NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1119 ปัญหาด้านความรู้สึก

บทที่ 1119 ปัญหาด้านความรู้สึก

เมื่อตัวตนของหลี่ฝางปรากฏขึ้น ก็กดตระกูลหยางที่ไม่ยอมก้มหัวให้ไปหมด ในขณะที่ทำให้หยางฉงได้เป็นเจ้าบ้านของตระกูลหยางอย่างง่ายดายนั้น ก็ทำให้ตระกูลหยางมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่

ชื่อเสียงของปรมาจารย์กำลังภายใน เลยทลายอำนาจของพวกที่พยายามจะสอดแนมตระกูลหยาง แถมยังทำให้อำนาจของตระกูลหยางเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง

อย่างเช่นตระกูลหยางที่มีพี่ใหญ่อย่างหยางจื้อเฉิง เพียงเวลาสั้นๆ ไม่กี่วัน ก็เลื่อนจากชั้นระดับสามขึ้นมาเป็นระดับสอง พลางมีคนเข้ามาเลียแข้งขามากมาย

ส่วนธุรกิจของตระกูลหยางนั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ การจองนั้นก็มากมายเป็นอย่างมาก ทำให้คนของตระกูลหยางนั้นตาแทบลาย

ตระกูลหยางทั้งตระกูลนั้น ไม่มีท่าทีไม่แยแสหลี่ฝางอีกเลยแม้แต่น้อย

แน่นอน ว่าหลังจากที่รู้ตัวตนของหลี่ฝางแล้ว ถึงตระกูลหยางจะมีความกล้าอีกมากมายแค่ไหน ก็ไม่กล้าทำท่าทีไม่แยแสหลี่ฝางอีก

……

ตอนกลางวันแสกๆ อากาศร้อนระอุ แสงสาดส่องกระทบตา ไท่ซางนั้นบ่นด้วยความไม่พอใจ “นี่มันที่ไหนกัน ทำไมถึงได้ร้อนขนาดนี้ พี่ใหญ่คุณว่าทำไมเราไม่อยู่บ้าน ทำไมต้องออกมาข้างนอกด้วยล่ะ แอร์ไม่เย็นหรือแตงโมไม่อร่อยกันนะ……”

หลี่ฝางที่เดินอยู่ข้างหน้า อดไม่ได้ที่จะปวดหัวขึ้นมา

ทำไมไท่ซางขี้บ่นขนาดนี้นะ!

แน่นอน ว่าก่อนที่หลี่ฝางจะไม่เหลือความทรงจำนั้นก็ปวดหัวกับไท่ซาง แต่นิสัยนี้ของไท่ซางนั้น มันแก้ไม่ได้เลย

อันที่จริงอากาศแบบนี้มันร้อนสำหรับคนธรรมดามาก แต่สำหรับปรมาจารย์กำลังภายในนั้นมันไม่เท่าไหร่

เพีงแค่ช่วงนี้ไท่ซางถูกหลี่ฝางจับตามอง เลยไม่ได้มีโอกาสออกไปเที่ยวเสเพล ในใจเลยร้อนรุ่มไม่น้อย

“หุบปาก!” หลี่ฝางจ้องไท่ซางอย่างเย็นชา ไท่ซางนั้นชอบทำอะไรบ้าๆ ลงไป หลี่ฝางไม่กล้าให้เขาออกไปเที่ยวเล่นคนเดียว ถ้าเขาทำเรื่องบ้าๆ ลงไป ในฐานะที่ตัวเองเป็นพี่ใหญ่จะต้องแย่ไปด้วยแน่ๆ

“ครับ พี่ใหญ่” ไท่ซางตอบอย่างไม่มีชีวิตชีวา จู่ๆ ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาเลยเป็นประกาย ทั้งตัวก็เกิดมีชีวิตชีวาขึ้นมา ก่อนจะยิ้มแฉ่งพลางพูดกับหลี่ฝาง “พี่ใหญ่ เรื่องของคุณกับพี่สะใภ้ใหม่ ตอนนี้พี่สะใภ้ใหญ่ยังๆ ม่รู้ แต่ฉันว่าคงจะปิดบังเอาไว้ได้ไม่นาน พี่ใหญ่คิดดีหรือยังว่าจะแก้ไขอย่างไร?”

“พี่สะใภ้ให่มพี่สะใภ้ใหญ่อะไร?” หลี่ฝางมองไท่ซาง อย่างประหลาดใจ

“ก็พี่สะใภ้คนก่อน ฉิน……เอ่อ แฮ่มๆ ฉันพูดมากไปเอง ไม่พูดแล้วๆ” ไท่ซางพูดๆ ไปก็พบว่าสีหน้าของหลี่ฝางดูไม่ค่อยดีนัก เลยรีบเปลี่ยนเรื่องพูด

“ฉิน……ฉินวี่เฟยงั้นเหรอ?” ชื่อที่ทั้งคุ้นและแปลกประหลาดนั้นมันเกิดขึ้นในใจของหลี่ฝาง พลางรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

ความรู้สึกนี้มันยากที่จะพูดออกไปมากที่สุด ก่อนหน้านี้หลี่ฝางชอบฉินวี่เฟย แต่หลี่ฝางในตอนนี้จำอะไรแต่ก่อนไม่ได้เลย เขาชอบหยางฉงไป นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้

สำหรับหลี่ฝางในตอนนี้ ฉินวี่เฟยนั้นเป็นเพียงคนแปลกหน้า ตัวเองนั้นจำลักษณะของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้หยางฉงเป็นคนที่เขารักที่สุดแล้วล่ะ

แต่สำหรับฉินวี่เฟย เธอเองก็น่าจะรักหลี่ฝางมาตลอด หลี่ฝางไปรักคนอื่นๆ แล้ว มันทำให้เธอเจ็บปวดไม่น้อยเลย

อันที่จริงก่อนหน้านี้หลี่ฝางเองแต่ปกปิดปัญหานี้มาตลอด ตอนนี้ไท่ซางเปิดเผยเรื่องนี้ขึ้นมากะทันหัน มันทำให้หลี่ฝางไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไร

ในตอนนี้ ทั้งสองคนมาอยู่ตรงหน้าห้างแห่งหนึ่ง หลังจากที่หลี่ฝางคิดอะไรไปเรื่อยอยู่นาน ก็ก้าวเท้าเดินเข้าไป

“เข้าไปเดินเล่นกัน!”

ใช้ข้ออ้างนี้ เขาเลือกที่จะปกปิดปัญหาเรื่องความรู้สึกที่น่าปวดหัวนี้

ไท่ซางดวงตาเปล่งประกายออกมา ห้างแห่งนี้มีแต่คนวัยหนุ่มสาว ในตอนนั้น ไท่ซางก็เดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้น

“พัฒนาแล้วล่ะ มีสาวสวยมากมาย!”

แววตาของไท่ซาง จ้องสาวสวยที่เดินผ่านไป ก่อนจะส่งจูบบ้างเล็กน้อย บวกกับรอยยิ้มกระชากใจของเขา ที่มีมากมาย ทำให้คนเหล่านั้นรีบออกห่าง

หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะกุมขมับ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้จะไม่มาแล้ว นายคนนี้นี่ทำให้ขายขี้หน้าไปสามบ้านแปดบ้าน

“พี่ใหญ่ดูเร็ว สาวสวยสุดยอดเลยล่ะ!”

ในตอนนี้เอง ไท่ซางก็ตะโกนออกมาทันที

เขาจะโกนออกมาเสียงดังอย่างเก็บเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะกลบเสียงของทั้งชั้นเอาไว้ คนทั้งหมดนั้นต่างมองมาที่ไท่ซาง โดนคิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่หน้าไม่อายขนาดนี้

ส่วนหญิงที่ถูกไท่ซางชี้ไปนั้นก็รู้สึกได้ สิ่งที่น่าแปลกนั้น คือเธอไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจออกมา แต่กลับยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาหา

“เธอ เธอเดินเข้ามาแล้ว!” ไท่ซางพูดเสียงสั่นด้วยความตื่นตาตื่นใจ “เธอรักฉันเข้าแล้ว ให้ตายเถอะ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันเลยนะ……”

จู่ๆ ไท่ซางก็พูดกับหลี่ฝาง “พี่ใหญ่ คุณอย่ามาขวางนะ”

“เหอะๆ ……” หลี่ฝางยิ้มด้วยใบหน้าขมขื่น แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกไป

“พี่ใหญ่ คุณอย่าอิจฉาฉันนะ” ไท่ซางมองหลี่ฝางด้วยความสงสัย แต่ในตอนนี้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่มีเวลาจะพูดอะไรกับหลี่ฝางมากแล้ว บนใบหน้าเลยมีรอยยิ้มกระชากใจ พลางอ้าแขนต้อนรับหญิงคนนั้น

“สาวสวย ฉัน……”

แต่เมื่อหญิงคนนี้เห็นไท่ซาง ก็รีบหลบ จากนั้นไท่ซางเลยหันไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง ก็เห็นว่าหญิงคนนั้นยืนอยู่ด้านหน้าของหลี่ฝางด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ในตอนนั้นเอง ไท่ซางแทบคลั่งไป……

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท