และในตอนนี้เองฟางหยู่ถงก็ได้เดินเข้ามา พร้อมกับรอยยิ้มอิดออดบนใบหน้า
“พวกเจินเจินไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?” ฟางหยู่ถงเอ่ยถาม
“ไม่ ผมจะหน้าไม่อายรั้งให้พวกเธออยู่เป็นเพื่อนผู้ชายอกสามศอกคนหนึ่งได้ยังไง?” หลี่ฝางยิ้ม เห็นฟางหยู่ถงสีหน้าไม่ค่อยจะดีนัก เลยเอ่ยถาม: “เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรที่รบกวนใจขึ้นงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไรหรอก” ฟางหยู่ถงส่ายหัว ไม่ได้บอกคำพูดในใจของตัวเองออกมา
เพราะถึงยังไง สถานะของหลี่ฝางก็เป็นเพียงการแสดงละครชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่แฟนจริง ๆ สักหน่อย อารมณ์ความรู้สึกของเธอ ไม่เหมาะที่จะเล่าให้หลี่ฝางฟัง
ฟางหยู่ถงไม่พูด ก็ไม่ค่อยจะดีนักถ้าหลี่ฝางจะถามต่อ จึงจดจำเรื่องนี้เอาไว้ในใจก่อน
ในตอนนี้เอง ฟางจื้อก็ได้เห็นหลี่ฝางและฟางหยู่ถงอยู่ด้วยกันจากที่ที่ไม่ไกลออกไปนัก อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพินิจพิจารณาหลี่ฝาง
ก่อนหน้านี้เพราะความรังเกียจอย่างบอกไม่ถูก เขาจึงไม่ได้พินิจพิจารณาหลี่ฝางอย่างละเอียด ดังนั้นเขาจึงไม่พบความผิดปกติใด ๆ ของหลี่ฝาง
แต่ทว่าในตอนนี้ เขาก็ได้ค่อย ๆ ค้นพบความแตกต่าง
ถึงแม้ดูเผิน ๆ แล้วหน้าตาของหลี่ฝางไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ทว่ายิ่งดูนาน ๆ ไป ยิ่งพบว่าหลี่ฝางนั้นยากที่จะหยั่งถึง ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่สามารถมองออก
และยิ่งดู ๆ ไป ฟางจื้อก็รู้สึกถึงพลังอันมหาศาลได้แผ่ซ่านออกมาจากตัวหลี่ฝาง กลายเป็นความกดดันทับถมเข้าที่ร่างของเขาเป็นชั้น ๆ ทำเขาค่อย ๆ รู้สึกว่าแทบจะทนรับไม่ได้
ในตอนที่ฟางจื้อกำลังคิดว่าตัวเองจะต้องคุกเข่าลงไปบนพื้นนั้นเอง จู่ ๆ เสียงของหลี่ฝางก็ได้ดังขึ้นมา
“คุณลุงครับ คุณลุงมองผมอยู่ตรงนี้ตั้งนาน มีอะไรอยากจะถามผมหรือเปล่าครับ?”
จากคำพูดประโยคนี้ของหลี่ฝาง แรงกดดันมหาศาลของเขาก็ได้หายวับไปทันที
วินาทีนี้ สายตาที่ฟางจื้อมองหลี่ฝาง ก็ไปเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ชายหนุ่อายุยังน้อยคนนี้ ไปเอาพลังรัศมีที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาจากที่ไหนกัน?
ในตอนที่ฟางจื้อกำลังลังเล ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากยังไงอยู่นั่นเอง จู่ ๆ หลี่เฉิน หยางเทียนลี่ และเจ้าพ่อคนนั้นทั้งสามคนก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกัน
ทันทีทันใด มุมเล็ก ๆ แห่งนี้ก็ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย
ได้ยินเพียงเจ้าพ่อที่มีชื่อว่าเหอกวงคนนั้นเอ่ยขึ้นเป็นอันดับแรก: “พี่ฟาง ก่อนหน้านี้พูดซะดิบดีไม่ใช่เหรอว่าจะแนะนำลูกสาวให้กับลูกชายของผม ตอนนี้นับว่ายังไงกันล่ะทีนี้?”
เมื่อได้ยินเหอกวงเอ่ยปาก หลี่เฉิน คุณพ่อของซูจื้อเย่ของก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา: “พี่ฟาง ลูกชายของผมชอบพอหยู่ถง ไม่มีใครไม่รู้ คุณควรจะให้โอกาสเขาสักครั้งใช่ไหม?
กล่าวไป เขาก็พลางกวาดตามองหลี่ฝางอย่างเหยียดหยาม
ฟางจื้อเผชิญหน้ากลับทั้งสองคน ก็เกิดลังเลตัดสินใจไม่ได้ขึ้นมาทันที
เพราะถึงยังไงทั้งสองตระกูลนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ มันทำให้เขาตัดสินใจไม่ได้ เลือกยากมากจริง ๆ
สำหรับข้อสงสัยที่มีต่อหลี่ฝางเมื่อสักครู่นั้น เพราะคำถามที่โพล่งออกมาของคนทั้งสอง จึงทำให้เขาได้สะบัดมันออกจากสมองไปในทันที
และทั้งสามคนที่เดินเข้ามาในตอนนี้ มีเพียงหยางเทียนลี่ที่ไม่ได้เอ่ยปาก พลันทำให้อีกสองคนนั้นรู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที
“พี่หยาง คุณไม่ได้มาเพราะลูกชายของคุณหรอกเหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” เหอกวงเอ่ยถาม: “คงไม่ใช่เพราะหยู่ถงมีแฟนแล้ว คุณก็เลยล้มเลิกความคิดนี้ไปหรอกใช่ไหม?”
“โถ่เอ๊ย นั่นเพียงแค่พวกเด็ก ๆ เขาเล่นกัน แฟนไม่แฟนอะไรกันล่ะ” ฟางจื้อรีบกล่าวทันที: “พี่หยางอยากจะพูดอะไรก็พูดมาตรง ๆ เลย ตระกูลฟางของผมไม่รับรปภ. เล็กแบบนี้เป็นเขยให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรอก!”
ได้ยินคำพูดของพ่อตัวเอง จู่ ๆ ฟางหยู่ถงก็ทนไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง ดึงหลี่ฝางเตรียมจะจากไป
ในเวลานี้ฟางจื้อกลับไม่มีเวลาจะมาสนใจอารมณ์ลูกสาวของตัวเอง แต่กำลังมองไปที่หยางเทียนลี่ด้วยอย่างรอคอยเล็กน้อย
เพราะถึงยังไง ตระกูลหยางก็ได้ปีนป่ายเข้าหาปรมาจารย์กำลังภายในสำเร็จ ตำแหน่งในอนาคตจะต้องสูงขึ้นเรื่อย ๆ แน่ เกรงว่าทั่วทั้งเมืองจินซาน คงไม่มีอิทธิพลใด ๆ ที่จะสามารถขัดขวางการพัฒนาของตระกูลหยางได้
ตอนนี้ในสายตาของฟางจื้อ ตระกูลหยางถึงเป็นตัวเลือกอันดับแรก ถ้าหากหยางเทียนลี่ก็มาเพื่อขอลูกสะใภ้ให้กับลูกชายตัวเองเหมือนกันล่ะก็ เช่นนั้นเขาก็จะตัดสินใจได้ในทันที
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฟางจื้อ สายตาของหยางเทียนลี่ยิงผิดแปลกไปกว่าเดิม
ตอนนี้สายตาที่เขามองฟางจื้อนั้นราวกับกำลังมองไอ้โง่คนหนึ่งอยู่ แฟนของลูกสาวตัวเองนั้นเป็นใครมาจากไหน ไปสืบมาให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยพูดไม่ได้เหรอ?
เพียงแค่ฟางจื้อไปสืบหาข้อมูลมาสักเล็กน้อย หลี่ฝางที่เป็นหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้เป็นคนในบริษัทของหยางฉง และสืบให้ลึกเข้าไปอีกนิด ก็จะสามารถรู้ตัวตนที่แท้จริงของหลี่ฝางได้แล้ว
ยังจะมาพนักงานรักษาความปลอดภัยเล็ก ๆ? ยังจะมาลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง? ดูนายวาดฝันซะสวยงามเลย!
แต่ทว่าคำพูดเหล่านี้เขาจะไม่พูดออกมาหรอก เพราะถึงยังไงก็มีการเตือนที่ไร้เสียงจากหลี่ฝาง เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรมั่วซั่วหรอกนะ
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเรื่องอะไรกัน ตระกูลของเขาพึ่งจะอาศัยความสัมพันธ์ของหยางฉงถึงได้สร้างความสัมพันธ์กับหลี่ฝางได้แท้ ๆ ตอนนี้หลี่ฝางได้มามีความสัมพันธ์กับลูกสาวตระกูลฟาง จะให้เขาเอ่ยปากผลักไสภูเขาที่คอยหนุนหลังลูกนี้ออกไปได้ยังไง
“คุณพูดสักคำสิ เหล่าหยาง?” ฟางจื้อกล่าวอย่างกระวนกระวายเล็กน้อย
หยางเทียนหลี่หมดคำจะพูดจริง ๆ ตอนนี้เขายังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?
“นายท่านเย่นมาแล้ว!”
ณ เวลานี้พลันมีเสียงตะโกนดังลอยมาจากด้านนอก ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะมองไปทางนั้น ก็เห็นว่าผู้ชายรูปร่างใหญ่โตคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาพลางหัวเราะเสียงดัง
“เป็นนายท่านเย่นจริง ๆ ด้วย!” จู่ ๆ ฟางจื้อก็อุทานขึ้นมา และกล่าวอย่างรีบร้อน: “ไปต้อนรับนายท่านเย่นกันก่อน!”
ทันทีทันใด ทุกคนต่างก็ได้วางเรื่องราวตรงหน้าลง และเดินไปทางดด้านนอกพร้อมกัน
การต้อนรับเช่นนี้ แม้แต่ในระดับเดียวกันกับนายท่านหวางอย่างเหอกวงก็ไม่สามารถสัมผัสได้
สืบหาสาเหตุ ง่ายนิดเดียว เหอกวงเป็นเพียงกำลังภายนอกช่วงหลัง แต่นายท่านเย่น กลับเป็นแดนสุดกำลังภายนอก ไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่ง อาจกลายเป็นปรมาจารย์ในยุทธภพก็ได้
นายท่านเย่นที่มีอายุเพียงสี่สิบกว่าในวันนี้ เพียงแค่สำเร็จถึงขั้นปรมาจารย์ ก็จะกลายเป็นผู้รักษาการด้านหนึ่ง มีอนาคตที่ยาวไกลจริง ๆ