NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1187 เวลาที่ผิดแปลก

บทที่ 1187 เวลาที่ผิดแปลก

“ก็แค่งูเล็กตัวเดียวไม่ใช่หรือไง? เป็นถึงครึ่งเทพอย่างฉัน จะถูกงูตัวเล็กๆ นี่กัดตายหรือไง”

สิ้นสุดคำของกู่ยี่เทียน พลันยื่นมือออกไปหวังจับกุมงูเล็กนั้น กลับถูกหลี่ฝางเตะปลิวเสียก่อน

“แกรู้ไหมว่านี่มันงูอะไร? ถึงได้กล้าจับมัน!” หลี่ฝางคำรามด้วยความโกรธฟึดฟัด หากไม่เห็นว่ากู่ยี่เทียนมีความสามารถระดับครึ่งเทพ เขาไม่มีทางพาไอ้หมอนี่เข้ามาที่ซากปรักหักพังลึกลับนี่ด้วยแน่

อย่ามองว่างูสีแดงภายนอกมีสีสดใส รูปลักษณ์สวยงาม แต่มันกลับเป็นสัตว์พิษหนึ่งในห้าที่ร้ายแรงที่สุด หรือแม้กระทั่งฟันของมันแหลมจนสามารถทิ่มแทงผิวหนังของคนได้อย่างง่ายดาย หากโดนมันกัดเข้าละก็ แม้แต่เทพองค์เองก็ช่วยอะไรไม่ได้

แต่ดีที่งูชนิดนี้ความต้องการต่อสิ่งแวดล้อมค่อนข้างสูง ได้เคยพบเห็นแค่ในซากปรักหักพังลึกลับเท่านั้น

กู่ยี่เทียนนวดเอวที่แทบจะหักของตนเอง ถลึงตาโตใส่หลี่ฝางอย่างไม่พอใจ “ความอดทนของกูมีขีดจำกัดนะโว้ย หากแกกล้าทำร้ายกูอีก กูไม่เกรงใจแล้วนะ!”

“ถ้าโดนงูนั่นกัดเข้าละก็ แกรอตายได้เลย ต่อจากนี้ ทุกอย่างต้องฟังคำสั่งจากฉัน ทางที่ดีอย่าแตะอะไรในซากปรักหักพังนี่ดีกว่า อย่าไปไหนมั่วซั่วด้วย ถ้าแกตายขึ้นมา ฉันไม่รับผิดชอบนะ”

หลี่ฝางเบื่อที่จะอธิบายกับกู่ยี่เทียน พลางแค่กำชับด้วยความเย็นชา จึงกลับหลังไปกลับไปจัดการกับงูสีแดงตัวนั้น

งูพวกนี้ ผิวหนังของมันมีผิวร้ายแรง หากสัมผัสด้วยมือโดยตรง ทำให้ประสาทของเราชาทันที ชาอย่างที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้อีก ถึงขั้นอัมพาต

ดีที่ก่อนที่จะเข้ามาที่ซากปรักหักพังหลี่ฝางนึกถึงเหตุการณ์นี้ก่อนอยู่แล้ว จึงได้กำชับให้ลูกน้องช่วยเตรียมถุงมือยางเอาไว้ให้แล้ว เขาสวมถุงมือยาง จับงูเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างดึงมีดพกออกมาจากต้นไม้

“ช่วยเอาขวดสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋าฉันที” เขาออกคำสั่งกับกู่ยี่เทียนโดยไม่แม้แต่แหงนหน้าขึ้น อีกฝ่ายไม่พอใจนัก แต่ก็ทำตามคำสั่งด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

“ในเมื่องูนี่พิษแรงขนาดนี้ ทำไมนายไม่ฆ่ามันไปเลยล่ะ นายทำอะไรอยู่?”

เมื่อเห็นหลี่ฝางง้างปากของงูออก รีดเอาพิษใส่ขวดสีน้ำตาล กู่ยี่เทียนกล่าวถามอย่างรังเกียจ

แม้ว่ากู่ยี่เทียนจะไม่กลัวอะไร แต่เมื่อเห็นสัตว์เลื้อยคลานที่ไร้ขนผิวลื่นแบบนี้ แต่ก็รู้สึกขนลุกซู่

หลี่ฝางเก็บพิษงูอย่างระแวดระวัง เพื่อแนวคิดการประหยัด เขาแทบจะอยากลอกหนังงูที่มีพิษที่ออกมาด้วย

การถลกหนังเป็นๆ นองเลือดอย่างมาก กู่ยี่เทียนที่ดูเหตุการณ์อยู่อีกด้านหนังตากระตุกไม่หยุด ให้ตายหลี่ฝางเป็นคนมีรสนิยมรุนแรงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“แกแกแก น่าสะอิดสะเอียนเกินไปรึเปล่า? แม้หนังงูนี่จะสีแดงเพลิงร้อนแรง ดูสวยงาม แต่นายก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใจร้ายถึงขนาดถลกหนังมันเลยนี่”

“แกจะไปรู้อะไร! อาซาโทสเขามีลูกน้องสิบสองคน แกแน่ใจหรือว่าเราสองคนจะหนึ่งต่อสิบสามได้? งูสีแดงนี่เป็นของพิเศษของซากปรักหักพังลึกลับนี่ พิษในตัวแทบจะไร้ทางแก้ ฉันเก็บพิษและหนังของมันเอาไว้ เพื่อเอามาสร้างอาวุธลับ ให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับอาซาโทสและพวกของมัน”

หากไม่ใช่เพราะต่อจากนี้ต้องเพิ่งกู่ยี่เทียนเพื่อเอาชนะการต่อสู้ หลี่ฝางไม่อยากจะแยแสเขาด้วยซ้ำ หลังเก็บพิษงูและถลกหนังงูเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลี่ฝางทำการสร้างอาวุธอย่างไม่รอช้า

พิษงูไม่เยอะมากนัก เพียงแค่สองหยดเท่านั้น เขาจึงถูมันบนเข็มเหล็กมีพกมาด้วยในตัว ทั้งหมดมีสิบสองเข้ม เมื่อได้ผสมพิษของงูเข้าไป รับรองว่าพิษร้ายกาจจนมิอาจต้านได้แน่

หรือแม้แต่หนังงู เขาใช้พลังงานภายในทำให้แห้ง แล้วบดเป็นผงสีแดงเข้ม หากคนสูดเข้าไปแม้เพียงนิดเดียว ไม่ถึงสามวินาทีก็จะอัมพาตทันที

เมื่อจ้องมองอาวุธลับที่ถึงแก่ชีวิต หลี่ฝางเผยรอยยิ้มอย่างเจ้าเลห์ ต่อให้อาซาโทสอยู่เหนือกว่าเขาแล้วยังไง ต่อให้เหนือแค่ไหนก็หนีไม่พ้นการลอบฆ่าอยู่ดี

ขณะที่เขาสร้างอาวุธลับเสร็จไม่นาน อุปกรณ์พิเศษที่ใช้ติดต่อกับโลกภายนอกก็ดังขึ้น ทำให้กู่ยี่เทียนและหลี่ฝางตกใจแทบแย่

“ฮัลโหล ลูกพี่ใหญ่……หลี่ฝาง พวกคุณ……ได้ยินไหม? โหลโหลโหล ลูกพี่ใหญ่ หลี่ฝาง ได้ยินแล้ว……ตอบด้วย!”

เสียงของมังกรฟ้าแล่นผ่านมาตามอุปกรณ์ แม้เสียงจะขาดๆ หายๆ แต่หลี่ฝางทั้งคู่ก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน กู่ยี่เทียนรีบตอบกลับ

“รับทราบ รับทราบ ฉันคือกู่ยี่เทียน ฉันกับหลี่ฝางเราปลอดภัยดี”

ผ่านไปประมาณสิบวินาที เสียงของเสือขาวแล่นผ่านมายังอุปกรณ์อีกครั้ง “ลูกพี่ใหญ่! พี่จริงๆ ใช่ไหม? ให้ตาย ติดต่อพี่ได้สักที!”

