NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1143 ที่สุดของสำนักหยิ่งซา

บทที่ 1143 ที่สุดของสำนักหยิ่งซา

“เป็นไปได้อย่างไร” บุคคลผมทองจ้องมองหลี่ฝางผ่านเป้าเล็ง

ทีแรกเขาไม่คิดที่จะยิงหลี่ฝางให้ตาย แต่อย่างน้อยก็ต้องให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บ

เขารู้ได้อย่างชัดเจน ปืนสไนเปอร์สุดโหดที่ถูกดัดแปลงและลูกกระสุน ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือความเร็วก็เหนือกว่าปืนธรรมดาสามเท่า แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น ก็ไม่สามารถทำร้ายหลี่ฝางได้

จ้องมองลูกกระสุนที่หมุนติ้วตรงหน้าขมับเขาไม่หยุด หลี่ฝางค่อยๆ ยื่นมือออกจับลูกกระสุนมาไว้ในมือ

ต่อมา นัยน์ตาของหลี่ฝางเกิดลำแสงแวบผ่านที่ผิดปกติ รีบสะบัดแขนโยนกระสุนออกไป

ในเวลาเดียวกัน หลี่ฝางหมุนตัวจับหยางฉงหมอบลง กำลังภายในแผ่ซ่านอย่างบ้าคลั่ง โอบหยางฉงแน่น

ต่อมา เสียงระเบิดอย่างดุเดือดดังขึ้น กระจกของตึกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ละเอียด ควันเขม่าสีดำ โถงทางเดินถูกระเบิดจนเละ ฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มพื้น

ที่แท้ในกระสุนนั้นยังมีระเบิดอัดเล็กอยู่ด้วย พลังของมันเทียบเท่าได้กับระเบิดมือเลยทีเดียว ต้องเป็นอาวุธพิเศษที่ไม่ธรรมดาแน่นอน

หากเมื่อสักครู่หลี่ฝางช้ากว่านี้หน่อย เขาก็ถูกระเบิดไปแล้ว ระยะห่างที่ใกล้ขนาดนั้น เขาอาจจะไม่ตาย แต่มือที่จับระเบิดไม่เหลือแน่

“หยางฉง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หลี่ฝางรีบดูหยางฉงที่ตนโอบให้หมอบลง ถามไถ่อย่างร้อนรน

“ฉันไม่เป็นไร” หยางฉงตอบด้วยใบหน้าที่ไร้สีเลือด ดวงตาทั้งสองข้างแฝงไปด้วยความตื่นตระหนก

“เขา พวกเขา……”

ที่นี่เป็นโรงพยาบาล แพทย์พยาบาลและเหล่าญาติผู้ป่วยต่างตกอกตกใจ ภายใต้ควันเขม่า เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นไม่หยุด เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียอย่างหนัก

“ไอ้สารเลวสมควรตาย!” สายตาของหลี่ฝางเกิดไฟปะทุด้วยความโกรธ

“หยางฉง ดูแลตัวเองดีๆ เดี๋ยวผมมา!” หลี่ฝางกัดฟันกล่าวกับหยางฉง แหงนหน้าขึ้นไปบริเวณยังสไนเปอร์ที่เล็งมาเมื่อสักครู่ ก่อนขยับฝีเท้า เร่งไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว

เขาไวมาก จนผู้คนในท้องถนนไม่ทันได้สังเกตเห็น เห็นเพียงตรงหน้าเกิดประกาย และสายลมที่พัดผ่าน

เมื่อหลี่ฝางไล่ตามมายังชั้นดาดฟ้าของตึกสูง ก็ไม่มีใครอยู่เสียแล้ว

หลี่ฝางกำลังจะคัดกรองกลิ่นอายที่ยังหลงเหลืออยู่ในอากาศ ต่อมาสีหน้าของเขากลับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว รีบมุ่งไปยังทางสัญจรของตึก

“ปัง!” ดาดฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยควันเขม่าและเปลวไฟ

“ระเบิดเพลิงกำลังสูง สามารถจู่โจมผมได้ และยังลบร่องรอยได้อีก ไอ้หมอนี่……”

หลี่ฝางหลบหลีกการจู่โจมระเบิดได้ต่อเนื่อง ความเยือกเย็นประกายขึ้นในสายตา เสียงน่ากลัวอย่างถึงที่สุด

“ในเวลาสั้นแค่นี้ นักฆ่าไม่มีทางหนีไปได้ไกลแน่ หมายความว่า……”

หลี่ฝางอ้าแขนทั้งสองข้างออก แหงนหน้าขึ้น หลับตาลง

ในร่างของเขา กำลังภายในมากมายกลายเป็นพลังงานที่ไร้รูปร่างแผ่ซ่านออกไปทั่วทุกทิศ เหมือนกับโยนหินลงไปในแม่น้ำที่เงียบสงบ เป็นคลื่นวงกลมชั้นๆ

เมื่อหินสัมผัสกับสิ่งของอื่น ก็จะเกิดการแทรกแซงและหายไปอย่างช้าๆ

นี่เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกำลังภายในของหลี่ฝาง การควบคุมความสามารถนี้ เพิ่งพาการกระจายตัวออกของกำลังภายใน หรือแม้แต่เขาสามารถใช้ความสามารถนี้รับรู้สรรพสิ่งรอบกาย ปราศจากการพันธนาการของประสาทสัมผัสทั้งห้า

“หาแกเจอแล้ว!”

หลี่ฝางเบิกตาโพลง เร่งฝีเท้า มุ่งไปที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง

ภายในห้องอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ชายหนุ่มหัวทองที่เพิ่งเก็บปืนสไนเปอร์ลงในกล่อง สีหน้าเปลี่ยนกะทันหัน ไม่คาดคิดเลย ผ่านหน้าต่างอพาร์ตเมนต์มุ่งไปทางข้างหน้าที่ผู้คนขวักไขว่

ต่อมา เงาร่างของหลี่ฝางราวกับมัจจุราช ที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ

“แกหนีไปไหนไม่รอดหรอก”

ความโกรธมหาศาล หลี่ฝางจ้องมองชายหัวทองคืบคลานสู่ฝูงผู้คน ใช้วิธีนี้ในการเบี่ยงเบนการไล่ล่าในสายตาของหลี่ฝาง และหนีไปได้สำเร็จ เสมือนกับการจ้องมองเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโตคนหนึ่ง

เสียงของเขาแล่นเข้าหูยังชายหัวทอง ชัดเจนราวกับคนรักกระซิบข้างหู

ชายหัวทองหยุดฝีเท้า เพราะหลี่ฝางได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาเป็นที่เรียบร้อย

“ไม่ว่าแกเป็นใคร แกก็พ่ายแพ้แล้ว” ไฟโกรธในอกเขาแทบจะแผดเผาตัวเขาจนมอดไหม้ ทว่าในใจของเขาตอนนี้กลับรู้สึกสงบอย่างประหลาด ทุกอย่างเงียบสงัด

เมื่อความโกรธถึงขีดสุด หลี่ฝางเสมือนกับเข้าสู่อีกโหมดหนึ่งที่ประหลาด

“เตรียมตัวรับชะตากรรมหรือยัง?”

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอันมหาศาลอย่างกล้า ของหลี่ฝางที่แผ่ซ่านออกมา ชายหัวทองกลับระเบิดเสียงหัวเราะเสียอย่างนั้น

“ทำไมแกถึงคิดว่า การแอบฆ่าของฉันพ่ายแพ้ล่ะ?”

จบประโยค ประโยคสองข้างทางถูกตีจากโดยฝีมือผู้คนกะทันหัน บาซูก้ายื่นออกมาจากด้านใน กระบอกบาซูก้าสีดำเล็งไปที่เขา

คนรอบข้าง กลายเป็นมือปืนขึ้นมากะทันหัน เหนี่ยวไกลปืน ยิงออกไป

ตึกสูงที่ไกลออกไปไม่รู้ว่ามีคนแอบแฝงอยู่มากมายแค่ไหน สไนเปอร์มากมายต่างยิงออกมาในเวลาเดียวกัน

หากทุกอย่างเงียบสงัด ทุกคนต่างจับจ้องหลี่หยางอยู่ตรงกลางด้วยสายตาอันดุกร้าว ลูกกระสุนอยู่กลางอากาศ อากาศกำลังมอดไหม้ ความอาฆาตมากมายปกคลุมหลี่ฝางเอาไว้

เสมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังควบคุมอยู่อากาศ ต่อมา พลังงานมากมายไปจบสิ้นแผ่ซ่านออกมาจากร่างของหลี่ฝาง พลังงานที่แข็งแกร่งสุดขีดแผ่กระจายไปทั่วบริเวณหลายร้อยเมตร

กระสุน ลูกปืนย้อนกลับ จรวดหยุดนิ่งกลางอากาศ เครื่องยนต์หยุดทำงาน เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แตกกระจาย

พริบตา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกิดความเสียหาย กระสุน ลูกปืนย้อนกลับไปยังมือปืนรอบข้าง

คนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบคือชายหัวทอง

‘สิ่งนี้……นี่เป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่เพียงใดกัน!’

เมื่อคิดได้อย่างนั้น สายตาของชายหัวทองเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ต่อให้พวกเขาจะพัฒนาการประเมินพลังงานหลี่ฝางอยู่เสมอ สุดท้ายชายหัวทองกลับค้นพบว่า พวกเขาดูถูกความสามารถของหลี่ฝางมากเกินไป

แต่ในขณะที่อาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมดเสียหายในพริบตา มีสี่คนที่หนีไปจากรอบทิศของหลี่ฝาง

หลังของพวกเขาได้แบกกล่องคนละใบ ตอนนี้ กล่องได้ถูกเปิดออก

ทั้งสี่สีหน้านิ่งเฉย นัยน์ตามีเพียงความเงียบสงัดของชายหนุ่มเท่านั้น ทั้งหมดต่างก็มีความสามารถระดับปรมาจารย์ทั้งนั้น

พวกเขามีความว่องไว ในขณะที่หลี่ฝางถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากการโจมตีทั่วทุกทิศ ยิงถล่มทั้งหมด ทั้งสี่ก็วิ่งไปยังรอบทิศของหลี่ฝางเป็นอันเรียบร้อย

หลี่ฝางเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องของพวกเขา

คือระเบิด ระเบิดพลังงานสูงรุ่นล่าสุด พลังของมันมากพอที่จะทำลายถนนสายนี้

เพราะกล่องสร้างจากวัสดุพิเศษ พลังงานของหลี่ฝางไม่เกิดปฏิกิริยากับกล่องนั้น และตอนนี้ หลี่ฝางคิดที่จะหลีกเลี่ยงก็ไม่ทันแล้ว เพราะระเบิดพลังงานสูงได้ระเบิดแล้ว

การสู้รบแบบนี้ ทำให้หลี่ฝางรู้สึกถึงความคุ้นเคย กระตุ้นความทรงจำที่ถูกปิดตายมานานของหลี่ฝาง

“สำนัก—หยิ่ง—ซา!!”

ต่อมา ลำแสงมากมายและความร้อนไม่มีที่สิ้นสุดระเบิดออกอย่างรุนแรง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท