ในขณะนั้น ภายใต้การจับตามองของคนในงาน ในมือของหลี่ฝางก็ค่อยๆ รวมพลังงานจนเกิดมีดเล่มเล็กขนาดเท่าฝ่ามือ
ทันใดนั้นก็มีคนจำได้ ว่ามีดเล่มเล็กนั้นกับมีดเล่มที่สับภูเขาแยกออกจากกัน มันเหมือนกันเปี๊ยบ แต่แค่หดเล็กลงมาหลายเท่าแค่นั้น
เมื่อเห็นภาพนี้ ก็มีคนอยู่สองคนขยับพร้อมกัน
คนนึงคือหลิวฮุย เขากระโดดขึ้นไปบนเวทีสูง และกดไหล่ของหลี่ฝางไว้ อยากให้เขาได้สติกลับมา
แต่ว่าไม่รอให้เข้าประชิดตัวหลี่ฝาง หลิวฮุยก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่น่ากลัวสุดขีดบางอย่าง บินพุ่งเขามาที่ตัวเขา และกระแทกลงไปกับพื้น ทันใดนั้นพื้นก็แตกด้วยรอยแตกในแนวรัศมีที่นับไม่ถ้วน
อีกคนคือส้งหมิง เข้าพุ่งออกไป ออร่าแผ่กระจายไปทีละชั้น พลังทั้งหมดหดลงไป เตรียมตัวสกัดกั้นการโจมตีของหลี่ฝางที่จะโจมตีออกมาเมื่อไหร่ก็ได้
ขณะที่เข้าพุ่งตัวเข้าไป มีดเล็กในมือหลี่ฝางก็บินออกไป พอดีกับที่ส้งหมิงเข้ามาบังไว้
วินาทีต่อมา ก็มีเสียงที่คมชัดของทองและเหล็กประสานกัน ออร่าของส้งหมิงถูกทะลุทะลวงทันที จากนั้นร่างกายของเขาก็ถูกเจาะทะลุไปพร้อมกัน การสกัดกั้นของเขาดูเหมือนจะไม่เกิดผลเลย!
“อั่ก!” ส้งหมิงกระอักเลือดสดๆ ออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เขาคิดไม่ถึง ว่าเขาป้องกันสุดกำลัง เขายังไม่สามารถหยุดการโจมตีแบบสบายๆ ของหลี่ฝางได้เลยด้วยซ้ำ
ยังดีที่ว่า มีดนั้นแทงถูกซี่โครงของเขา ไม่ใช่บาดแผลที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ด้วยพละกำลังอันทรงพลังของปรมาจารย์กำลังภายใน เขาจึงไม่ตาย
ส่วนมีดเล่มเล็กหลังจากที่ทะลุผ่านร่างส้งหมิงไปแล้ว จู่ๆ ก็หยุดกลางอากาศ จากนั้น ก็ค่อยๆ สลายหายไป
และสิ่งที่สลายหายไปพร้อมกัน ก็ยังมีพลังงานอาฆาตที่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องโถงนี้
จากนั้น หลี่ฝางก็พูดอย่างเบาๆ ด้วยน้ำเสียงล้าๆ และไม่แยแส: “ลุกขึ้นเถอะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ในใจของจางหมิงเจ๋ก็รู้สึกราวกับรอดพ้นมาจากความตาย และพูดไปทางหลี่ฝางรัวๆ : “ขอบคุณมากครับคุณหลี่ ขอบพระคุณมากครับคุณหลี่!”
เขาพูด พลางรีบลุกขึ้น ไม่แม้แต่จะสนใจเช็ดเลือดบนหน้าผาก และลากคนในครอบครัวรีบวิ่งออกจากโรงแรมไป
ในตอนนั้นไม่มีใครสนใจการจากไปของจางหมิงเจ๋ ทุกคนค่อยๆ รู้สึกโล่ง รู้สึกว่าตนรอดแล้ว
เพียงชั่วพริบตาหลี่ฝางก็พุ่งเข้าไปปรากฏตัวด้านหน้าส้งหมิง และพยุงส้งหมิงที่อ่อนแอเล็กน้อย พลางมองท่าทีตอนกระอักเลือดของเขา และพูดอย่างรู้สึกขอโทษ: “ขอบคุณนะ”
โชคดีที่ส้งหมิงมาป้องกันเอาไว เขาถึงไม่ได้ลงมือฆ่าคนไปจริงๆ
ไม่อย่างนั้น ขอแค่ฆ่าไปคนแรก แรงอาฆาตก็จะปะทุออกมา เกรงว่าถึงตอนนั้น คนที่อยู่ในห้องโถงนี้คงจะไม่มีชีวิตรอดไปแม้สักคนเดียว
“งานเลี้ยงครั้งนี้สิ้นสุดแล้ว” หลี่ฝางลุกขึ้น และพูดอย่างเย็นชา
ในตอนนี้ส้งหมิงและหลิวฮุยต่างได้รับบาดเจ็บ งานเลี้ยงครั้งนี้หลี่ฝางไม่มีอารมณ์จัดต่อไปแล้ว
“ฉันพานายไปส่งโรงพยาบาล”
พูดประโยคนี้จบ หลี่ฝางก็พาส้งหมิงกับหลิวฮุยออกไป
เหลือเพียงกลุ่มคนในห้องโถงที่ยืนมองหน้ากัน สุดท้ายก็ยิ้มเจื่อนๆ อย่างไร้หนทาง
แม้แต่ปรมาจารย์กำลังภายในก็เกือบถูกฆ่าภายในวินาทีเดียว แบบนี้เป็นพละกำลังที่น่ากลัวจนพวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ และเป็นอีกครั้งที่ทำทุกคนช็อก
……
ไม่นาน ส้งหมิงกับหลิวฮุยก็ถูกทำแผลเรียบร้อย
หลิวฮุยยังดี แผลของส้งหมิงนั้นหนักกว่าเล็กน้อย มีดเล่มนั้นของหลี่ฝางมีกำลังภายในและแรงอาฆาตอยู่ในนั้น ทำให้อวัยวะภายในของเขานั้นถูกกัดกร่อน
ในตอนนี้ส้งหมิงนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ในหัวก็ไม่หยุดคิดถึงภาพที่หลี่ฝางลงมือ
ความแข็งแกร่งของหลี่ฝาง ทำให้เขาไม่เข้าใจ มันเป็นความแข็งแกร่งที่ไม่สมเหตุสมผลเลย
“นายไม่เป็นไรนะ?” หลี่ฝางที่นั่งอยู่ด้านข้างถาม
ส้งหมิงนึกถึงตอนแรกที่อยู่ที่ตระกูลชิว ถึงแม้ว่าหลี่ฝางจะแข็งแกร่ง อย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังสามารถมองเห็นว่าความแตกต่างของทั้งสองคนนั้นมากขนาดไหน ยังพอเห็นความหวังที่จะเร่งตามขึ้นไป
แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่รู้เลยว่าความสามารถของทั้งสองที่แท้จริงนั้นห่างชั้นกันมากมายขนาดไหน
ส้งหมิงยิ้มเจื่อนๆ และถามอย่างอดไม่ได้: “ตอนนี้นายแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?”
เมื่อเห็นรอยยิ้มเจื่อนๆ ของส้งหมิง หลี่ฝางก็ถอนหายใจอย่างไร้เสีย
“ความแตกต่างระหว่างครึ่งเทพกับจอมยุทธแดนเต๋านั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อเทียบระหว่างการฝึกวิทยายุทธขั้นแรกจนมาถึงแดนเต๋านั้นความต่างนั้นมันใหญ่กว่ามาก
ร่างกายของฉันในตอนนี้ เกรงว่าเป็นแต่ยีนยังถูกเปลี่ยนไปเลย ร่างกายยังเป็นมนุษย์อยู่มั้ยฉันยังไม่กล้ายืนยันเลย”
ได้ยินหลี่ฝางพูดแบบนี้ ส้งหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเฮือกยาวอีกครั้ง
“มนุษย์กับเทพ มีช่องว่างที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้จริงๆ สินะ!น่าเสียดาย ฉันไม่สามารถเห็นวันนั้นได้แล้ว”
ส้งหมิงถอนหายใจ และถามขึ้นอีกครั้ง: “หลังจากนี้นายคิดจะทำอะไร?”
“กลับไปบ้านสักรอบก่อน จัดการเรื่องบางอย่าง จากนั้นก็ฝึกความเคยชินกับพลังของครึ่งเทพ และก็แสวงหาขั้นสูงต่อไป” หลี่ฝางพูดไปตามจริง
“ได้ยินว่ากู่ยี่เทียน ก็ได้ปลีกวิเวกและพยายามฝึกเพื่อบรรลุครึ่งเทพมานานมากแล้ว ด้วยนิสัยของเขาแบบนี้ ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์แบบนี้” ส้งหมิงพูด
“ใช่แล้ว ถึงยังไงการต่อสู้ครั้งใหญ่ระดับโลก ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว” หลี่ฝางถอนหายใจพลางพูด “ยุคการครองอำนาจของครึ่งเทพ ก็ใกล้จะมาถึงแล้ว”
ในขณะนั้น โทรศัพท์บนตัวของหลี่ฝางก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นหยางฉงที่โทรมา หลี่ฝางรู้สึกว่าไม่ปกติ จึงรีบรับสาย
“หลี่ฝาง คุณปู่ของฉัน……”
เมื่อได้ยินเสียงหยางฉงร้องไห้พูดไม่รู้เรื่อง ในใจของหลี่ฝางก็หนักอึ้ง ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
นายท่านหยางเสียแล้ว
“หลี่ฝาง ทำยังไงดี……”
หยางฉงถามพลางสะอื้น
“เธอย่าเพิ่งรีบร้อน ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
ทันใดนั้นหลี่ฝาง ก็รีบพูดขึ้น: “ส่งนายท่านให้จากไปอย่างสงบเถอะ ให้คนในบ้านเธอคอยระมัดระวังตัวไว้ ถ้าหากมีปัญหาอะไร ก็ไปหาโจวซู รอฉันกลับไป!”
“นายรักษาตัวไปก่อนนะ!จากนี้ฉันค่อยกลับมาเยี่ยมนาย”
วางสายไป หลังจากหลี่ฝางพูดกับส้งหมิงแล้ว จึงรีบออกจากห้องผู้ป่วยไป