หลี่ฝางทั้งคู่ได้ยินอย่างงั้นฉงนอย่างมาก พวกเขาเข้ามาที่ซากปรักหักพังไม่นาน แต่คำพูดของเสือขาวเหมือนว่าเราหายไปนานมากอย่างไรอย่างงั้น กู่ยี่เทียนกล่าวถามอย่างประหลาดใจ

“เสือขาว เกิดอะไรขึ้น? เราตกลงกันแล้วนี่ ว่าหนึ่งชั่วโมงติดต่อกันที ยังไม่ถึงเวลาเลย ทำไมพวกนายถึงส่งสัญญาณมาล่ะ”

สิ่งนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตกลงกันเอาไว้ หลี่ฝางร้อนรนขึ้นมาทันที หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้างนอกนั่นรึเปล่า? เมื่อคิดได้อย่างนั้น เขาแย่งอุปกรณ์สื่อสารมาจากมือของกู่ยี่เทียน พูดกับอุปกรณ์อย่างร้อนใจ

“เสื้อขาว นี่ฉันหลี่ฝางนะ ข้างนอกนั่นเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า? วี่เฟยไม่เป็นอะไรใช่ไหม สถานตากอากาศล่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?”

เสือขาวที่เฝ้าหน้าทางเข้าที่คิดจะตอบคำถามของกู่ยี่เทียน เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝางเขาทำตาขวางอย่างไม่พอใจ เบาะปากสบถอย่างไม่พอใจ “วี่เฟยเธอเลิกกับแกไปแล้ว แกจะยุ่งกับเธออีกทำไมกัน”

“อย่าพูดมาก รีบตอบคำถามกูมา” หลายวันมานี้หลี่ฝางดูก่นด่าเพราะเรื่องนอกใจมาตลอด ในใจเขาเองก็โกรธมากไม่แพ้กัน ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อได้ยินประโยคของเสือขาวแล้วทำให้เขาเกิดไร้ความอดทนขึ้นมา จนต้องระเบิดอารมณ์ออกมา

ไฟโกรธที่ปะทุขึ้นมากะทันหันทำให้เสือขาวสะดุ้งอย่างตกใจ เขาบ่นอุบกับอุปกรณ์สื่อสารว่าประสาทก่อนที่จะยื่นมันให้กับมังกรฟ้า

“ข้างนอกทุกอย่างเรียบร้อยดี หลี่ฝางอย่าโกรธเลย”

เมื่อได้ยินมังกรฟ้าบอกว่าวี่เฟยและคนอื่นๆ ไม่เป็นอะไร หลี่ฝางถึงได้คลายความโกรธ แต่ความหงุดหงิดในใจกลับไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อย

ตามหลักแล้ว เขาไม่ใช่คนที่โมโหง่าย เมื่อก่อนเสือขาวก็ต่อปากต่อคำกับเขาอยู่ไม่น้อย เขาไม่เคยโมโหเลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่มันไม่ปกติแล้ว!

“หลี่ฝาง นายใจเย็นก่อน ฉันจะพูดกับมังกรฟ้าเอง” เมื่อรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของหลี่ฝาง กู่ยี่เทียนตบบ่าของเขา พร้อมปลอบใจ

หลี่ฝางเองก็รู้ตัวว่าอารมณ์ของเขาผิดปกติ จึงพยักหน้ายื่นเครื่องมือสื่อสารให้กับกู่ยี่เทียน ก่อนที่ตนจะเดินไปอีกทางเพื่อสงบสติ

“ลูกพี่ใหญ่ ซากปรักหักพังนี่ประหลาดมาก พี่บอกพี่อยู่ในนั้นไม่ถึงชั่วโมง แต่เราอยู่ข้างนอกจะสามวันแล้ว สามวันมานี้เราติดต่อพี่มาตลอด แต่ไม่ว่าจะติดต่อยังไงก็ไม่ได้ผล”

ประโยคของมังกรฟ้าทำให้กู่ยี่เทียนขมวดคิ้วอย่างสงสัย เมื่อสักครู่เขาพบว่าบรรยากาศในซากปรักหักพังลึกลับนี่ต่างจากข้างนอก แต่ไม่คิดเลยว่าจะมากมายขนาดนี้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท