NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1142 ลอบสังหารที่มาอย่างกะทันหัน

บทที่ 1142 ลอบสังหารที่มาอย่างกะทันหัน

เมื่อได้ยินคำของผู้อำนวยการหลิว น้ำตาของหยางฉงไหลพรากเป็นทาง

เธอที่ในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก อดไม่ได้ไม่ที่จับแขนของหลี่ฝางแน่น พร้อมอาการดีใจอย่างมาก

“ผู้อำนวยการหลิว ลำบากคุณแล้วนะ ผมติดค้างหนี้บุญคุณของคุณ”

หลี่ฝางตบหลังมือของหยางฉง ก่อนกล่าวกับผู้อำนวยการหลิว

ใบหน้าที่อิดโรยของผู้อำนวยการหลิว หลี่ฝางก็รู้ว่าการผ่าตัดในครั้งนี้นั้นยากเย็นแค่ไหน

เพราะงั้นหลี่ฝางจึงยอมที่จะจดจำบุญคุณในครั้งนี้

เมื่อผู้อำนวยการหลิวได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของเขาประกายความซาบซึ้ง

หนี้บุญคุณของปรมาจารย์กำลังภายในอย่างหลี่ฝาง ไม่ใช่จะติดกันได้ง่ายๆ

“นี่เป็นหน้าที่ของผม” ผู้อำนวยการหลิวแอบดีใจ ก่อนกล่าวอย่างเกรงอกเกรงใจ “กระผมไม่คู่ควรแก่คำขอบคุณของเพื่อนหลี่”

ตอนนี้เองหยางจื้อเฉิงเดินเข้ามากล่าว “ผู้อำนวยการหลิวรบกวนคุณแย่ เราปล่อยให้ผู้อำนวยการหลิวพักผ่อนก่อนเถอะ”

หลังจากนั้น ผู้อำนวยการหลิวจากไปพร้อมกับหยางจื้อเฉิง

ไม่นาน หยางเซี่ยวหู่ที่นอนอยู่บนเตียง ก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน

พยาบาลหลายคนรายล้อมเตียงผู้ป่วยเอาไว้ เพื่อส่งหยางเซี่ยวหู่ไปที่ห้องพักฟื้นเพื่อดูอาการ

สมาชิกตระกูลหยางทุกคนจ้องมองนายท่านหยางหลับไม่ได้สติออกไป ด้วยใบหน้าที่ยินดี

หลี่ฝางหลับลอบถอนหายใจ

เขารู้ดี ต่อให้นายท่านหยางผ่านการผ่าตัดในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี ก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน

กลิ่นอายชีวิตของนายท่านหยางนั้นช่างอ่อนแรงเสียยิ่ง

คิดได้อย่างนั้น หลี่ฝางแอบใช้กำลังภายใน เพื่อแทรกแซงบทสนทนาของผู้อำนวยการหลิวและหยางจื้อเฉิงที่อยู่ไม่ไกล

หยางจื้อเฉิงและผู้อำนวยการหลิวไม่คาดคิดเลย ว่าพวกเขาอยู่ห่างจากทางนั้นขนาดนี้ยังหลี่ฝางยังได้ยิน

“ครั้งนี้ต้องขอบคุณผู้อำนวยการหลิวจริงๆ” หยางจื้อเฉิงกล่าว “แต่ สถานการณ์ของนายท่าน ผมเข้าใจดี เฮ้อ คราวนี้……ท่านบอกผมมาเถอะ ยังมีเวลาอีกนานแค่ไหน?”

น้ำเสียงของเขา แฝงไปด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่รู้ตัว

“เฮ้อ ผู้อำนวยการหยางพูดถูก ร่างกายของนายท่าน อยู่ได้อีกไม่นาน” ผู้อำนวยการหลิวฝืนยิ้มอย่างขมขื่น กล่าวอย่างพิจารณา “หนึ่งเดือน……”

เมื่อได้ยินระยะเวลาที่ผู้อำนวยการหลิวคำนวณ หยางจื้อเฉิงถอนหายใจ

นอกจากถอนหายใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้อีก

เรื่องของชีวิต ต้องมีจะต้องดูชะตากรรม

หลี่ฝางที่ฟังบทสนทนาของทั้งคู่ ก็อดลอบถอนหายใจด้วยไม่ได้

มีเวลาเพียงแค่หนึ่งเดียว น้อยไปจริงๆ นั่นแหละ

เขาจับจ้องหยางฉง ตัดสินใจที่จะปกปิดเรื่องนี้ ไม่อยากให้หยางฉงที่เพิ่งจะดีใจขึ้นมาหน่อยต้องเสียใจในทันที

ส่วนเขาเองก็แอบลอบไตร่ตรองในใจ นายท่านหยางไปแล้ว เหล่าศัตรูตัวฉกรรจ์ของตระกูลหยาง ต่อให้มีหลี่ฝางอยู่ ก็คงหลีกเลี่ยงการปะทะไปไม่ได้

นอกเสียจากหลี่ฝางจะอยู่ที่ตระกูลหยางได้ตลอดเวลา เมื่อมีการเคลื่อนไหวกำจัดทิ้งในทันที แต่นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

เขาคิด หลี่ฝางขอเพียงหยางเซี่ยวหู่จะอดทนอีกสักหน่อย

“ทำไมคุณถึงดูไม่ดีใจเลย?” ในเวลานี้หยางฉงได้สังเกตถึงปฏิกิริยาของหลี่ฝางที่ผิดปกติไป

“เปล่านี่ เมื่อคืนหลิวฮุยมาหาผม” หลี่ฝางถอนหายใจ “เบื้องบนมีเรื่องหนึ่ง ผมคงต้องออกไปหลายวัน……”

“ไม่เป็นไร คุณวางใจไปเถอะ” หยางฉงกลับเป็นฝ่ายปลอบโยนหลี่ฝาง “ปู่ไม่เป็นอะไรแล้ว อีกไม่นานก็จะดีขึ้น ฉันจะตั้งใจเรียนรู้ เป็นผู้นำที่ดีของตระกูล!”

“อืม ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ” หลี่ฝางลูปศีรษะหยางฉงด้วยรอยยิ้ม

แต่เมื่อคิดดูให้ดี หลี่ฝางยังคงกำชับอย่างไม่ไว้วางใจ “หากผมไม่อยู่เกิดเรื่องที่คุณรับมือไม่อยู่ คุณก็ไปหาโจวซู เขาจะให้ความคุ้มกันกับคุณ”

อย่างไรซะความสัมพันธ์ของโจวซูและหลี่ฝางก็ใช้ได้เลยทีเดียว แถมครั้งก่อนหลี่ฝางได้พบกับท่านผู้อาวุโสที่บ้านของโจวซู หากโจวซูให้ความช่วยเหลือ ไม่แน่อาจจะดึงดูดความสนใจของท่านผู้อาวุโส

เกรงก็แต่ว่าศัตรูของตระกูลหยางแม้แต่โจวซูก็ไม่หวั่น ถึงตอนนั้นนอกจากท่านผู้อาวุโสแล้ว คงไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว

ในเวลานี้เอง ลางสังหรณ์อันตรายอะไรบางอย่างแล่นเข้ามายังอกของหลี่ฝางกะทันหัน

นาทีต่อมา ในสายตาของหลี่ฝางดับมืด ดวงตาของเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ ในสายตามืดมิด

แทบจะในเวลาเดียวกัน ตึกสูงแห่งหนึ่งที่ห่างออกไปสองกิโลเมตร บุคคลหน้าตาดีผมสีทองเหนี่ยวไกลปืน

มือสไนเปอร์ในมือสั่นไหวเล็กน้อย แรงผลักดันภายใต้สนามแม่เหล็ก พริบตาลอยผ่านระยะทางสองกิโลเมตรมาอยู่ที่ระหว่างหน้าขมับของหลี่ฝาง

แต่ก็เพียงแค่หน้ากลางขมับเท่านั้น

กำลังภายในของหลี่ฝางผ่านการฝึกฝนมานับไม่ถ้วน การกระตุ้นให้พลังตื่นขึ้นก็ไม่อะไรกับสัญชาตญาณ ก่อนที่ในใจของหลี่ฝางจะเกิดสัญญาณเตือนก็ได้คุ้มกันร่างของหลี่ฝางเอาไว้แล้ว

ต่อให้เป็นลูกกระสุนจากสไนเปอร์ที่รุนแรง ก็ถูกเขากันเอาไว้ได้หมด

“เป็นไปได้อย่างไร” บุคคลผมทองจ้องมองหลี่ฝางผ่านเป้าเล็ง

ทีแรกเขาไม่คิดที่จะยิงหลี่ฝางให้ตาย แต่อย่างน้อยก็ต้องให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บ

เขารู้ได้อย่างชัดเจน ปืนสไนเปอร์สุดโหดที่ถูกดัดแปลงและลูกกระสุน ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือความเร็วก็เหนือกว่าปืนธรรมดาสามเท่า แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น ก็ไม่สามารถทำร้ายหลี่ฝางได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท