NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1096 ได้โปรดฆ่าเขา

บทที่ 1096 ได้โปรดฆ่าเขา

เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่หลี่ฝางและหยางฉงเข้ามาในบ้านของมานากะ

เวลากว่าครึ่งเดือนนี้ ทั้งสองคนล้วนกินและอาศัยอยู่ในห้องของมานากะ โดยมีมานากะเป็นคนนำอาหารเข้ามาให้

นอกจากนี้ มานากะยังมักจะแอบสืบข่าวการเคลื่อนไหวของแก๊งยามาโตะ และบอกหลี่ฝางเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกในปัจจุบัน

การกระทำดังกล่าว ทำให้หลี่ฝางยิ่งสับสนงุนงงมากยิ่งขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าเธอทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันแน่

แต่เขากลับไม่ได้เอ่ยถาม นั่นเพราะความแข็งแกร่งของเขายังไม่ฟื้นคืนกลับมา เขาวางแผนที่จะถามมานากะให้ชัดเจนหลังจากที่พลังของเขาฟื้นตัวแล้ว

อีกทั้งหลังจากผ่านไปหลายวัน หลี่ฝางก็พบว่า นิสัยของมานากะนั้นเก็บตัวมากกว่าที่เขาคิด อย่างน้อยๆระยะเวลาหลายวัน ที่ผ่านมามานากะที่อยู่ในบ้านไม่แม้แต่กระทั่งจะเอ่ยพูดคุยกับใคร ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจขึ้นมาแล้ว

คนในตระกูลนี้ต่อต้านเธอ? กลัวเธอ? หรือว่าเกลียดเธอ?

หลังจากรู้จักกันมากว่าครึ่งเดือน ความสัมพันธ์ระหว่างมานากะกับหยางฉงกลับยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ

ยกตัวอย่างเช่นในตอนนี้ ทั้งสองกำลังรับประทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันอย่างมีความสุข มองดูแล้วกลมกลืนกันเป็นพิเศษ

หลี่ฝางไม่เข้าใจอย่างยิ่งว่า ทำไมมานากะถึงเป็นแบบนี้

สถานการณ์ของเธอแตกต่างจากสถานการณ์ของริโกะ เธอเป็นลูกคนเดียวในตระกูล พ่อแม่ล้วนยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ว่าจะพ่อหรือแม่ของเธอล้วนมีท่าทีที่เย็นชาต่อเธอ

อีกทั้งเธอเองก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลนี้ ราวกับว่าในบ้านเป็นเพียงที่สำหรับกินนอนพักผ่อนเท่านั้น

หลังทานอาหารเสร็จ หลี่ฝางก็เงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า “มานากะ อาการบาดเจ็บของฉันใกล้จะหายแล้ว บางทีฉันอาจจะสมควรบอกลาเธอแล้ว”

“จริงหรือคะ? ยินดีด้วย!” มานากะเอ่ยด้วยความประหลาดใจ จากนั้น อารมณ์ของเธอก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“พวกคุณกำลังจะหาทางออกจากญี่ปุ่นใช่ไหมคะ?”

“หลังจากทำเรื่องที่ฉันอยากทำเสร็จ พวกเราก็จะจากไป” หลี่ฝางเอ่ย “แต่ว่าระหว่างที่ยังอยู่ที่นี่ ฉันสามารถช่วยเธอได้เรื่องหนึ่ง”

หลี่ฝางดูออกมานานแล้วว่าการที่มานากะยอมเสี่ยงครั้งใหญ่เพื่อช่วยพวกเขาทั้งสอง แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่นิสัยการเป็นพระแม่มารีมาเกิดอะไร แต่เป็นเพราะเธอมีเรื่องอยากร้องขอ

และเรื่องนี้ ก็จะต้องเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับมานากะ จนกระทั่งเธออาจจะไม่สามารถทำมันได้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเธอจึงฝากความหวังเอาไว้กับหลี่ฝาง

ส่วนหลี่ฝาง เขาจำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณนี้

แต่หลังจากที่มานากะเอ่ยขึ้น กลับทำให้หลี่ฝางตกตะลึงตาค้างไป

“เธออยากให้นางาโตะตายงั้นเหรอ?”

หยางฉงที่อยู่ข้างๆเองก็เคยได้ยินหลี่ฝางเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น เธอรู้ว่าใครคือนางาโตะและอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “นางาโตะ….เขาไม่ใช่ลุงใหญ่ของเธอหรือ?”

ท่าทางของทั้งสองดูประหลาดใจ ใขณะที่มานากะกลับดูสงบอย่างยิ่ง นั่นเพราะเกรงว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ยินคำขอร้องของเธอก็คงต้องประหลาดใจทั้งนั้น

นางาโตะคือลุงใหญ่ของเธอและเป็นผู้นำตระกูลของพวกเธอ เป็นประหนึ่งเสาหลักของตระกูล แล้วทำไมมานากะถึงอยากฆ่าเขา?

คำพูดต่อไปของ มานากะ ทำให้ หลี่ฝางประหลาดใจอีกครั้ง

“เขาเป็นลุงของฉันแค่ในนาม แต่ที่จริงแล้ว เขาเป็นพ่อของฉัน เขาเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดฉันโดยสายเลือด”

ประโยคดังกล่าวทำให้หลี่ฝางและหยางฉงมองหน้ากัน จากนั้นก็ตกตะลึงไปจนเหม่อไปอยู่เป็นเวลานาน

หลี่ฝางถามอย่างหยั่งเชิง “เธอหมายถึง…”

แต่ต่อมา คำพูดของมานากะทำให้หลี่ฝางและหยางฉงเกิดความรู้สึกน่าขันขึ้นมา

“แม่ของฉันสมัยยังสาวเธอสวยมาก สวยมากๆ ทุกคนในบ้านล้วนบอกว่า ฉันสืบทอดความสวยนี้มาจากแม่เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น”

“ดังนั้น หลังจากที่แม่ของฉันแต่งงานกับพ่อของฉัน ในฐานะเจ้าบ้านตระกูล เขากลับไม่ยอมแพ้ และมีความปรารถนาที่ไม่เหมาะสมต่อแม่ของฉัน ในที่สุด ความปรารถนานี้ก็กลายเป็นการกระทำ…”

“ต่อมาภายใต้คำขู่และอ้อนวอนของเขา แม่ที่อ่อนแอจึงเลือกที่จะปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ และให้กำเนิดฉัน ในตอนแรก พ่อของฉันคิดว่าฉันเป็นลูกสาวของเขาและดีกับฉันมากอย่างยิ่ง แต่ภายหลังเกิดการตรวจสอบโดยบังเอิญขึ้นมาครั้งหนึ่ง และพ่อของฉันก็พบว่า ตนเองที่แท้แล้วไม่สามารถมีลูกได้…”

“ความโกรธแค้นของพ่อ ไม่กล้าทำอะไรกับพี่ชายของเขา ดังนั้นเขาจึงได้แต่นำความโกรธนี้มาลงกับเขาทำได้แค่อารมณ์เสียกับฉันและแม่ ต่อมา ด้วยการแทรกแซงของนางาโตะ ผู้ชายขี้ขลาดคนนั้นจึงไม่กล้าทำอะไรกับฉันและแม่อีก แต่ว่าครอบครัวนี้ ก็กลับมีรูปแบบที่พิกลพิการแบบนี้มาโดยตลอด มองดูแล้วเหมือนครอบครัวหนึ่ง แต่อันที่จริงกลับเต็มไปด้วยความเกลียดชังซึ่งกันและกัน…”

น้ำเสียงของมานากะสงบอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเย็นชาอย่างมาก ราวกับว่าที่เธอเอ่ยถึงเป็นแค่เรื่องของคนอื่น แต่นี่กลับทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกหนาวสั่นเข้ากระดูก

“เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร…” สำหรับเรื่องแบบนี้ หยางฉงแค่ฟังก็รู้สึกไม่สบายใจแล้ว

แต่ปฏิกิริยาของหลี่ฝางกลับราบเรียบอย่างยิ่ง

สำหรับเขาแล้ว นางาโตะถูกหมายหัวว่าต้องตายเอาไว้ตั้งนานแล้ว คำพูดของมานากะ ก็แค่ทำให้ลำดับการฆ่านางาโตะนั้นเลื่อนขึ้นมาข้างหน้าอีกหน่อยก็เท่านั้น

“ฉันจะให้เธอได้ยินข่าวการตายของนางาโตะ”

……

ระหว่างทางจากโรงเรียน ริโกะรู้สึกฟุ้งซ่านเล็กน้อย

นับตั้งแต่งานเลี้ยงน้ำชาในวันนั้น จิตใจของเธอก็ตกอยู่ในภวังค์แบบนี้มาตลอด ในสมองของเธอมีแต่ภาพของหลี่ฝาง

ผู้ชายคนนั้น ทำลายชีวิตที่มืดมนไร้แสงสว่างตลอด 18 ปีลง ความสดใสราวกับสายรุ้งในวันนั้น ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำของเธออย่างไม่ลืมเลือน

อีกทั้งยังมีเงาร่างสูงใหญ่ที่ตกอยู่ในใจของเธอตลอดไป

บางที ชั่วชีวิตนี้เธออาจจะไม่มีวันลืมคนผู้นี้ที่ตนปรากฏตัวขึ้นในชีวิตเขาแค่เพียงหนึ่งวันสั้น ๆได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท