวติดใบไม้หลายใบ ทั้งตัวดูน่าอนาถ

ในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่กลับไม่กล้าแม้แต่ชายตามองหลี่ฝาง

เพราะเขากลัวว่าหลี่ฝางสัมผัสได้ถึงสายตาของเขา แล้วกลับมาเอาเรื่องเขา

ฟางหยู่ถงเองก็ยังตกอยู่ในภวังค์

เมื่อเห็นบอดี้การ์ดกองเกลื่อนพื้น ฟางหยู่ถงไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าหลี่ฝางทำได้อย่างไร

จากขับไล่ชายชุดดำด้วยประโยคเดียว กระทั่งจัดการคนมากมายด้วยตัวคนเดียว คนอย่างหลี่ฝาง ในสายตาของฟางหยู่ถงนั้นช่างมหัศจรรย์

เกรงว่าแม้แต่บอดี้การ์ดพวกนี้เอง ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เมื่อเห็นเงาร่างของหลี่ฝางค่อยๆ หายลับตาไป ฟางหยู่ถงรู้สึกหัวใจว่างเปล่า มีความรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีความรู้สึกแบบนี้ได้ แต่เธอรู้ดีว่าเธอถูกชายลึกลับคนนี้ดึงดูดเข้าให้แล้ว

……

เมื่อหลี่ฝางออกจากป่า กำลังเดินย้อนกลับไปทางเดิม ก็ถึงเวลาเลิกงานจนได้

เพียงแต่เวลานี้ ใต้ตึกเรนโบว์ กรุ๊ปกลับคึกคัก เหล่าพนักงานของเรนโบว์ กรุ๊ปรวมตัวกัน เหมือนว่ามีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างนั้น

สายตาจ้องไปยังกลุ่มผู้คน ก็ได้พบกับชายแต่งตัวเป็นระเบียบเรียบร้อยคนหนึ่ง ในมือถือกุหลาบแดงเอาไว้ อยู่บนรถสปอร์ตสุดเท่สีแดง กำลังจ้องมองไปในทิศทางของตึกใหญ่

ตรงหน้าของเขา มีดอกไม้สดเรียงกันเป็นรูปหัวใจอยู่ที่พื้น

ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา บวกกับชุดสูทที่เข้ากันได้ดี ที่บอกได้ว่าแต่งกายเรียบหรูดูดี บวกกับนาฬิกาที่เผยให้เห็นอย่างไม่ได้ตั้งใจคู่กับรถสุดหรูนั่น ทำให้หญิงสาวมากมายต่างหลงใหลให้ปลื้มไปตามๆ กัน

“ว้าว กุหลาบเยอะขนาดนี้ จะขอแต่งงานงั้นเหรอ? ”

“หากขอฉันแต่งงานละก็ ต่อให้ตายก็ยอม”

“แกฝันไปเถอะ ใหญ่โตขนาดนี้ ต้องเป็นลูกหลานเศรษฐีร่ำรวยแน่!”

ชายหนุ่มได้ยินบทสนทนาด้วยความอิจฉาไม่ขาดสาย ในใจอดได้ใจไม่ได้ เขาความมั่นใจว่าคราวนี้จะต้องสำเร็จแน่

ไม่นาน คนที่เขารอก็ปรากฏตัวขึ้น

หยางฉงเพิ่งเดินออกจากตึก ก็ต้องตกใจกับฝูงชนล้อมรอบ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอขึ้นหน้าไปดูด้วยความสงสัย แต่ก็ต้องตัดสินใจที่จะกลับหลังหันในทันที

ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นมีชื่อว่าซูจื้อเย่ เป็นคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ แต่ก่อนเก่าเขาเคยจีบเธอแต่ถูกเธอปฏิเสธ แต่กลับตามตื๊อเธอไม่เลิก ทำให้เธอเบื่อหน่าย

ยังไงซะอำนาจของตระกูลซู เมื่อเทียบกับตระกูลหยางแล้วเหนือกว่าหลายขุม

หลังจากนั้นซูจื้อเย่เห็นว่าไปเรียนต่อต่างประเทศ ถึงได้ไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเธออยู่พักหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เขากลับจะกลับมา

ยิ่งไปกว่านั้น เขาถึงกับมาก่อความวุ่นวายถึงบริษัทเธอ ดูก็รู้แล้วว่ามาเพราะเธอ

เมื่อเห็นว่าหยางฉงมาแล้ว ผู้คนบริเวณนั้นต่างหลีกทางให้กับเธอ ทุกคนต่างจับจ้องเธอด้วยสายตาอิจฉาริษยาหยางฉง เหลือก็แต่ไม่ได้ผลักเขาออก หรือแทนที่เธอ

ยังไงซะบรรยากาศที่โรแมนติกขนาดนี้ หากเป็นพวกเขา ก็คงจะดีใจจนเป็นบ้าแน่

แต่หยางฉงกลับสีหน้าเย็นชา เดินเข้าไปกล่าวอย่างนิ่งเฉย “ซูจื้อเย่ นายหมายความว่ายังไง”

ซูจื้อเย่ได้ยินอย่างนั้น จึงเริ่มการแสดงของเขาอย่างไม่รีบไม่ร้อน

เพราะงั้นเขาจึงเดินขึ้นหน้าด้วยความจริงใจ จ้องมองหยางฉงด้วยความรักพร้อมกล่าว “หยางฉง บางทีคุณอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวผมในอดีต แต่นั่นเพราะเรายังไม่รู้จักกันมากพอ เพราะงั้น ให้โอกาสฉันอีกรอบนะ ได้ไหม?”

เขากล่าว พร้อมกับยื่นช่อกุหลาบในมือออกไป ใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มที่ทำให้หญิงสาวนับไม่ถ้วนต่างหลงใหล ค่อยๆ กล่าวประโยคที่สำคัญอย่างช้าๆ

“ตอบตกลงผม เป็นแฟนกับผมนะ?”

เหล่าคนรอบข้างที่เห็นสถานการณ์ ต่างหวีดร้องด้วยความยินดีกันถ้วนหน้า

“ตกลง!”

“แต่งงานกับเขา!”

“ประธานหยาง ผู้ชายที่ดีขนาดนี้อย่าได้พลาดไปนะ!”

เหล่าคนที่ดูเหตุการณ์ไม่คิดอะไรไปมากกว่านั้น เพียงแค่มาดูเหตุการณ์ และมากรีดร้องยินดี เสียดายกับสิ่งที่ตนคิดว่าโรแมนติกเท่านั้น

และในตอนนี้เอง หลี่ฝางที่เดินผ่านมาจากเดินเล่น อันที่จริงได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในสายตา

ไฟโกรธปะทะ หลี่ฝางคิดที่จะมุ่งเข้าไปอัดชายหนุ่มสักที

แต่เขากลับไม่ทำแบบนั้น เพราะเขาอยากรู้ว่าหยางฉงจะเลือกอย่างไร

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท