เพียงไม่นาน ก็เห็นเงานั้นลอยลงมาด้านล่าง มาอยู่ต่อหน้าทุกคน
“ปรมาจารย์กำลังภายใน!” เย่นหย่งเฟิงร้องด้วยความตกใจ
แรงกดดันที่เป็นเอกลักษณ์นี้ คนที่ไม่ใช่ปรมาจารย์กำลังภายในนั้นไม่มีทางมี และไม่มีทางสร้างขึ้นมาแบบปลอมๆ ได้
คนตระกูลหยางในตอนนี้ต่างงงเป็นไก่ตาแตก พลางมองปรมาจารย์ไท่ซางอย่างเยือกเย็น
หยางเทียนลี่รีบเข้าไปต้อนรับ ก่อนจะพูดด้วยความเคารพ “ปรมาจารย์ไท่ซาง เหนื่อยมากแล้วล่ะ”
ปรมาจารย์ไท่ซางพึมพำเสียงเย็นชาเล็กน้อย พลังบนเรือนร่างนั้นมีความกดดันเป็นอย่างมาก ราวกับว่าไม่แยแสหยางเทียนลี่เลย
แต่ท่าทีที่หยางเทียนลี่ทำกับปรมาจารย์ไท่ซางนั้นกลับมีนัยบางอย่าง เพราะเขาคิดว่านี่เป็นท่าทีที่ปรมาจารย์กำลังภายในควรจะมี
ไม่อย่างนั้น ก็ให้เย่นหย่งเฟิงมาทำท่าทีแบบนี้บ้างสิ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ แววตาที่หยางเทียนลี่มองเย่นหย่งเฟิงก็มีความสูงส่งขึ้นมา
แดนสุดกำลังภายนอกคนหนึ่ง มาอยู่ต่อหน้าปรมาจารย์กำลังภายใน มันเทียบกันไม่ได้เลย
“รีบทำเร็ว อย่าทำให้ฉันเสียเวลานักเลย” ปรมาจารย์ไท่ซางพูดอย่างไม่ความอดทน
“ได้เลย ปรมาจารย์ไท่ซาง” หยางเทียนลี่ไม่กล้าขัดคำของปรมาจารย์ไท่ซาง ก่อนจะรีบก้มหน้าตอบด้วยความเคารพ
แต่ในตอนนั้นสีหน้าของหยางจื้อเฉิงกลับดูไม่ได้ พลางถามเสียงทุ้ม “นี่คือปรมาจารย์กำลังภายในเหรอ?ของปลอมหรือเปล่า?”
“ห๊ะ?คุณกำลังพูดอะไรอยู่เหรอ?” หยางจื้อเฉิงเพิ่งจะพูดจบ เย่นหย่งเฟิงก็รู้ว่าจะงานเข้าแล้ว ยังไม่ทันให้เขาพูดอะไร ปรมาจารย์ไท่ซางทางนั้นก็เปิดปากพูดออกมาด้วยความโกรธเบาๆ เสียก่อน
จากนั้น พลังของปรมาจารย์ไท่ซางก็เริ่มกระจายออกมา ก่อนจะม้วนลมร้อนขึ้นมา มันโอบล้อมหยางจื้อเฉิงกับเย่นหย่งเฟิงเอาไว้
บรรยากาศนั้นมันทิ่มแทงประสาทของคนเหล่านั้น เหมือนกับเป็นไฟที่แผดเผาขึ้นมา ทำให้คนรู้สึกร้อนเป็นอย่างมาก ผิวแห้งผาก ก่อนจะร้อนจนเหงื่อแตกออกมา
“ปรมาจารย์ไท่ซาง ข้าน้อยรู้น้อยเกินไป เลยปีนเกลียวปรมาจารย์ไท่ซาง ขอให้ปรมาจารย์ยกโทษให้ด้วย!” เย่นหย่งเฟิงรีบขอร้อง
“หึ!” ปรมาจารย์ไท่ซางพึมพำเสียงเย็นชา จากนั้นก็หยุดปล่อยพลังนั้นออกมา หยางจื้อเฉิงกับเย่นหย่งเฟิงนั้นเหมือนเพิ่งจะออกมาจากซาวน่า มันเหงื่อแตกไปทั้งตัว พลางหายใจหอบ
จากนั้น คนของตระกูลหยางก็ไม่กล้าไม่เคารพปรมาจารย์ไท่ซางอีกเลย
แต่แววตาของปรมาจารย์ไท่ซาง กลับกวาดตามองคนของตระกูลหยางสักพัก ก่อนจะมองไปที่สาวสวย อย่างไม่ห่างสายตา
“โอ้ สาวคนนั้นไม่เลวเลยนะ ฉันอยากได้!” ปรมาจารย์ไท่ซางหัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะมายืนต่อหน้าหญิงสาว แล้วเอามือไปจับไหล่ของสาวคนนี้
“หยุดนะ!” หยางจื้อเฉิงตะโกนออกมา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความกังวล หญิงสาวคนนี้คือลูกสาวของเขาชื่อหยางยี่เฉียว
แต่เมื่อเขากำลังจะเปิดปากพูด ก็รู้สึกว่ามีแรงตีปะทะเข้ามา จนล้มลงบนพื้น กระอักเลือด จากนั้นก็ลุกไม่ขึ้นเสียที
“พี่สาม คุณไม่สนใจหลานของคุณเลยงั้นเหรอ!” หยางจื้อเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงด่าหยางเทียนลี่
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของหยางเทียนลี่กลับดูไม่ได้ขึ้นมา ในใจก็เต็มไปด้วยความลังเล
ถึงแม้หยางยี่เฉียวจะเป็นหลานสาวของเขา แต่นั่นเป็นปรมาจารย์กำลังภายในนะ!แถมปรมาจารย์ไท่ซางคนนี้ก็มีนิสัยแปลกๆ จะให้เขาไปโน้มน้าวอย่างไร?
ในสถานการณ์แบบนั้น เขาอยากใช้ปรมาจารย์ไท่ซางในการแย่งตำแหน่งเจ้าบ้าน แถมยังใช้ชื่อเสียงของตระกูลหยางด้วย แค่หลานคนเดียว มันจะอะไรนักหนา
“เหอะ ยี่เฉียวถูกปรมาจารย์ไท่ซางชอบเข้า ถือเป็นโชคดีของเธอนะ!” หยางเทียนลี่พูดเสียงเย็นชา “จะว่าไป ตอนแรกตระกูลให้เสี่ยวฉงไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ก็เป็นการตัดสินใจของพี่ใหญ่ไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อพูดออกไป ทำให้หยางจื้อเฉิงอึ้งอยู่กับที่ ภรรยาของเขานั้นร้องไห้ไปพลางด่าไป แต่ไม่กล้าด่าปรมาจารย์ไท่ซาง เลยชี้ไปที่หยางเทียนลี่พลางด่าไม่หยุด
ภรรยาของหยางเทียนลี่เองก็ไม่ทำแล้ว พลางคิดว่าตอนนี้มีปรมาจารย์กำลังภายในช่วยอยู่ เลยไม่กลัวอะไรมาก เลยด่าภรรยาของหยางจื้อเฉิงไปเต็มๆ ในตอนนั้นเอง หญิงทั้งสองก็ด่ากันอย่างเมามัน
ภายในห้อง เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะกันหยางฉงเลยเดินเข้ามา พลางถาม “พวกคุณทะเลาะอะไรกัน!”
เมื่อได้ยินเสียงของหยางฉง ปรมาจารย์ไท่ซางก็เงยหน้าขึ้นทันที เมื่อเห็นใบหน้าของหยางฉง ดวงตาทั้งสองก็เปล่งประกาย
“ฮ่าๆ นี่มันของดีนี่หน่า ฉันเอาหมดเลยนะ!”
เมื่อพูดออกไป ปรมาจารย์ไท่ซางก็มาปรากฏตัวตรงหน้าของหยางฉง จากนั้นก็จ้องด้วยความตื่นเต้น แล้วยื่นมือมาจับทางหยางฉง
ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางเองก็กำลังจะเปิดประตู จากนั้นก็เห็นวิวด้านนอก
ทันใดนั้นเอง เงาของหลี่ฝางนั้นเปล่าประกาย พลางมีแสงที่เร็วกว่าปรมาจารย์ไท่ซางมาปรากฏตัวต่หน้าหยางฉง แล้วบังหยางฉงเอาไว้ด้วยหลัง
ปรมาจารย์ไท่ซางที่มาอยู่ตรงหน้าโดยรวดเร็วนั้น เมื่อเห็นใบหน้าของหลี่ฝางที่เต็มไปด้วยความอาฆาตเยือกเย็น ก็ตัวแข็งทื่อไป
ใบหน้าที่คุ้นเคยเป็นไหนๆ ทำให้ใบหน้าที่ตื่นเต้นของไท่ซางนั้นแข็งทื่อไป ทั้งเนื้อทั้งตัวก็สั่นเทาไปหมด
ใบหน้านั้น เขาจะไม่คุ้นเคยได้อย่างไร
เขามาที่เมืองจินซานเพื่ออะไรกันแน่ ความคิดนี้มันกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
หลังจากที่มาถึงเมืองจินซาน ก็ราบรื่น และมีความสุขตลอด มันทำให้เขาค่อยๆ ลุ่มหลง และหลงใหลหัวปักหัวปำเลยล่ะ
แต่ตอนนี้ ความกลัวความตายที่ใกล้เข้ามานั้น มันก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง
“พี่……พี่ใหญ่!”
เมื่อถูกหลี่ฝางแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตจ้อง ทำให้ไท่ซางคุกเข่าลง โดยไม่คิดเลย
“พี่ใหญ่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าอีกแล้ว ปล่อยฉันไปก่อนเถอะพี่ใหญ่!”