NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1120 ย่าของฉันอยากเจอคุณ

บทที่ 1120 ย่าของฉันอยากเจอคุณ

“หลี่ฝาง!เจอกันอีกแล้วนะ!”

“ฮ่าๆ นั่นสิ……” หลี่ฝางมองไท่ซางที่มืดมนไปทั้งตัว ก็อดไม่ได้ที่จะขำแห้งๆ สักหน่อย ก่อนจะจับมือกับหญิงที่ยื่นมือมา

ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ได้เจอชื่อฟางหยู่ถงเมื่อไม่กี่วันก่อน มันเป็นเรื่องที่บังเอิญเป็นอย่างมากเลยล่ะ

ฟางหยู่ถงเลยยิ้มขึ้นพลางพูด “ผู้มากฝีมือยังจำฉันได้ มันทำให้ฉันเหมือนมีบุญสูงเลยล่ะ”

“อ่า ฮ่าๆ ……” หลี่ฝางหัวเราะแห้งๆ อีกครั้ง อันที่จริงก็ไม่รู้จะพูดอะไร

“จริงสิ ครั้งก่อนต้องขอบคุณที่คุณช่วยฉันเอาไว้นะ!” ฟางหยู่ถงพูด

“ไม่เป็นไร ทำดีในทุกๆ วันไง” หลี่ฝางหัวเราะอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้น

“ดีที่คุณทำดีกับฉันช้าไปเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่แย่เลยเหรอ?” ฟางหยู่ถงปิดปากหัวเราะ

ตอนที่กำลังคุยกันอย่างสนุก ไท่ซางก็ทนไม่ไหวแล้ว เลยเข้ามาพูดแทรกขึ้น “สาวสวย พวกคุณสองคนรู้จักกันเหรอ?”

“โอ๊ย!” ฟางหยู่ถงตกใจเพราะการเข้ามาอย่างรีบร้อนของไท่ซาง ท่าทีตอบกลับเลยมีความเสียมารยาทเล็กน้อย จึงรีบถาม “ขอ ขอโทษนะ คุณคือ……”

“ไม่เป็นไร เขาเป็นเพื่อนของฉัน ชื่อไท่ซาง” หลี่ฝางรีบพูดขึ้น

ฟางหยู่ถงยิ้มพลางทักทายกับไท่ซาง จากนั้นก็หันกลับมาหาหลี่ฝาง พลางพูดขึ้น “ท่าน คุณช่วยฉันไว้ ฉันยังไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร เอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณที่ชั้นด้านบนเอาไหม?”

……

หลังจากนั้นไม่กี่นาที หลี่ฝางกับฟางหยู่ถงก็นั่งคุยกันในร้านอาหารอย่างสนุกสนาน ไท่ซางที่อยู่ข้างๆ ก็หน้ามืดมน พลางนั่งข้างๆ โดยไม่พูดอะไร ทั้งตัวนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัดจนอยากจะกระโดดตึกลงมา

“หลี่ฝาง อีกไม่กี่วันก็เป็นวันเกิดของยายฉันแล้ว……” ทั้งสองคนกำลังคุยกันอย่างสนุก จู่ๆ ฟางหยู่ถงก็พูดขึ้น “เธอบอกว่าอยากเจอคุณ……”

“ทำไมย่าคุณถึงอยากเจอฉัน?” หลี่ฝางคิดไม่ตก

“อันที่จริง……” ฟางหยู่ถงลังเล ระหว่างที่หลี่ฝางสังเกต หน้าก็แดงขึ้นมา “เพราะการไลฟ์นั้นน่ะ ยายรู้เข้าแล้ว……ฉันทำอะไรไม่ได้ เลยต้องโกหกไปว่าคุณเป็นแฟนของฉันน่ะ ดังนั้น……”

“ห๊ะ?” หลี่ฝางอึ้งไป

เขาเองก็คิดถึงวันที่เขาตั้งใจจูบฟางหยู่ถงได่ เพื่อทำให้คนที่ซุบซิบนินทานั้นโกรธเคือง

นี่ มันเหมือนต้องเป็นไปตามกรรมที่ก่อแล้วล่ะ……

หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น

ไท่ซางที่อยู่ข้างๆ นั้นเปลี่ยนไปเป็นอิจฉาไปแล้ว ทำไมพวกสาวสวยถึงคิดแต่จะเข้าหาหลี่ฝาง ถึงขนาดพูดว่าให้เขาเป็นแฟนของตัวเองได้เลยล่ะ?

หรือว่าเพราะเขาเป็นพี่ใหญ่?

เมื่อเห็นหลี่ฝางหัวเราะอย่างขมขื่น ฟางหยู่ถงก็คิดว่าเขาจะปฏิเสธ เลยร้อนใจขึ้นมา

ถ้าเกิดว่าให้ย่ารู้ว่าตัวเองโกหก แล้ววันนั้นถูกคนแปลกหน้าจูบเข้า ย่าจะต้องโกรธจนเป็นอะไรไปแน่นอน!

เมื่อคิดแบบนั้น ฟางหยู่ถงก็จับมือของหลี่ฝาง ก่อนจะขอร้องด้วยความน่าสงสาร “ขอร้องล่ะคุณช่วยฉันในครั้งนี้เถอะนะ แค่ครั้งเดียวเท่านั้น อย่าให้ย่าของฉันกังวล จะไม่มีครั้งหน้าแล้ว ได้ไหม?”

หลี่ฝางได้บ่ายเบี่ยง เพราะถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเขาที่ทำให้มันเกิดขึ้น เลยต้องให้เขาเป็นคนแก้มัน

……

เมืองจินซานมีเขตของคนรวยอู้ฟู่ บ้านพักทุกหลังของที่นี่ราคาร้อนล้านขึ้นไปทั้งนั้น คนเลยเรียกกันว่าเขตของคนรวย มีเพียงคนรวยที่มีชื่อเสียงเท่านั้นที่จะได้เข้ามาอยู่

คนธรรมดามีบ้าน แต่ฐานะทางสังคมไม่มากพอก็ไม่มีสิทธิ์มาซื้อบ้านที่นี่

ส่วนตระกูลฟางมาพักอยู่ที่นี่

ตอนที่ตามฟางหยู่ถงมาที่เขตนี้ หลี่ฝางก็ตกใจเพราะฐานะทางบ้านของฟางหยู่ถงเล็กน้อย

แต่ ก็เป็นแบบนี้ไป ฐานะและอำนาจของหลี่ฝางในวันนี้ มีของเพียงไม่กี่อย่างในโลกที่เขาอยากได้แต่จะไม่ได้มันมา

ในตอนนี้หน้าประตูของบ้านพักมีรถหรูจอดอยู่มากมาย แบบที่ธรรมดาที่สุดคือราคาราวๆ ล้าน ก็เพียงพอที่จะมองออกแล้วว่าคนที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้เป็นอย่างไร

เมื่อทั้งสองคนมาถึงประตูใหญ่ บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ทั้งสองข้างทาง ก็คือคนทั้งสองที่แอบปกป้องฟางหยู่ถงล่ะ

เมื่อได้เจอหลี่ฝางมา ทั้งสองคนก็โค้งให้หลี่ฝางด้วยความเคารพเป็นอย่างมาก ก่อนจะช่วยเขาเปิดประตูด้วยความเคารพ

ถึงอย่างไร หลี่ฝางก็แสดงพลังของตัวเองในวันนั้น พวกเขาทั้งสองนั้นอาจจะมีความรู้สึกกันอย่างชัดเจนที่สุด

ในตอนนี้มีคนมากมายรวมตัวกันอยู่ในบ้านพักตากอากาศ ทั้งหมดเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองเมืองจินซานทั้งนั้น ในตอนนี้ก็เริ่มพูดคุยกันอยู่

สำหรับพวกเขา งานดื่มฉลองหรืองานเลี้ยงฉลองอะไร ก็ถือเป็นโอกาสในการทำให้พวกเขามีเส้นสายที่มากขึ้น

แต่ฐานะของตระกูลฟางนั้น การเชิญคนมานั้นไม่มีใครที่มีฐานะต่ำต้อยเลย

เพียงไม่นาน ก็มีคนพบฟางหยู่ถงที่มาอยู่ที่นี่

“หยู่ถง!คุณมาแล้วเหรอ!” คนวัยหนุ่มสาวที่แต่งตัวอย่างเต็มยศยิ้มพลางเดินเข้ามา ก่อนจะมองฟางหยู่ถงด้วยแววตาที่รักใคร่

“ช่วงนี้ยุ่งมากเลย เลยไม่มีเวลามาหาคุณเลย ฉันหาเวลามาเจอคุณได้ก็ตอนที่ฉันว่างแล้วคุณไลฟ์นั่นแหละ!”

เขาพูดเหมือนกับว่าตัวเองสนิทสนมกับฟางหยู่ถงเป็นอย่างมาก คนที่ได้ฟังคำนี้อาจจะคิดว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน

ฟางหยู่ถงพยักหน้าให้คนวัยหนุ่มสาว โดยไม่พูดอะไร

ท่าทีแบบนี้ ทำให้คนวัยหนุ่มสาวที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปพูดจาโม้ บรรยากาศก็เริ่มอึดอัดขึ้นมา

คนวัยหนุ่มสาวยิ้มหวานเล็กน้อย จู่ๆ ก็มองมาทางหลี่ฝาง พลางถาม “หยู่ถง นี่คือใครเหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท