NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1167 ถ่ายทอดคำพูด

บทที่ 1167 ถ่ายทอดคำพูด

ในชั่วพริบตา ความประหลาดใจได้ท่วมท้นในใจของเขา กระทั่งทำให้ไท่ซางระเบิดพลังออกมา ทำให้ทั้งสามคนกระเด็นออกไป

”ลูกพี่!” ไท่ซางตะโกนด้วยความประหลาดใจ

ทั้งสามก็หันกลับมา กลับไม่มีวี่แววอะไรเลย

” มันหลอกพวกเรา?” ทั้งสามหันกลับไปก็พบว่าไท่ซางกำลังยืนกอดอกเยาะเย้ยพวกเขาด้วยใบหน้าที่มีความสุข ทันใดนั้น ก็มีเสียงแว่วเข้ามาในหูของทั้งสามคน

“พวกแกสามคนก็แค่พวกขี้แพ้ ยังกล้ามาลองดีกับฉันอีก?”

ทันใดนั้น ทั้งสามกลัวตัวสั่นเมื่อได้หันมาเจอกับหลี่ฝางด้วยใบหน้าที่กำลังเยาะเย้ย

“เดี๋ยวก่อน พวกเรามีพระบรมราชโองการของฝ่าบาทให้แก! “ทั้งสามค่อยๆเดินทอยหลัง ในขณะเดียว มีบ้างสิ่งถูกโยนออกมาถึงหลี่ฝาง

หลี่ฝางเอื้อมมือออกไปคว้ามันโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นตาของหลี่ฝางเป็นประกายขึ้นมาทันใด

ร่างของอาซาโทสปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดคิดในหัวของเขา

แม้จะเป็นเพียงภาพลวงตาของอาซาโทสแต่ทุกอย่างดูน่าเกรงขาม

“ฉันกำลังจะกลายเป็นพระเจ้า”

ประโยคที่แม้แต่หลี่ฝางยังรู้สึกหวาดหวั่น

“ตอนนี้ฉันให้แกเลือกสองทาง”

“หนึ่ง แกจงมาเป็นทาสจงรักภักดีต่อฉันชั่วนิรันดร์ แกจะได้กลายเป็นแม่ทัพภายใต้คำสั่งของฉัน และแกจะได้สุขเสพความมั่งคั่งไปชั่วชีวิต”

หลี่ฝางออกเสียงเย้ยหยัน

“สอง ให้ฉันลงมือฆ่าแกเอง ถือว่าเป็นรางวัลหากแกเลือกข้อนี้”

ที่อาซาโทสพูดมันเรียบง่ายและเพียงไม่นาน เงาก็เลือนหายไป

เหรียญทองคำตกไปอยู่ในมือของหลี่ฝาง โดยมีลายอาซาโทสติดอยู่

“สรุปแล้วเคยทำสิ่งนั้นแล้วหรือยัง?” หลี่ฝางยิ้มเบาๆในใจ ฉันเข้าไปในเหรียญนั้นแล้ว

“พวกแกสามคนรีบหนีไปเถอะ” เขาเหลือบมองทั้งสามอย่างเฉยเมย

ทั้งสามคนไม่กล้าที่จะอยู่ต่อแต่อย่างใด และรีบวิ่งออกไปให้พ้นสายตา

“พี่ใหญ่ ไอเจ้าอาซาโทสให้อะไรไว้” ไท่ซางเห็นท่าทีไม่น่าจะพอใจของหลี่ฝาง เขาได้เอนตัวไปข้างหน้าและถามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ

“ไม่มีอะไร ไปเถอะ” หลี่ฝางรีบเก็บเหรียญนั้น หายใจออกช้าๆ “ขอบใจสำหรับความลำบากครั้งนี้นะ”

“ลำบากอะไรกัน เศษสวะแบบนั้นต่อให้มาอีกสามตัวเดี๋ยวจะตบให้ล่วงเลย” ไท่ซางพูดด้วยน้ำเสียงหัวเราะ

“เยี่ยม ถึงเวลานั้นฉันจะให้นายเป็นคู่มือปราบเจ้าอาซาโทส” หลี่ฝางหัวเราะไท่ซางด้วยความชอบใจ

“ฉัน…ฉันแค่พูดเล่นนะพี่ใหญ่…” ไท่ซางพูดอย่างขมขื่น

“ฉันก็ด้วย” หลี่ฝางยิ้ม “ฉันจะช่วยให้นายต่อสู้เพื่อฝ่าฟันอุปสรรค มาลองพยายามกัน”

ทันใดนั้น ไท่ซางก็เกือบจะโง่กับความสุขที่ตกลงมาจากฟากฟ้า

……

การกลับมาของหลี่ฝาง ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม

ผู้ที่ผิดสัญญา ปฏิเสธ และเย็นชากับตระกูลหยางไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกมันรีบตรงดิ่งไปที่บ้านตระกูลหยางเพื่อทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม เพื่อเป็นการเยินยอ เพียงเพราะกลัวว่าตระกูลหยางจะชำระบัญชีในภายหลัง

มีหลี่ฝางอยู่ ตระกูลหยางจะไม่มีปัญหาอีกต่อไป

และนายท่านหยางถูกฝังด้วยหลุมศพที่สวยงามและล่องลอยอย่างมีชีวิตชีวาในที่สุด ทุกๆพวงหรีดที่ทุกฝ่ายส่งมาจากคฤหาสน์ตระกูลหยางไปยังหลุมฝังศพของบรรพบุรุษตระกูลหยาง

ญาติๆและเพื่อนพ้องแสดงความเสียใจดูเหมือนจะร้องไห้หนักกว่าคนในครอบครัวตระกูลหยางเสียอีก

……

ในห้อง หลี่ฝางหมุนเหรียญทองในมือของเขา สีหน้าครุ่นคิดไปมา

หยางฉงเดินเข้ามาและถามเบา ๆ “นายกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”

หลี่ฝางนำเหรียญให้เธอดู หยางฉงด้วยความสงสัยว่า “นี้คืออะไร”

เป็นของที่อาซาโทสให้ไว้ “ฉันอยากลองลวงความลับข้างในของอาซาโทส”

หลี่ฝางถอนหายใจ

“น่าเสียดายที่ไม่ได้อะไรเลย”

“เอาล่ะ” คิดไม่ออกก็ปล่อยไว้ก่อน

หยางฉงลูบมือหลี่ฝางเบา ๆ เพื่อให้หลี่ฝางคลายความความเครียด

“ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ คิด” ไม่ทันขาดคำหลี่ฝางก็นึกออก

หลี่ฝางถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อันที่จริงแล้ว ตั้งแต่เข้าไปลอบสังหารจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

เมื่อหลี่ฝางพร้อมที่จะผ่อนคลายด้วยการนวดจากหยางฉง เสียงเรียกอาหารมาส่งจากข้างนอกปลุกเขาให้ตื่น

และในโต๊ะกลมนั้น มีเด็กหญิงแปลกหน้ากำลังโอ๋ทารกร้องไห้เงียบๆ มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งจากตระกูลหยางคอยดูแลหญิงสาวแปลกหน้าและดุหยางโล่จื้อที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

นอกจากพวกเขาทั้งสอง ยังมีคนอื่นๆ อีกสองสามคนที่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และมีบางคนที่ดูตื่นเต้น และยังมีแขกบางคนที่มาบ้านของตระกูลหยางมาพร้อมด้วยความร่าเริง

นี่คือภาพของหยางฉง เมื่อเขาเข้าใกล้

“นายกำลังทำอะไร” หยางฉงกล่าว

แม้ว่าเสียงของเธอจะไม่ดังทั้งยังเงียบสงบ แต่เธอก็ทำให้ผู้ชมเงียบสงบลงทันที

คนรอบข้างรีบถอยห่างและปล่อยให้หยางฉงเดินมา

มองหยางฉงเดินลงมา หยางโล่จื้ออดไม่ได้ที่จะสั่น ราวกับว่าจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นทำให้เธอเกิดกลัวหยางฉง

เมื่อหยางฉงเห็นหยางฉง เขาก็ขมวดคิ้ว

“ใครปล่อยแกออกมา?”

“ฉันผิดไปแล้ว คุณพี่ ฉันพยายามจะแก้ไขแล้ว แก้ไขแล้วจริงๆ” หยางโล่จื้อเธอคิดถึงความคับข้องใจที่ถูกกักขังในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา และกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หยางฉง ถอนหายใจอย่างเย็นชา เธอเองก็รู้นิสัยของหยางโล่จื้อเป็นอย่างดี จะเป็นไปได้อย่างที่เธอถูกขังไปแค่สองสามวันแล้วจะเปลี่ยนไปขนาดนี้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท