NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1173 คนที่คิดถึงทุกวันคืน

บทที่ 1173 คนที่คิดถึงทุกวันคืน

แต่เมื่อมือของเขาเพิ่งจะเอื้อมไปจับที่จับประตูก็ต้องชะงักไป เขากำมือพลางปล่อยมือ เป็นแบบนี้ซ้ำไปมาหลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าที่จะเปิดประตูรถ

“หลี่ฝาง แกนี่มันขี้ขลาดจริงๆ !” หลี่ฝางก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ ในตาก็มีแต่ความหงุดหงิดไม่พอใจ

ฉินวี่เฟยนั้นอยู่ไกลๆ แต่ก็เห็นรถมายบัคสีดำจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของตัวเอง ถึงแม้ทะเบียนรถจะไม่คุ้นตา แต่ไม่รู้ว่าทำไมในใจของฉินวี่เฟยนั้นกลับรู้สึกคุ้นเคยมาก เลยอดไม่ได้ที่จะมองไปหลายครั้ง

หลี่ฝางที่อยู่ในรถได้สบตากับฉินวี่เฟย ถึงแม้จะรู้ว่าเธอมองไม่เห็นตัวเอง แต่กลับรู้สึกกลับจนหดตัวลง เพื่อซ่อนตัวเองเอาไว้

ถึงแม้ในรถนั้นจะมืดดำ และมองอะไรไม่เห็นเลย แต่สัมผัสที่หกของผู้หญิงนั้นกลับทำให้ฉินวี่เฟยไม่ขยับฝีเท้า เธอคิดว่าในรถนั้นมีคน แถมคนในรถนั้นจะต้องเป็นคนที่เธอคิดถึงทุกวันคืนอย่างแน่นอน

เมื่อลังเลอยู่สักพัก ฉินวี่เฟยตัดสินใจเดินเข้าไปดูให้แน่ชัด หลี่ฝางนั้นมองฉินวี่เฟยที่เข้ามาใกล้มากข้นเรื่อยๆ ในใจก็แทบจะทะลุออกมาเลยทีเดียว

เขาที่ผ่านอะไรมามากมายแต่ก็เริ่มกลัวแล้ว มือทั้งสองนั้นก็มีเหงื่อแตกออกมา ขณะที่ฉินวี่เฟยอยู่ห่างจากรถเพียงไม่กี่ก้าวนั้น ก็มีรถเฟอร์รารีสีแดงขับเข้ามาอย่างกะทันหัน ก่อนจะมาจอดอยู่ตรงหน้าของเธอ

“สาวสวย ดึกขนาดนี้อยู่คนเดียวเหรอ?อยากมาสนุกกับพี่ชายไหม?” ในรถสปอร์ตนั้นมีชายอายุราวๆ ยี่สิบกว่าถึงสามคน แต่งตัวอย่างหล่อเหลา ส่วนคนที่ขับรถนั้นก็ผิวปากให้ฉินวี่เฟย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกี้ยวพาราสี

ใบหน้าของฉินวี่เฟยเย็นชาลง ก่อนจะเดินเข้าไปที่ประตูบ้าน โดยที่ไม่ได้มองชายสามคนนั้นเลย

“เห้อ อย่าเพิ่งไปเลย!เราไม่ใช่คนร้ายนะ แค่เห็นคุณสวยเท่านั้นเอง อยากเป็นเพื่อนด้วยเท่านั้นเอง” ไอ้ผมเหลืองที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับเมื่อได้เห็นฉินวี่เฟยกำลังจะไป ก็ลงจากรถก่อนจะขวางเธอเอาไว้ ด้วยใบหน้าที่หลงใหล ใบหน้านั้นมันน่ารังเกียจจนไม่รู้จะน่ารังเกียจอย่างไร

“ขอโทษด้วย ตอนนี้ฉันกำลังจะกลับบ้าน คุณหลบให้หน่อย” ฉินวี่เฟยโกรธเป็นอย่างมาก แต่ไม่กล้าใช้ไม้แข็ง เลยทำได้เพียงปฏิเสธความต้องการของไอ้ผมเหลือง

แต่ยิ่งฉินวี่เฟยปฏิเสธ ไอ้ผมเหลืองก็ยิ่งมีแรงมากขึ้น ก่อนจะยื่นมือออกมาขวางฉินวี่เฟยเอาไว้ ใบหน้านั้นก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาใกล้ฉินวี่เฟยมากขึ้น

“อย่ารีบปฏิเสธขนาดนั้น เหล่าพี่ๆ เป็นคนมีเงินทั้งนั้นเลย ถ้าเกิดว่ามาอยู่กับพวกเราสักคืน คุณจะได้ประโยชน์มากมาย มาให้หอมสักหน่อยเถอะ”

เมื่อพูดจบ ไอ้ผมเหลืองก็ยื่นมือออกมาจับใบหน้าของฉินวี่เฟย ก่อนจะเอาปากเข้ามาจูบเธอ ฉินวี่เฟยจะเคยได้รับความน่าน้อยใจแบบนี้ที่ไหนกัน เลยเอากระเป๋าของตัวเองมาฟาดใบหน้าของไอ้ผมเหลือง บัตรสีทองนั้นฟาดไปกับจมูกของไอ้ผมเหลือง เพียงไม่นานก็มีเลือดไหลออกมาจากรูจมูกของเขา

“ฮ่าๆ คุณชายหวง คุณถูกผู้หญิงคนหนึ่งตบเข้าให้แล้ว คุณไหวไหมนะ?”

“คุณชายหวง ไม่จำเป็นต้องอ่อนโยนกับผู้หญิงแบบนี้ ใช้ไม้แข็งไปเลยสิ”

……

คนอีกสองคนในรถเมื่อได้เห็นไอ้ผมเหลืองโดยทำร้าย ก็หัวเราะอยู่ในรถอย่างสนุกสนาน ชายที่ถูกเรียกว่าคุณชายหวงนั้นเช็ดเลือดที่จมูกของตัวเอง ก่อนจะถุยน้ำลายลงพื้น

“ถุย หญิงสารเลว ให้เกียรติดีๆ ไม่ชอบ!กล้ามาทำร้ายข้า คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ” คุณชายหวงด่าไปพลางจับแขนของฉินวี่เฟย ก่อนจะพยายามลากขึ้นไปบนรถ

ฉินวี่เฟยจะไปยอมที่ไหน เธอเลยยึดยื้อสุดกำลัง ตอนนี้เธอทั้งกลัวและก็ไร้ทางช่วยเหลือ ใครจะไปรู้ว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ที่หน้าบ้านของตัวเอง ถ้าหลี่ฝางอยู่ก็คงดี คงจะไม่มีใครมาแกล้งเธอได้

เธอเป็นเพียงหญิงบอบบางเลยสู้คุณชายหวงไม่ได้ แววตาก็เห็นเธอที่กำลังจะถูกลากขึ้นไป ฉินวี่เฟยตะโกนชื่อของหลี่ฝางสุดเสียงอย่างไร้ความหวัง

เมื่อได้ยินเสียงของหญิงที่ตัวเองรักตะโกนออกมา หลี่ฝางก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เลยเปิดประตูรถก่อนจะมาอยู่ที่ด้านหลังของคุณชายหวง ยังไม่ทันรอให้คุณชายหวงรู้ตัวว่าเขาปรากฏตัวขึ้น หลี่ฝางก็เตะไปไกลเป็นสิบเมตร

“วี่เฟย ขอโทษ ฉันกลับมาแล้ว” หลี่ฝางนั้นกอดฉินวี่เฟยที่มองด้วยความงุนงง ก่อนจะขอโทษเธอหลายครั้ง เพียงไม่นาน หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดก็มีสติกลับคืนมา ก่อนจะเอามือทั้งสองโอบเอวของหลี่ฝาง แล้วร้องห่มร้องไห้อย่างหนัก

“ฮือๆ ทำไมคุณเพิ่งกลับมาล่ะ?คุณไปอยู่ที่ไหนมาในช่วงนี้?ทำไมคุณไม่สนใจฉัน!ทำไมถึงทิ้งฉัน!”

ฉินวี่เฟยร้องไห้พลางใช้กำปั้นทุบอกของหลี่ฝาง ก่อนจะระบายอารมณ์ที่น้อยใจและไม่พอใจออกมา

หลี่ฝางกอดเธอแน่น โดยที่ไม่ขัดขืนอะไร ก่อนจะยอมรับหมัดของฉินวี่เฟย เธอเป็นหญิงคนเดียว ไม่ได้มีแรงมากมาย ถึงจะทำร้ายไปทั้งวัน หลี่ฝางเองก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร

“เชื่อฟังนะ อย่าร้องไห้เลย เดี๋ยวเครื่องสำอางลบออกหมดแล้วไม่สวยนะ” ลูบผมสลวยของฉินวี่เฟยแล้ว เสียงอ่อนโยนของหลี่ฝางก็ทำให้คนละลายได้เลย

ทั้งสองคนนั้นไม่ได้เจอกันมานาน เลยมีเรื่องที่พูดไม่จบไม่สิ้นและเป็นความคิดถึงที่พูดอย่างไรก็ไม่จบ ใครก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ควรจะเข้าไปขัด

แต่ช่วยไม่ได้ว่าไอ้ผมเหลืองนั้นไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร ทั้งสองคนในรถพยุงคุณชายหวงขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็ชี้และด่าหลี่ฝาง

“ให้ตายเถอะ กล้ามาทำร้ายข้า อยากตายเหรอ?” ไอ้ผมเหลืองจับท้องของตัวเองที่ถูกเตะ พลางจ้องหลี่ฝางด้วยความเกลียดชัง

เหมือนกับพวกเขาไม่รู้จักคนของยุทธภพ เลยมองความเก่งกาจของหลี่ฝางไม่ออก และคิดเพียงว่าเขานั้นเข้ามาขัดช่วงสำคัญ ทำให้เรื่องของตัวเองนั้นเสีย

คนที่กำลังคุยกับฉินวี่เฟยอย่างอ่อนโยนอย่างหลี่ฝางนั้นเมื่อได้ยินไอ้ผมเหลืองพูด ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะมองไปที่พวกไอ้ผมเหลืองด้วยแววตาเย็นชา พลางไล่ให้ไสหัวไปอย่างไม่แยแส

คนธรรมดาแบบนี้หลี่ฝางเก็บกวาดได้อย่างไม่แยแส ถ้าเกิดไม่ได้จัดกำลังให้ดี ทั้งสามคนเกรงว่าจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างตอนนี้เขาแค่อยากจะพูดกับฉินวี่เฟย ไม่อยากให้ใครมารบกวน

“เด็กดี เรากลับบ้านกันก่อนเถอะ” คนที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นอารมณ์เย็นลงแล้ว หลี่ฝางก้มหน้าลงมาจูบตาของฉินวี่เฟยที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ก่อนจะจูงมือเธอเพื่อเดินเข้าไปในบ้าน

แต่ไอ้ผมเหลืองโอ้อวดตัวเองนั้นหลี่ฝางกลับเมินเฉยไป ท่าทีโอ้อวดของเขานั้นกลับทำให้พวกไอ้ผมเหลืองโกรธขึ้นมา จึงเห็นเพียงพวกเขาควักมีดออกมาจากรถ ก่อนจะปรี่เข้ามาฟันหลี่ฝาง

“โอ้ย!หลี่ฝางระวังนะ!” ฉินวี่เฟยตกใจจนขาอ่อน พลางร้องเสียงหลงเพื่อเตือนหลี่ฝาง

ส่วนหลี่ฝางกลับไม่ได้มีแววตาที่ขยับเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะปล่อยพลังของตัวเองออกมาจนทำให้ไอ้ผมเหลืองทั้งสามนั้นพลิกตลบไปกองอยู่กับพื้น แรงกดที่มากมายนั้นทำให้พวกเขาทั้งสามกระอักเลือด

มันน่าตลกจริงๆ เลย หลี่ฝางที่ถูกยิงก็ไม่ตายนั้น จะมาบาดเจ็บเพราะมีดงั้นเหรอ?

พวกไอ้ผมเหลืองนั้นมองหลี่ฝางเหมือนเห็นผี ฉากที่โผล่มาแต่ในนิยายกำลังภายในนั้นมาเกิดกับตัวของพวกเขาเอง ถ้าไม่เจ็บปวดเจียนตาย พวกเขาจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่แน่นอน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน