NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1191 เปลี่ยนแปลง

บทที่ 1191 เปลี่ยนแปลง

ชิวคุนจ้องมองชาวต่างชาติที่สูงกว่าตนเกือบครึ่ง ได้แต่พยักหน้าอย่างยอมรับชะตากรรม เขาไม่กล้าปฏิเสธ เขามั่นใจว่าหากเขาปฏิเสธข้อเสนอของคนผิวดำ เขาก็จะต้องไปพบเจอยมทูตแน่

“ถือว่าแกเป็นคนเข้าใจได้ง่าย กินไอ้นี่ลงไปซะ” ไม่รู้ว่าโจนีไปเอาก้อนสีดำขลับมาจากไหน กลิ่นค่อนข้างฉุน “เนื้อ” ให้ตรงหน้าของเขา

เมื่อเห็นเนื้อก้อนสีดำนี่ ชิวคุนเกิดต่อต้าน แต่ภายใต้ความดุดันของทั้งสาม เขาได้แต่กัดฟันยัดชิ้นเนื้อเข้าปาก

กลิ่นอายที่ฉุนจัดของมันแทบจะทำให้เขากระอักเข้าอาหารที่ทานเข้าไปข้ามคืนออกมา ในขณะที่เขาคิดที่จะคายเนื้อออกมา คนผิวขาวกลับยัดเนื้อเข้าไปในปากของเขา

เมื่อกลืนเนื้อลงไป ชิวคุนก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างแสบร้อน เสมือนกับกลืนน้ำกรด ความเจ็บปวดทรมานแบบนี้เขาไม่สามารถทนได้ พลันกุมท้องเกลือกกลิ้งไปทั่วพื้น

เสียงโอดครวญของชิวคุนค่อยๆ เบาลง จนท้ายที่สุดกลายเป็นถ่านสีดำไปทั้งตัว

“ถุย ดูเหมือนว่าจะล้มเหลวอีกแล้ว ไร้ประโยชน์สิ้นดี” โจนีเหลือบมองชิวคุนที่อยู่บนพื้นอย่างรังเกียจ ยกฝีเท้าขึ้นคิดที่จะเดินออกไป

แต่คนผิวดำกลับไปคิดที่จะไป ทว่ายืนจ้องชิวคุนอยู่อย่างนั้น

“ลูกพี่ใหญ่ รออะไร? เขาตายไปแล้ว เราไปหาเป้าหมายใหม่เถอะ” โจนีเห็นว่าเขาไร้การเคลื่อนไหว จึงกล่าวเร่งอย่างไร้ความอดทน

แต่ต่อมา ถ่านสีดำที่พื้นเกิดเสียงแตกออก ชิวคุนที่ตายไปแล้วกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมา

ชิวคุนที่แตกออกเหมือนกับเป็นคนใหม่ มือทั้งสองข้างที่ถูกราฟาเอลหักฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ แดนของชิวคุนก็พัฒนาจากกำลังภายนอกเป็นกำลังภายในชั้นกลาง

“ฉัน ฉันฟื้นคืนชีพแล้ว? ฉัน ฉันทะลุแดนแล้ว! กำลังภายในชั้นกลาง!”

ชิวคุนตรวจสอบร่างกายของตนเองอย่างยากที่จะเชื่อ เสมือนกับว่าทุกอย่างราวกับฝัน

“ถุย กำลังภายในชั้นกลาง ดูเหมือนว่าเมื่อกี้นี้ฉันจะให้ค่ามันสูงไปหน่อย ลูกพี่ใหญ่ กำลังภายในชั้นกลางเรามีออกมากมาย ไอ้ชิวคุนนี่ผมว่าปลิดชีพมันไปเถอะ”

ทำให้ชิวคุนที่พัฒนาอย่ารวดเร็วเป็นพวกไร้ประโยชน์ไปต่อหน้าโจนี สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาอย่างมาก แถมโจนียังบอกว่าจะฆ่าเขาทิ้ง ชิวคุนคุกเข่าลงทันที เพื่อร้องขอชีวิต

“พี่ทั้งหลาย ขอร้องล่ะอย่าฆ่าผมเลย! ผมยอมรับว่าต่อหน้าพวกพี่ผมก็แค่ขยะเท่านั้น แต่ผมสาบาน ต่อจากนี้ผมชิวคุนจะเป็นหมาของพี่ พวกพี่ให้ผมทำอะไรผมจะไม่ขัดคำสั่งเลย”

“ถุย ฉันให้แกทำอะไรก็จะทำงั้นหรือ? ถ้าฉันสั่งให้แกไปตายล่ะ แกจะไปไหม?” โจนีจ้องมองชิวคุนอย่างนึกสนุก ดูเหมือนว่ามีความสุขมากที่เย้าแหย่เขาแบบนี้

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ชิวคุนนิ่งไป ใบหน้าของเขาราวกับร่างที่ไร้วิญญาณ โจนีหัวเราะลั่น คนผิวดำเหลือบมองโจนีอย่างราบเรียบ โจนีหุบปากเงียบในทันที

ชิวคุนที่คุกเข่าอยู่กับพื้นราวกับมดตัวหนึ่งอย่างอนาถ คนผิวดำฉีกยิ้มพร้อมกล่าว

“กำลังภายในชั้นกลางสำหรับเราแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่เรายังมีอีกวิธี ทำให้แกพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่า แกต้องไปลักพาตัวคนหนึ่งมาให้เรา พาเธอมาให้กับเรา”

เมื่อได้ยินคนผิวดำกล่าวว่าจะไม่ฆ่าเขา แถมยังพัฒนาความสามารถให้กับเขาได้อีกต่างหาก ชิวคุนหวั่นไหว ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาที่ได้เกิดใหม่ราวกับว่ามีจิตใจครอบงำ ในหัวของเขามีความคิดที่จะสังหารคนตลอดเวลา ความรู้สึกนี้ทำไมเขาทั้งหวั่นเกรงและตื่นเต้น

“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ไว้เป็นหน้าที่ของผมเอง!” ชิวคุนในตอนนี้ถูกโจนีและพวกล้างสมองโดยสิ้นเชิง ยอมทำตามข้อเสนอของเขาอย่างไร้ข้อกังขา

แม้เนื้อสีดำชิ้นนั้นจะน่าขยะแขยง แต่กลับทำให้ชิวคุนพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ทำให้ชิวคุนเชื่อใจเหล่าโจนีอย่างหมดใจ เขาในตอนนี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาตนเอง

ทุกอย่างขอเพียงแค่เขาแข็งแกร่งเท่านั้น

สายตาแห่งความโลภต่อพลัง คนผิวดำเผยรอยยิ้มมุมปาก เขาประชิดใบหูของชิวคุน กระซิบอย่างแผ่วเบา

ดวงตาของชิวคุนเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตนได้ยิน “พี่ใหญ่ วิธีที่พี่บอกใช้ได้จริงๆ ใช่ไหม? การดูดพลังของคนอื่น? นี่มัน……”

“ฮ่า วิธีฉันได้บอกแกไปแล้ว จะใช้หรือไม่ขึ้นอยู่กับแกเอง” โจนียิ้มเยาะ ก่อนกล่าว “อืม ลืมบอกแกไป เนื้อที่แกกินเข้าไป หากไม่กินชิ้นที่สองก่อนครึ่งเดือน แกก็จะตาย ควรจะทำยังไง แกคิดเอาเองแล้วกัน”

ตอนนี้ต่อให้ไม่อยากฟังคำสั่งของเขาก็ไม่ได้แล้ว

“ผมจะทำ! ว่ามาเลย พวกคุณจะลักพาตัวใคร?” กัดฟันกรอด ในที่สุดชิวคุนก็ตอบตกลงคำร้องขอของคนผิวดำจนได้ ยังไงซะตอนนี้นอกจากทางนี้แล้วเขาไม่มีทางอื่นอีก ถ้างั้นก็ลองดูสักตั้ง

“คนคนนี้แกก็รู้จัก นั่นก็คือฉินวี่เฟย”

หลังได้ยินชื่อของฉินวี่เฟย สายตาของชิวคุนฉายแววไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อชายผิวดำเห็นอย่างนั้น พยักหน้าอย่างพึงพอใจ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้หาชิวคุน

หลังจากที่หลี่ฝางเข้าไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ พวกเขาก็คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของฉินวี่เฟยมาโดยตลอด เพราะพวกเขามีสถานะเป็นชาวต่างชาติ ไม่สะดวกในการเคลื่อนไหวในประเทศจีน เพราะงั้นพวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนผู้ที่มีความสามารถมาเป็นหมาก

วันนี้เรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าบริษัทของฉินวี่เฟยพวกเขารู้เรื่องแล้ว ชิวคุนที่เกิดความแค้นต่อฉินวี่เฟยและราฟาเอล เป็นอาวุธที่ดีที่สุด

“ผมให้เวลาคุณหนึ่งเดือน หนึ่งเดือนให้หลังพาฉินวี่เฟยมาที่หน้าท่าเรือตงกั่ง เราจะไปพบคุณที่นั่น”

คนผิวดำทิ้งชิ้นเนื้อเอาไว้ให้เขาชิ้นหนึ่ง ก่อนที่จะออกไปกับเหล่าโจนี ชิวคุนจ้องมองชิ้นเนื้อที่พื้นอยู่นาน ก่อนที่จะเก็บเนื้อชิ้นนั้นขึ้น หาอุปกรณ์ใส่เอาไว้อย่างระแวดระวัง เก็บเอาไว้ในตู้เย็น

เมื่อสักครู่คนผิวดำบอกวิชาลับบางอย่างกับเขา เขาสามารถใช้วิชาลับนี้เพื่อดูดพลังของคนอื่น เพื่อพัฒนาตนเอง

บอกตามตรง พลังที่ได้มาโดยไม่ต้องเสียแรงช่างดึงดูดใจ หากฝึกวิชาลับนี้ได้ เขาก็จะไม่ต้องทนฝึกอย่างยากลำบากอย่างที่ผ่านมา เพียงแค่หานักรบที่พลังน้อยกว่าเขาแล้วดูดพลังของเขามา

ชิวคุนยิ่งคิดยิ่งระงับความโลภของตนเองไม่อยู่ เพื่อยืนยันผลลัพธ์ของวิชาลับ เขากดโทรหารุ่นพี่ที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปีอย่างงมงาย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท