NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1150 ไปกับผม

บทที่ 1150 ไปกับผม

ด่าก็ส่วนด่า เขายังหวังให้ซุนเฟยจับเจิ้งเหวินจุ้นได้ จึงได้แต่พูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด “เฟยเฟย หากแกได้อยู่กับคุณชายเจิ้ง จะได้เสพสุขกับความมั่งคั่งไปทั้งชีวิตเลยนะ ฉันทำทุกอย่างก็เพราะหวังดีกับแก ทำไมแกถึงได้ไม่เข้าใจเอาซะเลย?”

เมื่อได้ฟังประโยคจอมปลอมของบิดา ซุนเฟยรู้สึกสะอิดสะเอียน

เธอไม่เคยคาดคิด ว่าบิดาของตนจะพูดไม่คิดแบบนี้ออกมาได้โต้งๆ

“พ่อคะ ท่านคงไม่ได้ไม่รู้ว่าเศษเดนคนนี้เป็นคนอย่างไรใช่ไหม? ท่านอยากจะผลักไสให้หนูลงเหวขนาดนั้นเลยเหรอ?”

คำของซุนเฟย ทำให้รอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้าของเจิ้งเหวินจุ้นเลือนหายไป

“มีไม่กี่คนที่กล้าพูดแบบนี้กับคุณชายอย่างฉัน นางแพศยา เธออยากตายสินะ!”

เจิ้งเหวินจุ้นที่ใช้อำนาจจนเคยชิน ง้างฝ่ามือขึ้นคิดที่จะเหวี่ยงไปที่หน้าของซุนเฟย

เขาต้องการสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้หลาบจำ จึงจะยอมเชื่อฟังแต่โดยดี!

ผู้หญิงที่เขาเจิ้งเหวินจุ้นต้องการ ไม่เคยไม่ได้!

ซุนจื้อเหวินยกมือขึ้นหวังขัดขวาง เมื่อคิดได้ว่าเจิ้งเหวินจุ้นเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ มือที่ยกขึ้นจึงวางลง

ซุนเฟยที่เห็นอย่างนั้น แสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมา

ในเวลานี้เอง มือข้างหนึ่งยื่นเข้ามากะทันหัน จับมือที่กำลังจะตกกระทบเอาไว้

“ไอ้หนู แกยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยนะ!” จับจ้องชายหนุ่มที่จับมือของตนเอาไว้ เจิ้งเหวินจุ้นคำรามอย่างไม่พอใจ

หลี่ฝางจ้องมองเจิ้งเหวินจุ้นอย่างเย็นชา มือที่จับแขนของเขาเริ่มออกแรง

ทันใดนั้น ความเจ็บปวดมหาศาลทำให้เจิ้งเหวินจุ้นกรีดร้องออกมาอย่างอนาถ

“ไอ้บ้า ปล่อยมือเดี๋ยวนี้! แกอยากตายใช่ไหม!”

ความเจ็บปวดแบบนี้ทำให้เจิ้งเหวินจุ้นที่ไม่เคยเป็นรองมาก่อนเจ็บจนแทบน้ำตาไหล

“เอ๋ แก……”

ซุนเฟยจับจ้องหลี่ฝางอย่างตกตะลึง ในสายตาเต็มไปด้วยความยากที่จะเชื่อ

ทีแรกซุนเฟยเจอกับดักที่ประเทศเหล่า เกาเมิ่งฉีรับกระสุนแทนหลี่ฝาง หลังจากนั้นส้าวส้วยออกหน้าพาเขาออกไป เรือที่ทั้งคู่นั่งเป็นเรือของซุนจื้อเหวิน

ตอนนั้นพวกเขาเจอโจรกลางทะเล หลี่ฝางเองที่เป็นคนสังหาร หรือจะพูดว่า เรือของซุนจื้อเหวิน ถูกเท้าของหลี่ฝางกระทืบจนพังเสียหาย

ซุนเฟยไม่คิดเลย ผู้ชายที่ทิ้งร่องรอยความทรงจำให้กับเธอเพียงแค่เวลาสั้นๆ จะปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้ง

“ขี้หมาอย่างแก รู้ไหมว่าแกล่วงเกินใครเขา! รีบปล่อยฉันซะ ไม่งั้นฉันจะสั่งให้คนหั่นแกเป็นชิ้นแล้วให้หมากินซะ!”

“ฮ่าๆ ตระกูลเจิ้ง……” หลี่ฝางเหลือบมองซุนเฟย ก่อนละสายตาไปยังเจิ้งเหวินจุ้น หัวเราะอย่างเย็นชา

ต่อมา กำมือออกแรงบีบ

แกร็ก!

เสียงที่ราวกับกิ่งไม้แห้งถูกหักดังชัดเจน คนในเหตุการณ์ต่างหวาดเสียว

หลี่ฝางคลายมือออก ก็ได้เห็นแขนของเจิ้งเหวินจุ้นทิ้งตัวห้อยลง หักโดยสมบูรณ์

“โอ๊ะ!” เจิ้งหวินจุ้นกอดแขนของตนเองกรีดร้องอย่างอนาถปานใจจะขาด เม็ดเหงื่อบนใบหน้าผุดขึ้นราวกับสายฝน

“คุณชายเจิ้ง คุณชายเจิ้ง!”

ซุนจื้อเหวินเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตกใจจนใบหน้าขาวซีด คิดว่าชีวิตนี้ของเขาจบเห่ลงแล้ว

ต่อให้เขาไม่ใช่คนทำร้ายเจิ้งเหวินจุ้น แต่การพาลโกรธของตระกูลเจิ้งก็ทำให้เขาพังทลายได้!

“แกกล้าทำร้ายคุณชายตระกูลเจิ้ง แกจบเห่แน่! แกจบเห่แน่!” เจิ้งเหวินจุ้นชี้หน้าหลี่ฝางตะโกนด้วยความหวาดกลัว

ต่อให้เขานึกออกว่าหลี่ฝางเป็นคนช่วยพวกเขาเอาไว้ที่ทะเล ตอนนี้เขาก็ได้แต่อยู่ให้ห่างความสัมพันธ์ของหลี่ฝาง ไม่อยากจะได้รับผลกระทบไปด้วย

ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามทำเพื่อช่วยเหลือซุนเฟย เขาก็ไม่ลังเลที่จะชี้หน้าว่ากล่าวหลี่ฝาง

ความเย็นชาของซุนจื้อเหวิน หลี่ฝางไม่แยแส พลันเอ่ยกลับเจิ้งเหวินจุ้นอย่างเรียบเฉย “ไสหัวกลับไป บอกเจิ้งชิง ช่วงนี้ให้ตระกูลน้อยๆ หน่อย อย่าล่วงเกินผมอีก สามวันให้หลังค่อยคิดบัญชีกับตระกูลเจิ้ง!”

คำพูดแบบนี้ ทำให้ซุนจื้อเหวินที่อยู่อีกด้านถึงกับพูดไม่ออก หลังจากนั้นจึงจ้องมองหลี่ฝางราวกับคนเสียสติ

เขาบอกว่าจะคิดบัญชีกับตระกูลเจิ้ง? มีความสามารถหน่อยก็ลืมต้นกำเนิดของตัวเองเสียสิ้น!

แต่ต่อมาซุนจื้อเหวินนกลับรู้สึกยินดีขึ้นมา ในสายตาเขาคนที่กล้าหาเรื่องตระกูลเจิ้งอย่างหลี่ฝางได้กลายเป็นศพไปแล้ว หลังจากนั้นขอแค่เขาส่งซุนเฟยให้กับเจิ้งเหวินจุ้น ตัดขาดกับหลี่ฝาง เรื่องนี้ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว

ถึงตอนนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วไม่ใช่เหรอไง? เพียงแต่จะทำอย่างไรให้ซุนเฟยเชื่อฟังแต่โดยดี!

ความโกรธของเจิ้งเหวินจุ้น หลี่ฝางไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย ทิ้งท้ายประโยคก่อนหมุนตัวไปทางซุนเฟย “ไปกับผม

ประโยคที่ราบเรียบ ทำให้หัวใจซุนเฟยเต้นรัว ก่อนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น เดินตามหลังของหลี่ฝางไป

ซุนจื้อเหวินคิดจะรั้งซุนเฟยเอาไว้ แต่สถานการณ์ของเจิ้งเหวินจุ้นตรงหน้า ทำให้เขานึกถึงความเก่งกาจของหลี่ฝาง จึงไม่กล้าขัดขวาง

ซุนเฟยที่เดินตามอยู่ข้างหลัง เพียงเหลือบมองซุนจื้อเหวินที่ส่งสายตาเตือน ก่อนหันหน้ากลับอย่างสิ้นหวัง สาวเท้ายาวออกไป

รอบข้างถูกห้อมล้อมเอาไว้ ถูกล้อมสนิทแม้แต่อากาศยังเล็ดลอดเข้ามาไม่ได้

“เขาเป็นอะไร?” ใครบางคนกล่าวถามอย่างสงสัย

“เหอะๆ คุณชายน้อยของตระกูลเจิ้งเกิดเรื่องแล้ว ผู้บัญชาการหวางกล้าไม่มาเหรอ?” บางคนหัวเราะเยาะ

เมื่อเห็นผู้บัญชาการหยัง เจิ้งเหวินจุ้นหัวเราะออกมาอย่างได้ใจ คู่กับสีหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด ทำให้ดูน่าสยองมากกว่าเก่า

“แกจบเห่แน่!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท