NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1186 เข้าสู่ซากปรักหักพังลึกลับอีกครั้ง

บทที่ 1186 เข้าสู่ซากปรักหักพังลึกลับอีกครั้ง

อันที่จริงนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายปีมานี้กู่ยี่เทียนถึงไม่มีแฟนสักที แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน ไม่แน่พรุ่งนี้ที่เขาทำภารกิจอยู่อาจจะเสียชีวิตก็เป็นได้

คนที่มองไม่เห็นอนาคต ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเรียกร้องความสุขที่เรียบง่ายแบบนั้น

“ฉันห้ามไม่ให้พี่พูดแบบนี้! พี่ต้องโค่นล้มอาซาโทสได้แน่! ลูกพี่ใหญ่พี่เก่งขนาดนี้ จะแพ้ได้ยังไง! ถ้าหาก ถ้าหากพี่ไม่มีชีวิตกลับมา ฉันจะต้องไปหาพี่แน่ มีชีวิตต้องเห็นร่าง ตายต้องเห็นศพ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของกู่ยี่เทียน หงส์แดงไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป โผเข้ากอดเอวของกู่ยี่เทียนแน่น น้ำเสียงคำรามประโยคของกล้ำกลืน

เมื่อรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของหญิงสาว ร่างของกู่ยี่เทียนแข็งทื่อ เขาต้องผลักหงส์แดงออกในทันทีแต่แรก แต่เขากลับโอบหญิงสาวในอ้อมกอดราวต้องมนต์

เมื่อเห็นหงส์แดงที่สะอึกสะอื้น กู่ยี่เทียนถอนหายใจอย่างไร้หนทาง “ฉันแค่พูดไปเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะตายจริงๆ ซะหน่อย โตขนาดนี้แล้วยังจะขี้แยอีก หากพวกเสือขาวมาเห็นต้องล้อเธอแน่”

“ฉันไม่สน คำพูดอัปมงคลแบบนี้พูดไม่ได้! ยังไงปกติพวกเขาก็ล้อฉันเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ขาดคราวนี้หรอกหนเดียวหรอก หากพี่ หากกล้าไปเองคนเดียวก่อน ต่อให้ฉันไล่ตามไปถึงยมบาลก็ต้องไปอัดพี่แน่!”

ยังไงกอดก็กอดแล้ว คราวนี้หงส์แดงสู้ตาย ตอนนี้เธอไม่ได้มองเขาเป็นหัวหน้าแต่อย่างใด ทว่ามองเขาเป็นชายที่ตนรักคนหนึ่ง

ประโยคที่เผด็จการและเอาแต่ใจเล็กน้อยของเธอ กู่ยี่เทียนได้แต่ตอบด้วยรอยยิ้ม “โอเค ฉันจะไม่พูดแบบนี้อีก ฉันรับรองว่าจะมีชีวิตกลับมา แบบนี้โอเคไหม? ถ้าเธอยังไม่ปล่อยฉันอีก จะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้นะ”

ได้รับการรับรองจากกู่ยี่เทียน หงส์แดงถึงได้ใช้แรงปาดน้ำตาทิ้ง ก่อนที่จะละออกจากอ้อมกอดของเขาอย่างเคอะเขิน

หลี่ฝางที่อยู่ไกลออกไปเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของคนทั้งคู่ เห็นว่าคุยกันพอสมควรแล้ว จึงเดินเข้ามา “เหล่ากู่ ได้เวลาแล้ว เราไปกันเถอะ”

รับกระเป๋าเป้ในการปีนเขา กู่ยี่เทียนพยักหน้า “อืม ไปกันเถอะ”

“เสี่ยวหงส์แดง ผมจะดูแลหัวหน้าของคุณเป็นอย่างดีเลย เธอวางใจเถอะ แล้วก็ฝากพวกคุณช่วยดูแลคนในครอบครัวของผมด้วยนะ โดยเฉพาะทางด้านวี่เฟย หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้คนไปปกป้องความปลอดภัยของเธอ” หลี่ฝางที่เห็นหงส์แดงยังคงอาลัยจึงหยอกล้อขึ้น

แม้เขาจะให้ราฟาเอลปกป้องฉินวี่เฟยอย่างลับๆ แต่ก็ยังไม่ไว้วางใจ หากศัตรูของเขาถือโอกาสที่เขาเข้าสู่ห้วงเวลาซากปรักหักพังลึกลับ ไปหาเรื่องฉินวี่เฟย ราฟาเอลคนเดียวก็ยากที่จะรับมือได้ทั้งหมด เพราะงั้นให้พวกหงส์แดงช่วยดูแลอีกแรงค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย

“แค่ช่วยดูแลฉินวี่เฟย? แล้วผู้หญิงอีกคนไม่ต้องสนใจหรือไง?”

เรื่องของหลี่ฝางและหยางฉงสำหรับหงส์แดงและคนอื่นๆ แล้วไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด เป็นผู้หญิงเหมือนกัน หงส์แดงรังเกียจผู้ชายที่เหยียบเรือสองแคมเป็นที่สุด นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้เธอได้พบหลี่ฝางถึงได้หาเรื่องเขาตลอด

เมื่อได้ยินหงส์แดงพูดถึงหยางฉง หลี่ฝางนิ่งไป อันที่จริงช่วงนี้หยางฉงจะส่งข้อความและโทรหาเขาทุกวัน เพียงแต่เขาไม่เคยตอบกลับเลยสักครั้ง

ข้อแรกเพราะเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าต่อหยางฉงยังไงดี ข้อสองคือเขาตัดสินใจที่จะตัดขาดกับหยางฉง การติดต่อกันมากเกินไปมีแต่จะทำให้เขาลังเลยิ่งไปกว่าเก่า

“ทางด้านหยางฉงแล้วแต่พวกคุณเห็นสมควร เรื่องราวไม่ได้ใหญ่โตก็ไม่ต้องสนใจไป หากเธอไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาแล้วจริงๆ พวกคุณค่อยยื่นมือช่วยเหลือ”

ท้ายที่สุดหลี่ฝางก็ไม่ใจเด็ดพอที่จะไม่สนใจหยางฉง คิดซะว่าเพื่อตอบแทนที่เธอช่วยชีวิตเขาเอาไว้

“เหอะ ผู้ชายสารเลว” หงส์แดงทำตาขาวใส่หลี่ฝาง เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะแยแสเขามากนัก

หลี่ฝางยิ้มอย่างขมขื่น เบื่อที่จะแก้ตัวให้กับตนเอง ผู้ชายสารเลวก็ผู้ชายสารเลวแล้วกัน ความผิดที่ตนกระทำตัวเขาก็ต้องยอมรับผลของมันเอง

เมื่อสักครู่ถือโอกาสที่กู่ยี่เทียนและหงส์แดงคุยกัน หลี่ฝางได้ส่งข้อความกลุ่มในโทรศัพท์ บอกฉินวี่เฟยและคนอื่นๆ ว่าเขาอาจจะขาดการติดต่อไปสักระยะหนึ่ง ให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงรอเขากลับมา

นอกจากนี้เขายังติดต่อหาไท่ซางช่วงนี้ให้เขาอยู่ตระกูลหยางไปก่อน เพื่อให้การสนับสนุนหยางฉงแทนเขา ยังไงซะท่านปู่หยางเพิ่งเสียไปไม่นาน วิกฤติของตระกูลหยางยังไม่คลี่คลายดี หยางฉงที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะควบคุมตระกูลหยางต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

สนามแม่เหล็กในซากปรักหักพังลึกลับมีความแปลกประหลาดมากเมื่อเข้าไปแล้วจะขาดการติดต่อกับโลกภายนอก ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ต่างก็ใช้ไม่ได้ ดีที่องค์กรต้าเซี่ยหลงเช่วได้คิดค้นอุปกรณ์พิเศษชิ้นหนึ่ง ที่ทำให้หลี่ฝางติดต่อกับคนที่อยู่ที่ปากทางเข้าได้

หลังเตรียมอุปกรณ์และทุกอย่างเสร็จแล้ว หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนจึงเข้าไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ เมื่อเข้าสู่บริเวณปีศาจซากปรักหักพัง หลี่ฝางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าสนามแม่เหล็กเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้วแรงกว่าไม่น้อย

แถมพลังงานในนี้เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แข็งแกร่งกว่ามาก หากไม่ใช่เพราะเขาและกู่ยี่เทียนเป็นครึ่งเทพ แค่จะอยู่ในนี้ให้นานสักหน่อยก็ยังยาก

“ทางที่ดีเราสองคนอย่าแยกจากกัน ในซากปรักหักพังลึกลับประหลาดมาก แถมอาซาโทสก็อยู่ในนี้ด้วย หากเราแยกกัน คงจะอันตราย”

มีประสบการณ์จากครั้งก่อน หลี่ฝางค่อนข้างชำนาญในซากปรักหักพังลึกลับ เดินทางไปด้วยพลางกำชับกู่ยี่เทียน

“หลี่ฝาง แกรู้สึกไหมว่าบรรยากาศในซากปรักหักพังแตกต่างจากด้านนอก?” กู่ยี่เทียนกวาดมองป่าทึบต้นไม้ใหญ่กว่าปกติรอบด้าน ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย

เมื่อถูกเขาเตือน หลี่ฝางถึงได้ตรวจสอบบรรยากาศรอบด้าน เป็นอย่างที่ว่า บรรยากาศในซากปรักหักพังลึกลับแตกต่างจากด้านนอก

ตอนนี้โลกภายนอกเป็นช่วงที่ร้อนอบอ้าว ต้นไม้ต่างเขียวขจีทั้งสิ้น แต่ต้นไม้ใบหญ้าในซากปรักหักพังลึกลับกลับเหี่ยวเฉา เป็นฤดูใบไม้ร่วงเห็นๆ

ที่มันอะไรกัน? ครั้งก่อนที่เขาเข้ามาที่ซากปรักหักพังลึกลับไม่ได้เป็นแบบนี้

“แกว่าของในนี้กินได้ไหว?” เผชิญหน้าต่อเหตุการณ์ประหลาดนี่ กู่ยี่เทียนกลับมีอารมณ์ล้อเล่น จบประโยคเขาจึงยื่นมือเด็ดผลไม้จากต้นไม้

“ระวัง!”

มือของกู่ยี่เทียนเพิ่งจะแตะผลไม้ หลี่ฝางก็ออกกระบวนท่า มีดเล่มหนึ่งพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของกู่ยี่เทียนลอยออกไป กู่ยี่เทียนตกใจจนตัวสั่น “ให้ตาย แกคิดว่าลอบฆ่าใช่ไหม!”

หลี่ฝางอยากจะอัดกู่ยี่เทียนสักหมัด ให้ตายเวลาที่ควรจะจริงจังกลับไม่จริงจัง “บัดซบ หากข้าไม่ช่วย แกคงตายไปแล้ว!”

เขากล่าวพลางเดินไปด้านหลังของกู่ยี่เทียน ก็ได้พบกับงูสีแดงเพลิงที่รัดอยู่บนต้นไม้ใหญ่เท่าถังน้ำ ต่อให้มีดพกแทงเข้าที่ตัวของมัน แต่ก็ยังนิสัยดุร้ายข่มขู่ด้วยพลังอันล้นหลาม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท