NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1141 หลิวฮุยมาเยือนอีกครั้ง

บทที่ 1141 หลิวฮุยมาเยือนอีกครั้ง

ช่วงเวลาที่เงียบสงัดนี้เอง ใบหูของหลี่ฝางขยับกะทันหัน ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากโถงทางเดินไม่ไกล

หลี่ฝางแหงนหน้าขึ้นมอง ก็ได้พบว่าคนที่มาเยือนนั้นคือหลิวฮุย

“ทำไมถึงเป็นแกไปได้?”

หลี่ฝางกล่าวถามอย่างประหลาดใจ

“ดึกดื่นขนาดนี้ทำไมมาเดินเล่นที่โรงพยาบาลได้ อย่าบอกนะว่าแกละเมอมา?” หลี่ฝางเย้ยหยัน

หลิวฮุยจับจ้องหลี่ฝางอย่างไม่พอใจ

เขาอยากจะแจ้นมาที่โรงพยาบาลในเวลาดึกดื่นแบบนี้เหรอ?

หากไม่ใช่เพราะหลี่ฝาง ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนเตียงที่อบอุ่น ไม่แน่อาจจะได้โอบสาวงามสักคนก็ได้!

อดพึมพำในใจอย่างยากลำบาก “เราสู้เขาไม่ได้ เราสู้เขาไม่ได้” เพื่อระงับความวู่วามที่อยากจะอัดหลี่ฝางสักหมัด หลิวฮุยกล่าว “ได้ข่าวว่านายท่านหยางผ่าตัด ฉันก็เลยมาดูสักหน่อย”

“แกยังรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?” หลี่ฝางทำสีหน้าตกใจ

หลิวฮุยสีหน้ามืดมน

เขาเป็นถึงผู้ดูแลของ ต้าเซี่ยหลงเช่ว หากเรื่องแค่นี้ไม่รู้ ก็แย่สิ?

เมื่อคิดอย่างนั้น หลิวฮุยกล่าวอย่างเด็ดขาด “ท่านผู้อาวุโสให้ผมมาโดยเฉพาะ พวกเขาเป็นเพื่อนในสนามรบมาก่อน”

“งั้นเหรอ? แค่เรื่องนี้งั้นเหรอ?” หลี่ฝางจ้องมองหลิวฮุย

เขาไม่เชื่อว่าท่านผู้อาวุโสจะให้เขามาตั้งไกลเพื่อมาดูนายท่านหยางเท่านั้น หาเพราะเรื่องนี้ ให้ใครมาก็ได้ ทำไมจะต้องให้หลิวฮุยที่งานยุ่งตลอดเวลามาด้วยตนเอง?

คราวนี้หลิวฮุยไม่สามารถแสร้งต่อไปได้อีก และเบื่อที่จะวกไปวนมา กล่าว “ไม่ใช่เพราะแก เอกสารที่เอากลับมาจากที่ญี่ปุ่นเมื่อคราวก่อน ตอนนี้ยังอยู่ที่แกใช่ไหม?”

“อ๋อ!” หลี่ฝางเข้าใจเรื่องราวขึ้นมา หัวเราะพร้อมกล่าวอย่างประหม่า “ฮ่าๆ ต้องขออภัยด้วย หลังจากที่กลับมาจากญี่ปุ่นผมยุ่งมากเลย ลืมเรื่องนี้ซะสนิท ถ้าอย่างนั้น แกมาก็เพื่อเอกสารนี้โดยเฉพาะ?”

“……ก็ไม่ใช่เรื่องนี้ซะทีเดียวหรอก” หลิวฮุยลังเล ก่อนกล่าว “ทางด้านปีศาจซากปรักหักพังช่วงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง ท่านผู้อาวุโสหวังว่าแกจะไปดูสักหน่อย”

“ปีศาจซากปรักหักพัง?” หลี่ฝางเกิดความสนใจขึ้นมา

“ใช่แล้ว” หลิวฮุยพยักหน้า กล่าว “หลังครั้งก่อนที่แกไปที่ปีศาจซากปรักหักพัง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นไปอีก ตอนนี้ไม่มีความสามารถระดับกำลังภายใน เข้าไปก็มีแต่แหลกสลาย เราไม่กล้าให้เหล่านักรบเข้าใกล้ เพราะงั้นถึงได้มาหานายเพื่อตรวจสอบสักหน่อย”

หลี่ฝางหยักหน้า รู้ว่าเรื่องนี้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้

“โอเค แต่ต้องรออีกสองวัน รออำนาจตระกูลหยางคงที่อีกหน่อย ผมถึงจะไปได้”

ไม่ว่าการผ่าตัดของนายท่านหยางในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ หลายวันนี้ก็ไม่สามารถเป็นที่สนับสนุนของหยางฉงได้ ตอนนี้หยางฉงเพิ่งเข้ามาดูแลตระกูลหยาง ให้เธอเผชิญหน้าคนเดียวคงยากหลี่ฝางไม่สามารถไปไหนตอนนี้ได้

“แน่นอน” หลิวฮุยพยักหน้า ก่อนกล่าวเสริม “ตอนมาท่านผู้อาวุโสได้กำชับเอาไว้แล้ว นายท่านหยางกับเขาเป็นสหายร่วมสงคราม ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องดูแลตระกูลหยางอยู่แล้ว”

เมื่อหลี่ฝางได้ยินอย่างนั้น กลับนิ่งเฉย

สถานะของท่านผู้อาวุโสอันที่จริงก็เป็นการพันธนาการอย่างหนึ่ง เพราะเขาอยู่ในตำแหน่ง เพราะงั้นไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ หลายครั้งไม่สามารถนึกถึงตนเองได้เลย

เพราะงั้นต่อให้หยางเซี่ยวหู่เป็นสหายที่สู้ตายมาด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางให้ความดูแลและช่วยเหลือเป็นการส่วนตัว เพราะจะทำให้เกิดปัญหามากมายตามมาด้วย

ทว่าวันนี้เขากลับให้หลิวฮุยส่งสารมา อันที่จริงก็เพื่อหลี่ฝาง

เมื่อคิดได้อย่างนั้น หลี่ฝางอดรู้สึกขอบพระคุณชายชราคนนั้นไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นหากชายชราคนนั้นยอมปริปากแทนตระกูลหยางจริงๆ ผลลัพธ์บางทีอาจจะมากกว่าที่หลี่ฝางลงมือควบคุมด้วยตนเองเสียอีก

ท้ายที่สุดทั้งคู่ตัดสินใจรอให้สถานการณ์ของตระกูลหยางคงที่ก่อน จะพูดให้ถูกคือรอให้หยางฉงควบคุมได้ หลี่ฝางถึงจะออกเดินทางไปที่ปีศาจซากปรักหักพัง

อย่างไรซะการเปลี่ยนแปลงของปีศาจซากปรักหักพังก็ไม่ใช่วันสองวันซะหน่อย จะช้าหรือเร็วไปหนึ่งวันก็ไม่ได้แตกต่างอะไร

เมื่อตกลงกับหลี่ฝางได้ หลิวฮุยจึงจากไปทันที

ทีท่ารีบร้อนของเขา หลี่ฝางก็รู้ในทันที ภารกิจของหลิวฮุยวันคืนนี้คงยังห่างไกลจากการลุล่วง

เวลาผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงอย่างไม่รู้ตัว

โถงทางเดินเงียบสงัดขึ้นเรื่อยๆ คนส่วนใหญ่บ้างก็ขดตัวพักผ่อน บ้างก็เหลือบไปทางห้องผ่าตัดด้วยความกังวล อย่างไรซะเวลานี้ สมาชิกของตระกูลหยางวิตกกังวลอย่างมาก

ทว่าก็มีกลุ่มคนที่ไม่ฝักไม่ใฝ่ อย่างเช่นพวกไม่เอาไหนคนเดียวของรุ่นสอง หยังเซิงโหย่ว ตอนนี้เขากำลังนอนหลับลึกอยู่บนเก้าอี้คนเดียว ส่งเสียงกรนจนคนในตระกูลหยางต่างส่ายหน้าอย่างระอา

หลี่ฝางเองก็ยอมใจในคนอย่างหยังเซิงโหย่ว แต่เขาก็ไม่ได้ก่อความวุ่นวาย จึงปล่อยเขาไป

ที่สุด ตั้งแต่เริ่มการผ่าตัดหนึ่งวันก่อนหน้าจนถึงเช้าวันที่สองเสร็จสิ้น การผ่าตัดในครั้งนี้ใช้เวลาไปสิบกว่าชั่วโมง

เมื่อเห็นประตูห้องผ่าตัดเปิดออก สมาชิกของตระกูลหยางต่างหันกลับไปมองเป็นตาเดียว ทุกคนต่างอยากรู้ผลลัพธ์

“ผู้อำนวยการหลิว การผ่าตัดเป็นอย่างไรบ้าง?” หยางฉงรีบปรี่ตัวเข้าไปถามเป็นคนแรก

ผู้อำนวยการหลิวในตอนนี้ หลังผ่านการผ่าตัดอันยาวนาน เขาอ่อนล้าอย่างมาก

แต่เขาก็ยังคงตั้งสติ ประกาศกับสายตาแต่ละคู่ “การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้นายท่านหยางไม่เป็นอะไรแล้ว”

ทันใดนั้น สมาชิกตระกูลหยางต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน