NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1125 พี่หลี่ ไม่เจอกันนาน

บทที่ 1125 พี่หลี่ ไม่เจอกันนาน

ได้ยินคำพูดของข่งจู ถึงแม้หลี่ฝางจะจนใจเล็กน้อย แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอีก จึงลุกขึ้นมาและพยักหน้ากล่าวกับลู่เผิงเฟย: “ไม่เจอกันนานเลยนะ”

เมื่อได้ยินหลี่ฝางเอ่ยขึ้นเช่นนี้ ทุกคนต่างชะงักงันไปทันที จากนั้นข่งจูที่รู้ตัวขึ้นมาก็เอ่ยถาม: “พวกคุณ……รู้จักเหรอ?”

“น่าจะเคยเจอสองสามครั้ง” หลี่ฝางยิ้มกล่าว

เขารู้ว่าเมื่อก่อนตัวเองเคยผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง และรู้ว่าตัวเองเคยรู้จักลู่เผิงเพยมาก่อน แต่ยังไงซะความทรงจำของเขาก็ยังไม่ได้กลับคืนมา ไม่ทราบรายละเอียด จึงได้เพียงกล่าวอย่างคลุมเครือเช่นนี้

ข่งจูพยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรอีก เธอคิดว่าคนใหญ่คนโตอย่างลู่เผิงเฟย ทุกวันมีผู้คนมากมายได้เจอเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ยิ่งไปกว่านั้นในเมื่อหลี่ฝางเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย เช่นนั้นก็ยิ่งจะได้พบเจอกับผู้คนมากมาย

และหลังจากที่เธอพึ่งคิดแบบนี้เสร็จไป ก็พบว่าลู่เผิงเฟยได้เดินเข้าไปจับมือหลี่ฝางอย่างตื่นเต้นดีใจ และยิ้มกล่าว: “พี่หลี่ ไม่เจอกันมานานมากแล้วจริง ๆ”

คำเรียกของลู่เผิงเฟย ทำให้ทุกคนตะลึงงันไปอีกครั้ง

ทั้ง ๆ ที่อายุของลู่เผิงเฟยเยอะกว่าหลี่ฝาง แต่ทำไมลู่เผิงเฟถึงได้เรียกหลี่ฝางว่าพี่ล่ะ?

อีกทั้งดูท่าทางตื่นเต้นดีใจของลู่เผิงเฟย ราวกับว่าได้พบกับพี่ชายแท้ ๆ อย่างไรอย่างนั้น ไม่มีทางที่จะแค่เสแสร้งออกมา ท่าทางเช่นนี้ ยิ่งทำให้ทุกคนสงสัยเข้าไปใหญ่

เพียงแต่ว่าตอนนี้ทั้งสามคนอย่างจะกล่าวอะไรก็แทรกแซงไม่ได้ เพราะในตอนนี้ลู่เผิงเฟยกำลังพูดคุยกับหลี่ฝางอย่างตื่นเต้นดีใจอยู่ไม่หยุด

“พี่หลี่ครับ ก่อนหน้านี้สักระยะผมได้ข่าวมาว่าพี่อยู่ที่เมืองจินซาน ต่อมาก็ได้สอบถามเบื้องลึกเบื้องหลังมาได้นิดหน่อย ก็เลยอยากมาหาพี่ที่นี่มาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่าจะหาเวลาไม่ได้สักที ตอนนี้ในที่สุดก็ได้ถือโอกาสในการอวยพรวันเกิดให้กับคุณย่าตระกูลจาง เดิมทีคิดว่าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเสร็จก็จะหาพี่ที่บ้านตระกูลหยาง คิดไม่ถึงว่าพี่เองก็มาด้วยเหมือนกัน ฮ่า ๆ บังเอิญ มันช่างบังเอิญจริง ๆ !”

ท่าทางกระตือรือร้นจนเกินไปของลู่เผิงเฟย ทำให้หลี่ฝางที่ไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวข้องไม่เคยชินเล็กน้อย จึงได้เพียงแต่พูดว่า: “นั่งก่อน นั่งแล้วค่อยพูด”

เมื่อสักครู่เขาได้สั่งให้คนยกเก้าอี้มาแล้ว

ทันทีทันใด ลู่เผิงเฟยและหลี่ฝางต่างก็นั่งลง โดยไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดของผู้คนที่อยู่โดยรอบเลยสักนิด และคุยกันต่อไปอย่างเมามัน

ณ เวลานี้พวกฟางหยู่ถงทั้งสามคนได้ตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง ถึงขนาดพูดอะไรไม่ออกเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่จ้องมองลู่เผิงเฟยด้วยสีหน้าตกตะลึง สงสัยแม้กระทั่งว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นคนอื่นปลอมตัวมาหรือเปล่า

คนที่รักษาบุคลิกอย่างลู่เผิงเฟย ถ้าหากมีคนบอกกับพวกเธอว่าเขาได้นั่งพูดคุยกับคนแบบนี้อื่นในสถานการณ์เช่นนี้ ตีให้ตายพวกเธอก็ไม่มีทางเชื่อ

แต่ทว่าตอนนี้ที่ตรงหน้าของพวกเธอ ภาพเหตุการณ์เช่นนั้นได้ประจักษ์อย่างชัดเจน มันตำให้พวกเธอตกตะลึงมากจริง ๆ

ส่วนหลี่ฝางที่ทำให้ลู่เผิงเฟยไม่รักษาบุคลิกคนนั้น จะเป็นแค่พนักงานรักษาความปลอดภัยเล็ก ๆ เองจริง ๆ เหรอ?

ในระหว่างชั่วครู่นั้น แววตาแห่งความสงสัยของทั้งสามคนก็ได้ตกกระทบที่หลี่ฝางอีกครั้ง

หลี่ฝางในเวลานี้ก้กำลังพูดคุยกับลู่เผิงเฟยอยู่ไม่หยุด

“ระยะนี้ร่างกายคุณพ่อของคุณเป็นยังไงบ้าง?” ก็หลี่ฝางไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องราวเมื่อก่อนของทั้งสองคนนี่นา จึงได้เพียงเอ่ยถามอย่างคลุมเครือเช่นนี้

“คุณพ่อของผมแข็งแรงมากเลยล่ะ ระยะนี้เขามักจะพูดถึงเรื่องที่พี่ไปญี่ปุ่นข้างหูผมอยู่ตลอดเวลา พี่หลี่ ไม่พูดไม่ได้ว่า พี่สุดยอดไปเลยจริง ๆ ! อัดจนคนญี่ปุ่นพวกนั้นเงยหน้าไม่ขึ้น!”

เมื่อพูดถึงเรื่องที่หลี่ฝางอยู่ญี่ปุ่นเมื่อก่อนหน้านี้ ดวงตาคู่นั้นของลู่เผิงเฟยก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที ในสายตาที่มองหลี่ฝางนั้นยิ่งเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ ราวกับแฟนคลับตัวยงอย่างไรอย่างนั้น

ตามภูมิหลังครอบครัว และความสามารถของลู่เผิงเฟย เงื่อนไขทั้งหมด เมื่อนำมารวมกันแล้วสามารถฆ่าคนทั้งโลกได้เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ทันที แต่หลังจากที่ได้พบกับหลี่ฝาง เขาก็ยิ่งเคารพนับถือชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาสองสามปีคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ลู่เผิงเฟยอิจฉาริษยา หรือหลงออกจากเส้นทางของตัวเอง

เขารู้ว่า ฝีมือที่สามารถเดินกร่างไปทั่วโลกที่อยู่บนตัวของหลี่ฝางนั้น ตัวเองไม่มีทางที่จะมีได้ แต่พรสวรรค์ของเขาเอง หลี่ฝางเองก็ไม่มีเหมือนกัน

“ใช่แล้ว พี่หลี่ ก่อนหน้านี้คุณปู่ของผมยังบอกอยู่เลยว่าอยากจะพบพี่ ถ้าหากพี่พอจะมีเวลา ไปบ้านตระกูลลู่หน่อยดีไหม?”

ผู้ยึดครองอำนาจของตระกูลลู่? นายท่านลู่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนนั้น?

หลี่ฝางลังเลเล็กน้อย คิดอยู่สักพัก แล้วชี้ไปที่หัวของตัวเอง พลางกล่าว: “อีกสักระยะค่อยว่ากันเถอะ”

ความหมายของหลี่ฝางคือ ความทรงจำของเขายังไม่ทันฟื้นฟู ไม่รู้ว่าจะไปเผชิญหน้ากับผู้คนในอดีตยังไง แม้แต่ส้าวส้วยเอง ตอนที่อยู่ญี่ปุ่นทั้งสองคนก็ยังไม่ทันได้พบกัน ก็กับประเทศมาซะแล้ว

ลู่เผิงเฟยเข้าใจขึ้นมาทันที และรีบพยักหน้ากล่าว: “ตามเหตุแล้วก็ควรเป็นแบบนั้น!”

ฟังเนื้อหาที่ทั้งสองคนสนทนากัน พวกฟางหยู่ถงทั้งสามคนถูกจู่โจมครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกว่าทั่วทั้งโลกใบนี้ล้วนไม่จริง

นายท่านแห่งตระกูลลู่เชิญหลี่ฝางไปพบ? แล้วยังถูกหลี่ฝางปฏิเสธ? และลู่เผิงเฟยยังไม่มีความโมโหใด ๆ เลย!

นายท่านลู่เป็นบุคคลระดับไหนกัน? ต่อให้เป็นคนพ่อของตัวเองอยากจะพบ ยังต้องนัดล่วงหน้าก่อน ยังต้องดูอีกว่านายท่านลู่อารมณ์ดีหรือเปล่า หรือแม้แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ได้พบ

ตอนนี้ถ้ามีใครกล้าพูดกับพวกเธอว่าหลี่ฝางเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยเล็ก ๆ อีก พวกเธอทั้งสามคนสามารถเด็ดหัวของมันออกได้ และชี้จมูกด่าพวกเขา: เบิกตาหมา ๆ ของแกดูให้ดี ๆ พนักงานรักษาความปลอดภัยเล็ก ๆ สามารถมีรัศมีเจิดจรัสแบบนี้ได้เหรอ?

และในขณะที่ทั้งสามคนกำลังมีความคิดเช่นนี้นั่นเอง ก็ได้ใช้สายตารวบรวมความคิดเห็นของกันและกันอย่างเงียบ ๆ ไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาอย่างไม่ลืมหูลืมตา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน