NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1163 ตบของหลี่ฝาง

บทที่ 1163 ตบของหลี่ฝาง

และหลี่ฝางที่ในช่วงนี้มีคนมากมายพูดถึง ก็กำลังนั่งกินบางอย่างอยู่ที่ร้านข้างทาง

“หมี่นี่รสชาติไม่เลวจริงๆ” หลี่ฝางซดน้ำบะหมี่จนเกลี้ยงอย่างพอใจเล็กน้อย เขาเงยหน้า และสูดหายใจเข้า

อันที่จริงกินตอนนี้กินเจ้าสิ่งนี้สำหรับหลี่ฝางแล้วดีกว่าไม่ได้กินอะไรเลย ก็แค่มาชิมรสชาติเท่านั้น

เมื่อที่เขาอยู่ตอนนี้คือเมืองจินซานเป็นที่ที่ไม่เข้าตาเท่าไหร่ ถนนด้านหน้ามีรถวิ่งอยู่ไม่มาก คนเดินผ่านก็มีไม่กี่คน ค่อนข้างแตกต่างจากใจกลางเมืองที่คนพลุกพล่าน มีความรู้สึกผ่อนคลายที่หาได้ยาก

ในตอนนี้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว โต๊ะข้างๆ หลี่ฝางก็มีชายวัยกลางคนคนนึงกินหมี่เสร็จ และขึ้นไปขี่จักรยานไฟฟ้าเตรียมตัวจะออกไป

ขณะที่จักรยานไฟฟ้าเพิ่งจะลงถนน จู่ๆ ก็มีรถคันนึงพุ่งเข้ามา และหักรถอย่างแรงจนพุ่งเข้าไปกวาดจักรยานไฟฟ้าจนล้ม

ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนก็ร้องเจ็บขึ้น และล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง

คนที่อยู่ข้างถนนก็รีบพุ่งเข้าไป ย้ายรถจักรยานไฟฟ้าออก และตรวจดูสภาพชายวัยกลางคน

“ไอ้หลิว ขานายไม่เป็นไรใช่มั้ย!” มีคนนึงพูดขึ้นเสียงดัง

ส่วนรถหรูคันนั้นก็จอดลงตรงกลางถนน ชายหนุ่มกระโจนลงมาจากรถและตะโกนด่าใส่กลุ่มคน: “นายตาบอดหรือยังไง!เดินก็ไม่ดูรถ ขูดรถฉันเป็นรอยหมด รีบชดใช้ค่าเสียหายมาเลย!”

ที่นั่งข้างคนขับยังมีสาวฮ็อตคนนึงเดินลงมา เดินเข้ามาซุกข้างชายหนุ่มคนนั้นและมองไปที่กลุ่มคนด้วยความดูถูก

“เป็นนายที่มาชนเขาก่อนนะ!”

“นายพุ่งเข้ามาจากทางแยก จะให้คนเขาหลบยังไง!”

ทันใดนั้นคนรอบข้างก็พากันโวยวายใส่ชายหนุ่มด้วยความโมโห

“อยากตายนักหรือไงพวกแก!กล้ามาหาเรื่องฉันหยางโล่จื้อ!” ชายหนุ่มยังคงพูดอย่างอวดดี “รู้มั้ยว่าฉันเป็นคนตระกูลหยาง!แต่ละคนใช้ชีวิตมาพอแล้วใช่มั้ย?”

เมื่อได้ยินชื่อนี้หลี่ฝางก็เกือบขำลั่น หยางโล่จื้อ? คนที่กล้าคิดชื่อนี้ขึ้นมาก็ช่างกล้าจริงๆ นะ!

และคนพวกนี้เมื่อได้ยินคำว่าตระกูลหยางคำนี้ก็เริ่มกลัวเล็กน้อย ตระกูลใหญ่ยักษ์อย่างตระกูลหยาง เป็นตระกูลที่พวกเขายุ่งด้วยไม่ไหว

“รีบไสหัวออกไปจากหน้าฉันให้หมด!” หยางโล่จื้อตะโกนอย่างโอหังสุดๆ : “รีบจ่ายค่าเสียหายมา!ไม่มีเงินแสนนึง เรื่องวันนี้ก็ไม่จบ!”

“โล่จื้อนายเก่งจัง” สาวฮ็อตที่อยู่ด้านข้างก็เข้ามาเกาะ

“พวกคนจนพวกนี้มันสวะ!” หยางโล่จื้อโอบสาวฮ็อตเข้ามาอย่างพอใจและพูด “อีกแป๊บเขาให้เงินมาฉันจะไปซื้อกระเป๋าให้เธอนะ จากนั้นพวกเราก็……”

“โล่จื้อนายดีกับฉันที่สุดเลย……” ดวงตาคู่นั้นของสาวฮ็อตเป็นประกาย พลางพูดอ้อน

“เรื่องนี้เป็นความผิดของนาย ทำไมต้องให้คนอื่นจ่ายค่าเสียหาย!” หนึ่งคนที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปก็พูดขึ้น

“เ**ดแม่ง!” เมื่อหยางโล่จื้อได้ยินว่ามีคนค้าน ทันใดนั้นก็โมโหสุดๆ และง้างมือขึ้นเตรียมตบเข้าไปที่คนคนนั้น

และในตอนนั้น ก็มีมือนึงยื่นเข้ามาจับมือเขาไว้

“ชดใช้ และไสหัวไป!” หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

“แกอยากหาที่ตายเหรอ!กล้ามาเสือกเรื่องชาวบ้าน เชื่อมั้ยฉันจะส่งคนมาจัดการนายให้เละ!” หยางโล่จื้อคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้ามาหาเรื่องเขา ทันใดนั้นก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่

ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ประหลาดใจเล็กน้อย: “นายไม่รู้จักฉันเหรอ?”

“แกมันตัวอะไรทำไมฉันต้องไปรู้จักแกด้วย!” หยางโล่จื้อด่าด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“จอมยุทธ? คิดว่าตัวเองฝึกกระบวนท่าได้สองสามท่าก็เก่งแล้วงั้นเหรอ? รู้มั้ยว่าพี่เขยฉันเป็นใคร!ปรมาจารย์กำลังภายในหลี่ฝาง!เชื่อมั้ยว่าฉันจะโทรหาพี่เขยเรียกให้เขามาอัดแกให้ตาย!”

“เหอะๆ ……” หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา “เห็นทีนายคงไม่รู้จักฉันจริงๆ สินะ”

“ฉัน……” หยางโล่จื้อยังจะด่าต่อ จู่ๆ ก็มีฝ่ามือหนักๆ เข้ามากระทบหน้าเขาอย่างแรง

ฝ่ามือนี้ตบจนทำหยางโล่จื้อกระเด็นออกไป หมุนตัวสามตลบกลางอากาศก่อนจะร่วงลงพื้น โดนตบจนมึน บนหน้าก็บวมแดงขึ้นอย่างเร็ว

“แก แกกล้า……”

หลี่ฝางสะบัดมืออย่างนิ่งๆ แล้วพูด: “ไอ้หมาไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่”

“นายอยากตายเหรอ!” หยางโล่จื้อโมโหสุดขีด ใบหน้าที่โมโหกับถูกตบจนบวมกระตุกอย่างโหดเหี้ยม และควักมีดออกมาเล่มนึงแล้วแทงไปทางหลี่ฝาง

ตั้งแต่รู้ว่าตระกูลของตนมีปรมาจารย์กำลังภายในคอยให้ท้ายอยู่ หยางโล่จื้อก็ไม่เห็นเรื่องอะไรอยู่ในสายตาแล้ว

ปรมาจารย์กำลังภายในเก่งกาจขนาดนั้น ถึงแม้เขาจะแทงคนไปแล้วมันยังไง? เขาไม่เชื่อหรอกว่าไอ้พี่เขยนั้นจะไม่สนใจไยดีเขา!

สิ่งที่รอหยางโล่จื้อ ก็คือฝ่ามือของหลี่ฝาง

ฝ่ามือนี้ทำเอาหยางโล่จื้อปลิวขึ้นฟ้า ยังไม่ทันรอให้เขาตกลงมาที่พื้น ก็ตบเข้าไปอีกฝ่ามือนึง ทำให้เขากลายเป็นของที่หมุนอยู่กลางอากาศ โดนตบจนงงไปโดยสิ้นเชิง

เสียงดัง “ตุ๊บ” หน้าของหยางโล่จื้อก็กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง หน้าทั้งใบถูกหลี่ฝางตบจนบวมเหมือนหมู เมื่อโดนกระแทกยิ่งแดงยิ่งบวม เลือดกำเดาไหลออกมาซิบๆ หลังจากนั้นก็อ้วกออกมา ทั้งร้องไห้ทั้งอ้วก ร้องไห้โฮ เละเทะไปหมด

แต่หลี่ฝางก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เข้าไปถีบเขาล้มลง แล้วถามเสียงเข้ม: “นายยอมรับผิดมั้ย?”

“แก……” หยางโล่จื้อพูดไม่ชัดแล้ว “ฉัน เป็นคนตระกูลหยาง พี่เขยฉัน……เป็นกำลังภายใน ปรมาจารย์กำลังภายใน!”

หลี่ฝางเข้าไปถีบอีกครั้ง เตะหยางโล่จื้อไปข้างถนนอย่างกับเตะบอล ทั้งฝุ่นทั้งหญ้าติดบนหน้า ทั้งร่างภาพดูไม่ได้

“นายยังไม่รับผิดอีก!”

“ฉัน…..ฉันยอมรับผิดแล้ว!อย่าเตะเลย!ฉันผิดไปแล้ว!” หยางโล่จื้อไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว และอ้อนวอนขอความเมตตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ฉันจะจ่ายค่าเสียหาย!ต่อไปไม่กล้าแล้ว!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท