และหลี่ฝางที่ในช่วงนี้มีคนมากมายพูดถึง ก็กำลังนั่งกินบางอย่างอยู่ที่ร้านข้างทาง
“หมี่นี่รสชาติไม่เลวจริงๆ” หลี่ฝางซดน้ำบะหมี่จนเกลี้ยงอย่างพอใจเล็กน้อย เขาเงยหน้า และสูดหายใจเข้า
อันที่จริงกินตอนนี้กินเจ้าสิ่งนี้สำหรับหลี่ฝางแล้วดีกว่าไม่ได้กินอะไรเลย ก็แค่มาชิมรสชาติเท่านั้น
เมื่อที่เขาอยู่ตอนนี้คือเมืองจินซานเป็นที่ที่ไม่เข้าตาเท่าไหร่ ถนนด้านหน้ามีรถวิ่งอยู่ไม่มาก คนเดินผ่านก็มีไม่กี่คน ค่อนข้างแตกต่างจากใจกลางเมืองที่คนพลุกพล่าน มีความรู้สึกผ่อนคลายที่หาได้ยาก
ในตอนนี้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว โต๊ะข้างๆ หลี่ฝางก็มีชายวัยกลางคนคนนึงกินหมี่เสร็จ และขึ้นไปขี่จักรยานไฟฟ้าเตรียมตัวจะออกไป
ขณะที่จักรยานไฟฟ้าเพิ่งจะลงถนน จู่ๆ ก็มีรถคันนึงพุ่งเข้ามา และหักรถอย่างแรงจนพุ่งเข้าไปกวาดจักรยานไฟฟ้าจนล้ม
ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนก็ร้องเจ็บขึ้น และล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง
คนที่อยู่ข้างถนนก็รีบพุ่งเข้าไป ย้ายรถจักรยานไฟฟ้าออก และตรวจดูสภาพชายวัยกลางคน
“ไอ้หลิว ขานายไม่เป็นไรใช่มั้ย!” มีคนนึงพูดขึ้นเสียงดัง
ส่วนรถหรูคันนั้นก็จอดลงตรงกลางถนน ชายหนุ่มกระโจนลงมาจากรถและตะโกนด่าใส่กลุ่มคน: “นายตาบอดหรือยังไง!เดินก็ไม่ดูรถ ขูดรถฉันเป็นรอยหมด รีบชดใช้ค่าเสียหายมาเลย!”
ที่นั่งข้างคนขับยังมีสาวฮ็อตคนนึงเดินลงมา เดินเข้ามาซุกข้างชายหนุ่มคนนั้นและมองไปที่กลุ่มคนด้วยความดูถูก
“เป็นนายที่มาชนเขาก่อนนะ!”
“นายพุ่งเข้ามาจากทางแยก จะให้คนเขาหลบยังไง!”
ทันใดนั้นคนรอบข้างก็พากันโวยวายใส่ชายหนุ่มด้วยความโมโห
“อยากตายนักหรือไงพวกแก!กล้ามาหาเรื่องฉันหยางโล่จื้อ!” ชายหนุ่มยังคงพูดอย่างอวดดี “รู้มั้ยว่าฉันเป็นคนตระกูลหยาง!แต่ละคนใช้ชีวิตมาพอแล้วใช่มั้ย?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้หลี่ฝางก็เกือบขำลั่น หยางโล่จื้อ? คนที่กล้าคิดชื่อนี้ขึ้นมาก็ช่างกล้าจริงๆ นะ!
และคนพวกนี้เมื่อได้ยินคำว่าตระกูลหยางคำนี้ก็เริ่มกลัวเล็กน้อย ตระกูลใหญ่ยักษ์อย่างตระกูลหยาง เป็นตระกูลที่พวกเขายุ่งด้วยไม่ไหว
“รีบไสหัวออกไปจากหน้าฉันให้หมด!” หยางโล่จื้อตะโกนอย่างโอหังสุดๆ : “รีบจ่ายค่าเสียหายมา!ไม่มีเงินแสนนึง เรื่องวันนี้ก็ไม่จบ!”
“โล่จื้อนายเก่งจัง” สาวฮ็อตที่อยู่ด้านข้างก็เข้ามาเกาะ
“พวกคนจนพวกนี้มันสวะ!” หยางโล่จื้อโอบสาวฮ็อตเข้ามาอย่างพอใจและพูด “อีกแป๊บเขาให้เงินมาฉันจะไปซื้อกระเป๋าให้เธอนะ จากนั้นพวกเราก็……”
“โล่จื้อนายดีกับฉันที่สุดเลย……” ดวงตาคู่นั้นของสาวฮ็อตเป็นประกาย พลางพูดอ้อน
“เรื่องนี้เป็นความผิดของนาย ทำไมต้องให้คนอื่นจ่ายค่าเสียหาย!” หนึ่งคนที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปก็พูดขึ้น
“เ**ดแม่ง!” เมื่อหยางโล่จื้อได้ยินว่ามีคนค้าน ทันใดนั้นก็โมโหสุดๆ และง้างมือขึ้นเตรียมตบเข้าไปที่คนคนนั้น
และในตอนนั้น ก็มีมือนึงยื่นเข้ามาจับมือเขาไว้
“ชดใช้ และไสหัวไป!” หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา
“แกอยากหาที่ตายเหรอ!กล้ามาเสือกเรื่องชาวบ้าน เชื่อมั้ยฉันจะส่งคนมาจัดการนายให้เละ!” หยางโล่จื้อคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้ามาหาเรื่องเขา ทันใดนั้นก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ประหลาดใจเล็กน้อย: “นายไม่รู้จักฉันเหรอ?”
“แกมันตัวอะไรทำไมฉันต้องไปรู้จักแกด้วย!” หยางโล่จื้อด่าด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
“จอมยุทธ? คิดว่าตัวเองฝึกกระบวนท่าได้สองสามท่าก็เก่งแล้วงั้นเหรอ? รู้มั้ยว่าพี่เขยฉันเป็นใคร!ปรมาจารย์กำลังภายในหลี่ฝาง!เชื่อมั้ยว่าฉันจะโทรหาพี่เขยเรียกให้เขามาอัดแกให้ตาย!”
“เหอะๆ ……” หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา “เห็นทีนายคงไม่รู้จักฉันจริงๆ สินะ”
“ฉัน……” หยางโล่จื้อยังจะด่าต่อ จู่ๆ ก็มีฝ่ามือหนักๆ เข้ามากระทบหน้าเขาอย่างแรง
ฝ่ามือนี้ตบจนทำหยางโล่จื้อกระเด็นออกไป หมุนตัวสามตลบกลางอากาศก่อนจะร่วงลงพื้น โดนตบจนมึน บนหน้าก็บวมแดงขึ้นอย่างเร็ว
“แก แกกล้า……”
หลี่ฝางสะบัดมืออย่างนิ่งๆ แล้วพูด: “ไอ้หมาไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่”
“นายอยากตายเหรอ!” หยางโล่จื้อโมโหสุดขีด ใบหน้าที่โมโหกับถูกตบจนบวมกระตุกอย่างโหดเหี้ยม และควักมีดออกมาเล่มนึงแล้วแทงไปทางหลี่ฝาง
ตั้งแต่รู้ว่าตระกูลของตนมีปรมาจารย์กำลังภายในคอยให้ท้ายอยู่ หยางโล่จื้อก็ไม่เห็นเรื่องอะไรอยู่ในสายตาแล้ว
ปรมาจารย์กำลังภายในเก่งกาจขนาดนั้น ถึงแม้เขาจะแทงคนไปแล้วมันยังไง? เขาไม่เชื่อหรอกว่าไอ้พี่เขยนั้นจะไม่สนใจไยดีเขา!
สิ่งที่รอหยางโล่จื้อ ก็คือฝ่ามือของหลี่ฝาง
ฝ่ามือนี้ทำเอาหยางโล่จื้อปลิวขึ้นฟ้า ยังไม่ทันรอให้เขาตกลงมาที่พื้น ก็ตบเข้าไปอีกฝ่ามือนึง ทำให้เขากลายเป็นของที่หมุนอยู่กลางอากาศ โดนตบจนงงไปโดยสิ้นเชิง
เสียงดัง “ตุ๊บ” หน้าของหยางโล่จื้อก็กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง หน้าทั้งใบถูกหลี่ฝางตบจนบวมเหมือนหมู เมื่อโดนกระแทกยิ่งแดงยิ่งบวม เลือดกำเดาไหลออกมาซิบๆ หลังจากนั้นก็อ้วกออกมา ทั้งร้องไห้ทั้งอ้วก ร้องไห้โฮ เละเทะไปหมด
แต่หลี่ฝางก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เข้าไปถีบเขาล้มลง แล้วถามเสียงเข้ม: “นายยอมรับผิดมั้ย?”
“แก……” หยางโล่จื้อพูดไม่ชัดแล้ว “ฉัน เป็นคนตระกูลหยาง พี่เขยฉัน……เป็นกำลังภายใน ปรมาจารย์กำลังภายใน!”
หลี่ฝางเข้าไปถีบอีกครั้ง เตะหยางโล่จื้อไปข้างถนนอย่างกับเตะบอล ทั้งฝุ่นทั้งหญ้าติดบนหน้า ทั้งร่างภาพดูไม่ได้
“นายยังไม่รับผิดอีก!”
“ฉัน…..ฉันยอมรับผิดแล้ว!อย่าเตะเลย!ฉันผิดไปแล้ว!” หยางโล่จื้อไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว และอ้อนวอนขอความเมตตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ฉันจะจ่ายค่าเสียหาย!ต่อไปไม่กล้าแล้ว!”