NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1195 ตัดสินใจไปหาหลี่ฝาง

บทที่ 1195 ตัดสินใจไปหาหลี่ฝาง

“เสี่ยวฉง ไม่ต้องร้องแล้ว เพราะผู้ชายห่วยๆ แบบนั้นไม่คุ้มค่า ในเมื่อเขามีผู้หญิงคนใหม่แล้ว งั้นเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตายอยู่กับพวกสารเลว ผู้ชายที่ดีตามจีบเธอตั้งมากมาย อย่างมากเราก็แค่หาคนใหม่เท่านั้น”

เมื่อได้ยินคำปลอบใจตนอย่างนั้น หยางฉงส่ายหน้าร้องไห้โฮ “เหยาเหยา ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่แบบนั้น ก่อนที่หลี่ฝางจะความจำเสื่อมก็คบกับฉินวี่เฟยแล้ว พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานแล้ว”

หวางซีเหยาไม่เข้าใจในเรื่องของหลี่ฝางเท่าไหร่นัก ถึงตอนนี้เธอก็ยังคิดว่าหลี่ฝางนอกใจ ไปรักผู้หญิงอื่น เธอไม่คิดเลยว่าคนที่เป็นมือที่สามแท้จริงแล้วคือหยางฉง

หยางฉงเห็นว่าหวางซีเหยานิ่งไปนาน ฉีกยิ้มเย้ยหยันตนเอง

ที่แท้เป็นความผิดของเธอ เป็นเธอที่แทรกแซงความสัมพันธ์ของหลี่ฝางและฉินวี่เฟย ถือโอกาสที่หลี่ฝางความจำเสื่อมแย่งตำแหน่งของคนอื่น หลี่ฝางอ่อนโยนต่อเธอขนาดนั้น ดีต่อเธอ สิ่งเหล่านั้นเป็นของฉินวี่เฟย ตอนนี้หลี่ฝางฟื้นความจำแล้ว สมควรที่จะกลับไปยังข้างกายฉินวี่เฟย เธอเองก็ควรที่จะคืนให้กับเจ้าของตัวจริง

แต่ทำไม ทำไมเธอเข้าใจสิ่งเหล่านี้แท้ๆ แต่ในใจกลับไม่ยอมซะได้?

หยางฉงมองออก ในใจของหลี่ฝางมีเธออยู่ ไม่เช่นนั้นจะให้ไท่ซางอยู่ตระกูลหยางเพื่อช่วยเหลือเธอได้ยังไง ในเมื่อเธอเองก็รักกับหลี่ฝาง แล้วทำไมเธอต้องยอมถอยด้วย? ความสัมพันธ์ของคนสามคน จะให้ฉินวี่เฟยเป็นฝ่ายถอยไม่ได้หรือไง?

“เหยาเหยา ฉันไม่ยอม! หลี่ฝางเขาเองก็รักฉันแท้ๆ แต่ทำไมคนที่ต้องถอยคือฉัน? ฉันก็อยากอยู่กับเขาไปทั้งชีวิตเหมือนกัน!”

ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด หยางฉงกอดหวางซีเหยาร้องไห้จนแทบขาดใจ หวางซีเหยารู้สึกว่าเธอแทบคลั่ง หากตอนนี้หลี่ฝางอยู่ตรงหน้าเธอ เธอต้องอัดหลี่ฝางให้กลายเป็นหัวหมูไปเลย!

“เสี่ยวฉง อย่าร้อง! เธอหยุดร้องแล้วฟังฉันพูดก่อนได้ไหม?” ช่วยเช็ดคราบน้ำตาที่หางตาของหยางฉง ก่อนที่หวางซีเหยาจะจ้องมองเธอกล่าวอย่างจริงจัง

ร้องไห้มานาน หยางฉงเองก็ไม่มีน้ำตาแล้ว พลันกัดฟันฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้ มองหวางซีเหยาเงียบๆ รอเธอกล่าว

“เสี่ยวฉง เธอฟังฉันนะ เธอไม่ผิด เธอไม่รู้เรื่องราวในอดีตของหลี่ฝาง ทั้งหมดนี้เพียงเพราะชะตากลั่นแกล้งแค่นั้น”

“หากเธอไม่ยอมจริงๆ วางหลี่ฝางไม่ลง งั้นเธอก็ไปหาเขา นี่เป็นความรักของเธอ เธอต้องกล้าๆ หน่อย เธอไปหาเขา ไม่ว่าจะเลิกหรืออะไร เธอให้หลี่ฝางบอกเธอต่อหน้า”

หวางซีเหยาเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย สำหรับเธอแล้ว หลี่ฝาง ฉินวี่เฟยและหยางฉงทั้งสามคน ไม่มีคนผิด

ยังไงซะตอนนั้นหลี่ฝางความจำเสื่อมจำใครไม่ได้ ได้พบกับหยางฉงที่อ่อนโยน แถมยังเป็นผู้หญิงที่สวย ต่อให้เป็นผู้ชายคนไหนก็ต้องหวั่นไหว สถานการณ์ตอนนั้น หลี่ฝางถือว่าเป็นอีกคนอื่น เขาและหยางฉงรักกันและกันโดยสิ้นเชิง

ตอนนี้หลี่ฝางฟื้นความจำแล้ว เขาค้นพบว่าเขาตกหลุมรักสองคนในเวลาเดียวกัน เขาเลือกฉินวี่เฟยที่อยู่กับเขามานาน เป็นเรื่องที่ไร้ข้อสงสัย

แต่เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าหยางฉงจะต้องเป็นฝ่ายถอย เธอเองก็มีสิทธิ์ที่จะไปตามล่าความรักของตัวเอง

“เหยาเหยา แบบนี้ได้หรือ? ฉันไปหาเขาได้หรือ? ฉันไม่อยากไปทำลายความสัมพันธ์ของเขากับฉินวี่เฟย แต่ให้ฉันถอยแบบนี้ ฉันไม่พอใจ”

เมื่อได้ฟังคำของหวางซีเหยา หยางฉงหวั่นไหว แต่จิตใจบริสุทธิ์ของเธอก็ยังคงกังวล เธอไม่อยากทำร้ายใครทั้งนั้น

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หลี่ฝางเป็นแฟนหนุ่มของเธอ หรือเธอยอมให้เธอสลัดเธอทิ้งแบบมึนงงอย่างงี้หรือ? ไม่ว่าหลี่ฝางเลือกที่จะอยู่กับใคร เขาต้องให้คำตอบเธอ”

หยางฉงที่ลังเลตัดสินใจไม่ได้ หวางซีเหยามีความรู้สึกว่าคนที่สิ่งที่เธอคาดไม่ได้เป็นไปตามหวัง มีอะไรต้องลังเล ถ้ารักก็ตะโกนออกมาดังๆ ยังไงตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย

แม้เธอจะเกลียดมือที่สาม แต่อันที่จริงแล้วหยางฉงไม่ใช่มือที่สามซะหน่อยนี่! ในเมื่อเธอไม่ผิด เธอไม่ใช่มือที่สาม แล้วทำไมจะไปตามความรักของตัวเองไม่ได้ล่ะ?

ท้ายที่สุด ภายใต้การสนับสนุนของหวางซีเหยา หยางฉงตัดสินใจที่จะไปหาหลี่ฝาง

“โอเค เมื่อกี้เธอร้องไห้ จนตาบวม รีบไปล้างหน้าที่ห้องน้ำสิ หลังไปทานข้าวเป็นเพื่อนฉัน ปลอบใจเธออยู่ครึ่งค่อนวัน ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว”

หวางซีเหยาจ้องมองหยางฉงที่ชะงักร้องไห้เผยรอยยิ้ม พลันล้มลงบนโซฟาบิดขี้เกียจแล้วบ่นอุบ

หยางฉงล้างหน้าล้างที่ที่จมูกแดงก่ำไปแล้ว เข้าไปในห้องน้ำอย่างว่าง่าย หวางซีเหยาเป็นคนที่ชอบน้ำมันหอมระเหยมาก โดยเฉพาะในห้องน้ำ ที่มักมีน้ำมันหอมระเหยเอาไว้เสมอ

อันที่จริงน้ำมันหอมระเหยที่เธอใช้ค่อนข้างมีระดับ กลิ่นหอมมาก เพียงแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด วันนี้หยางฉงได้กลิ่นนี้แล้วอยากจะอาเจียน แถมยังไม่สามารถควบคุมได้อีก ไม่ทันได้พูดอะไร ก็อุ้มโถส้วมอ้วกแตก

หวางซีเหยาที่อยู่ห้องนั่งเล่นได้ยินเข้า จึงรีบวิ่งเข้ามา

“เสี่ยวฉง เธอเป็นอะไร?” หวางซีเหยาเห็นหยางฉงอาเจียนหนัก จึงรีบตบหลังพลางดูอาการของเธอ

ผ่านไปนาน หยางฉงถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เธอรู้สึกว่าเธอแทบอ้วกเอาน้ำดีออกมาด้วย “เหยาเหยา เธอเปลี่ยนน้ำมันหอมระเหยหรือ? ทำไมฉันได้กลิ่นน้ำหอมแล้วรู้สึกคลื่นไส้?”

หยางฉงที่ไม่ได้คิดมากคิดว่าเธอคงจะฉุนน้ำหอม แถมยังกล่าวถามหวางซีเหยาเรื่องเปลี่ยนน้ำหอมอย่างไร้เดียงสา

“เปล่านี่! น้ำหอมในห้องน้ำฉันไม่ได้เปลี่ยนมานานแล้ว……” หวางซีเหยาไม่ทันได้ไหมตัว จึงกล่าวตอบไปอย่างนั้น แต่พูดได้เพียงครึ่งก็รู้สึกถึงความผิดปกติ “เดี๋ยวนะ เสี่ยวฉง เดือนนี้ประจำเดือนของเธอมาหรือยัง?”

เมื่อได้ยินคำถามของหวางซีเหยา หยางฉงนิ่งไป เมื่อคิดดูให้ดีไม่เพียงแต่ประจำเดือนของเดือนนี้ไม่มา เดือนที่แล้วก็เหมือนว่าไม่ได้มา

เดือนที่แล้วเพราะเรื่องของคุณปู่ หยางฉงจึงไม่ได้ใส่ใจ ไปหาหมอ หมอเองก็บอกว่าเธอเหนื่อยเกินไป เธอจึงคิดว่าไม่มีอะไร

แต่ไม่มาสองเดือนติด ก็เท่ากับว่ามีปัญหา

“พระเจ้า เสี่ยงฉง เธอคงจะไม่……” เมื่อเห็นว่าหยางฉงนิ่งอึ้ง หวางซีเหยาเองก็ตื่นตระหนกเช่นเดียวกัน พลันปิดปากแน่นไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

“ฉัน ฉันไม่รู้ เหยาเหยา เธอไปร้านยาหาซื้อไอ้นั่นให้ฉันหน่อยได้ไหม?” หยางฉงลูปคลำท้องน้อยของตนเองตามสัญชาตญาณ พูดไม่ถูกว่าเธอรู้สึกยังไงกันแน่

หรือว่าเธอท้องลูกของหลี่ฝาง?

“ได้ ได้ เสี่ยวฉงเธอกลับไปนั่งที่โซฟาก่อน ฉันจะไปซื้อให้เธอเดี๋ยวนี้” แม้หวางซีเหยาไม่เคยท้องมาก่อน แต่ความรู้ขั้นพื้นฐานก็พอเข้าใจบ้าง ประคองหยางฉงอย่างระมัดระวังกลับไปที่ห้องรับแขก ก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่ร้านขายยา

ไม่นานหยางฉงก็กลับมาพร้อมกับที่ตรวจครรภ์สิบยี่ห้อ หยางฉงจ้องมองที่ตรวจครรภ์อย่างไร้คำพูด “เหยาเหยา เธอจะซื้อมาเยอะแยะทำไม?”

“โอ๊ย ฉันก็กลัวว่าแท่งเดียวจะไม่ตรง เสี่ยวฉงเธอรีบไปห้องน้ำเร็วเข้า ดูว่าเรื่องจริงไหม” หวางซีเหยาไม่ทันได้ใส่รองเท้า รีบยัดที่ตรวจครรภ์ใส่มือของหยางฉง เร่งเธออยู่อย่างงั้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท